“อนุทิน”สุดทนคนปล่อยข่าวชาวบ้านเสพกัญชาตาย ถามทำไมก่อนหน้านี้ไม่มีรายงานต้องการอะไร ชี้ก่อนวันที่ 9 มิ.ย. มีคนสูบอยู่แล้วหรือไม่ ยืนยันรับผิดชอบเฉพาะคนที่ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น โยนสังคมตัดสินพวกดิสเครดิตการเมือง
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ว.เสนอออกใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กัญชาระหว่างที่ยังไม่มี พระราชบัญญัติ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ว่า มีประกาศองกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ส่วนที่ ส.ว.เสนอมาต้องไปศึกษาดู ใครให้ข้อเสนออะไรที่เป็นประโยชน์พร้อมรับฟัง ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา นั้น ทางกรรมาธิการได้ประชุมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทั้งนี้เราพยายามตั้งกรอบระยะเวลาว่ากฎหมายใหม่ให้จบภายในสมัยการประชุมนี้และเร่งกันอย่างเต็มที่
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ดังนั้นตอนนี้ถ้าทุกคนใช้ด้วยความเข้าใจ ใช้ด้วยเจตนารมณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ใช้ทางด้านการแพทย์ก็จะไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล แต่ตอนนี้ที่เป็นเรื่องเป็นราว เพราะคนไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ ไปใช้เสพเป็นต้นหรือเอาไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดผลต่อจิตประสาท ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของการทำให้ กัญชามีความเสรียืนยันว่าเราไม่ได้เพิ่งมาทำ แต่มีการทำเรื่องนี้มากว่า 2 ปี มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องค่อย ๆ แก้กฎระเบียบต่างๆ ไม่ใช่อยู่ๆ ประกาศไม่ให้เป็นยาเสพติด เราทำในสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ให้ความรู้ให้ข้อมูลการใช้กัญชาอย่างเข้าใจในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่เลือกตั้งเราเปิดเผยมาตลอด และไม่หวั่นไหว เพราะเราไม่ได้ใช้นโยบายมาเล่นการเมือง แต่ใช้เพื่อให้เกิดปากท้องที่ดี สุขภาพที่ดี ตนไม่มีการเมือง ใครเอาเรื่องนี้มาเป็นการเมืองดิสเครดิตต้องให้สังคมตัดสิน
เมื่อถามถึงกรณี กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รับรายงาน พบผู้ป่วยจากการเสพกัญชาเกินขนาดในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังการปลดล็อกกัญชา จำนวน 4 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายวัย 51 ปี และพบผู้ป่วยอายุน้อยที่สุด 16 ปี นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปดูในรายงานด้วยว่ามีการเสพในปริมาณเท่าไร เสพในปริมาณที่พอดี เสพในปริมาณน้อย หรือมีการเสพโอเวอร์โด๊สหรือไม่ เพิ่งสูบเมื่อวานหรือไม่ ถ้าเคยสูบโอเวอร์โด๊สได้ สูบเป็นประจำ แล้ววันนี้มีเหตุขึ้นมา ทำไมก่อนหน้านี้ไม่มีรายงาน ต้องการอะไร วันนี้ที่มีรายงานคนเสียชีวิตและคนที่ถูกหามส่งห้องฉุกเฉินในรายงานของแพทย์ก็มีคำว่าโอเวอร์โด๊ส ซึ่งคำว่าโอเวอร์โด๊ส อย่าบอกว่าสูบกัญชา การกินยาแก้ปวดเกินขนาดก็โอเวอร์โด๊สแล้ว ต้องใช้อย่างเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าเป็นเช่นนั้นมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวลองประเมินและวิเคราะห์เอาเองอย่าไปก้าวก่าย ใครอยากทำอะไรก็ทำไป ถ้าเป็นเรื่องที่ดีกับประชาชน คนที่มาทำงานการเมืองต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่ากรณีเช่นนี้จะตักเตือนประชาชนอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า มีการทำมาโดยตลอด ชื่อนโยบายก็บอกชัดว่า เพื่อการแพทย์และสุขภาพ ส่วนการเสพ การปุ๊น การพี้ ถามว่าเพื่อสุขภาพหรือไม่ ซึ่งเตือนมาตั้งแต่ยังไม่เสรีว่าการเสพการเป็นสิ่งไม่ควร การสูบบุหรี่ในโรงเรียนถูกตี แต่สูบกัญชาถูกไล่ออก ดังนั้นเราคุ้นชินกับการใช้กัญชามานาน ยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นการเมืองตอนเสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชา ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านก็สนับสนุน
เมื่อถามว่าต้องไปดูหรือไม่ว่าใครปล่อยข่าวนี้หวังผลอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า รู้ ๆ กันอยู่ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ได้ให้ความเห็นเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของตนที่รับผิดชอบ
เมื่อถามว่านอกจากการให้ความรู้แล้วจะมีมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันอย่างไร เพราะผู้ที่ถูกหามเข้าห้องฉุกเฉินคือเยาวชน ซึ่งวงการแพทย์เตือนและแสดงความห่วงใยตั้งแต่แรก นายอนุทิน กล่าวว่า ก่อนวันที่ 9 มิ.ย. มีคนสูบอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ คนที่จะสูบผิดกฎหมาย ถูกกฎหมายเขาก็สูบ พ่อแม่ต้องบอกลูกว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง โรงเรียนต้องไม่ส่งเสริม อย่างวันที่ 13 มิ.ย. มีข่าวออกมาว่า เมื่อพ้นวันที่ 9 มิ.ย. พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งยกกัญชาขึ้นมาสูบ ข้อเท็จจริงเป็นได้หรือไม่เพราะบุหรี่ยังไม่ให้สูบและสูบกัญชาได้อย่างไร ยืนยันนโยบายกระทรวงสาธารณสุข คือ กัญชาสำหรับการแพทย์และสุขภาพ อะไรนอกเหนือจากนี้เป็นสิ่งที่ผิด กระทรวงสาธารณสุขไม่เคยสนับสนุนให้เกิดขึ้น
“ถ้าผมจะรับผิดชอบคือใครใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ รักษาสุขภาพและเกิดผลเสีย ตรงนั้นค่อยมาว่ากันว่าผิดพลาดตรงไหน ถ้าใช้ในทางที่ผิดตั้งใจใช้ในทางที่ผิด ก็ไม่ต่างอะไรกับของไม่ควรเสพ และยืนยันเราไม่ได้โยนให้ประชาชนใช้วิจารณญาณเอง เพราะเราให้ประชาชนใช้เพื่อการแพทย์ ไม่เคยบอกให้นำไปเสพเพื่อให้โล่งหัว” รมว.สาธารณสุข กล่าว