ไทยพาณิชย์โชว์ยอดขายหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง ” SCB Inverse Floater ” วงเงิน 2,000ล้านบาท หมดเกลี้ยงภายใน 6 ชม. ผลตอบแทนขั้นต่ำอยู่ที่ 0.50 % ต่อปี คุ้มครองเงินต้น 100%
นายศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB Chief Investment Office (SCB CIO ) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายผลิตภัณฑ์การลงทุนหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงกับดอกเบี้ย ประเภท Inverse Floater Note
โดยเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 22 -24 มิถุนายน 2565 ให้กับกลุ่มลูกค้าเวลธ์ ของธนาคาร โดยได้รับการตอบรับที่ดี สามารถจองซื้อเต็มจำนวน 2,000 ล้านบาท ภายระยะเวลา 6 ชั่วโมงหลังการเปิดจำหน่าย
สำหรับหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย THOR Inverse Floater Note ออกโดย ธนาคารไทยพาณิชย์ รุ่น SCB 246 A ครั้งที่ 1 / 2565 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 เริ่มนับจากวันที่ออกตราสารในวันที่ 27 มิถุนายน 2565 – 27 มิถุนายน 2567 จ่ายผลตอบแทนทุก 3 เดือน แบบลอยตัวและสวนทางกับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (Thai Overnight Repurchase Rate – THOR) โดยผลตอบแทนขั้นต่ำอยู่ที่ 0.50%ต่อปี และ คุ้มครองเงินต้น 100%
ทั้งนี้การออกผลิตภัณฑ์หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง “SCB Inverse Floater” ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงาน Financial Markets ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการความเสี่ยงของตราสารอนุพันธ์ประเภทอัตราดอกเบี้ยและการออกหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ร่วมกับหน่วยงานกลุ่มธุรกิจเวลธ์ ที่ดูแลกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง ด้วยประสบการณ์และความเข้าใจตลาดมาอย่างยาวนาน จึงทำให้หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงตอบโจทย์นักลงทุนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (THOR) ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มนักลงทุนตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย“หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เหมาะกับสภาวะตลาดในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักวิเคราะห์ส่วนมากต่างมองว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยจะเป็นขาขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงทำให้หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง “SCB Inverse Floater” มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าผลิตภัณฑ์การลงทุนเทียบเคียงที่มีอยู่ในตลาด
ขณะเดียวกันหากไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ (Worse case) ทางผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนขั้นต่ำงวดละ 0.50% ต่อปี และคุ้มครองเงินต้น100% โดยธนาคารไทยพาณิชย์เมื่อถือจนครบกำหนดอายุโครงการ พร้อมกันนี้ธนาคารจะเล็งหาโอกาสเพื่อออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับลูกค้าในทุกๆสภาวะตลาดต่อไป โดยเฉพาะสภาวะตลาดที่มีความผันผวนอย่างมากในปัจจุบัน
