วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“บิ๊กเด่น”หยิบชิ้นปลามัน ได้แรงหนุนจาก“ผู้มากบารมี”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กเด่น”หยิบชิ้นปลามัน ได้แรงหนุนจาก“ผู้มากบารมี”

ใครมีอำนาจอยู่ในแวดวงราชการ มีตำแหน่งสำคัญสามารถชี้เป็นชี้ตาย ได้ทั้งทางการเมืองและการบริหาร คงอยากให้วันเวลาเดินช้าที่สุด เพื่อคงอำนาจตนเอง ให้อยู่ได้นานที่สุด แต่ก็คงเป็นเพียงแค่คิด เพราะในความเป็นจริง สรรพสิ่งทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีวันเริ่มต้น…ก็ย่อมมีวันลาจาก

เช่นเดียวกับเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งในที่สุด “บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” แม่ทัพสีกากีคนที่ 12 ก็ใกล้เดินทางมาถึงในช่วงวาระสำคัญ เตรียมโบกมือลาก่อนพ้นตำแหน่งในวันที่ 30 ก.ย. 2565 ซึ่งถือเป็นวงรอบปกติของข้าราชการ ที่เกษียณอายุราชการ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข

ดังนั้นเมื่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีความสำคัญ ทำหน้าที่ทั้งดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม หลายคนเลยให้ความสนใจกับ “ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” ในองค์กรนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตร.ได้ประกาศลำดับอาวุโสระดับ “รอง ผบ.ตร.-จตช.-รองผบก.” รองรับการแต่งตั้งนายพลสีกากี วาระประจำปี 2565

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2565 ผบ.ตร. ได้ลงนามบันทึกข้อความ ที่ 0009.231/2535 “ประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ถึง จตช. และ รอง ผบ.ตร.” โดยกองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล ตร. ได้ลงประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ รองผบก. ขึ้นไป วาระประจำปี 2565 ซึ่งขณะนี้อยู่ในห้วงเวลาดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ดำรงตำแหน่งระดับ ผบก. ขึ้นไป วาระประจำปี 2565 เพื่อให้การคัดเลือกแต่งตั้งเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง

ที่น่าสนใจ สำหรับระดับรอง ผบ.ตร. เรียงตามลำดับอาวุโส ดังนี้ 1.พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. 2.พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติ์ประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ 3.พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.

ซึ่งเป็นไปตามความหมาย หลายฝ่ายเชื่อว่า นายตำรวจทั้ง 3 เป็น 3 แคนดิเดต ที่มีโอกาสคั่วตำแหน่ง ผบ.ตร. ต่อจาก “พล.ต.อ.สุวัฒน์” ที่จะเกษียณอายุในเดือนก.ย.65 ซึ่งปีนี้ต้องยอมรับ มีการเบียดกันชนิดสุดสูสี แต่ละคนมีจุดเด่นคนละอย่าง  

อย่างไรก็ตามในช่วงโค้งสุดท้าย “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์” ซึ่งใครเรียกันติดปากว่า “บิ๊กเด่น” ได้รับการจับตามองมากเป็นพิเศษ ถูกคาดหมายจะเป็นม้าตีนปลาย มาแรงแซงทางโค้ง คว้าเก้าอี้ที่บรรดาสีกากีต่างหมายปอง เพื่อให้ไปเป็นสมบัติตัวเอง และสร้างผลงานในช่วงปั้นปลาย 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

ส่วน ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. เรียงตามลำดับอาวุโสประกอบด้วย 1. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. 2.พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร. 3.พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร. 4.พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. 5.พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผบ.ตร. 6.พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7.พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. 8.พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. 9.พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง จตช. 10.พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร.

มาไล่ดูย้อนดูความรับผิดชอบของ คู่ชิงเก้าอี้แม่ทัพสีกากีคนที่ 13 อีกครั้งหนึ่ง โดย “พล.ต.อ.วิสนุ” และ “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์” จะเกษียณฯพร้อมกันในปี 66 ส่วน “พล.ต.อ.รอย” เกษียณฯปี 67

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ

ถ้าไล่เรียงจุดเด่นของแคนดิเดทผบ.ตร. แต่ละคนเริ่มต้นที่ “พล.ต.อ.วิสนุ” หรือใครเรียกติดปากว่า “บิ๊กหิน” ที่เข้ามารับหน้าที่ “จตช.” มีบทบาทในการ ตรวจสอบการทำงานของตำรวจ มีภารกิจหลัก 4 ด้านคือ ด้านการตรวจราชการ เพื่อติดตามผลการทำงาน, ด้านการร้องเรียนร้องทุกข์จากประชาชนในการให้ความเป็นธรรมของตำรวจ, ด้านระเบียบและจริยธรรมตามประมวลจริยธรรมตำรวจ และด้านการป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของตำรวจ

แม้การตรวจสอบองค์กรกรสีกากีจะมีความสำคัญ แต่อาจจะมี เพื่อนร่วมองค์กร “ไม่ยอมรับ” การสร้างผลงานด้วยการฆ่าน้อง-ฟ้องนาย-ขายเพื่อน แต่เมื่อเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ หากไม่ทำ ก็เจอข้อหาละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่

ส่วน “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ซึ่งได้รับมอบหมายงานด้านความมั่นคง และยังมอบหมายภารกิจสำคัญ อย่างเช่น ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการจับตามองมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการขุดรากถอนโคนบ่อนพนันออนไลน์ ที่มีเครือข่ายใหญ่โต มีมูลค่าในการเล่นเป็นร้อยเป็นพันล้านบาท

แต่ที่อาจเป็นปัญหาคือ “พล.อ.ประยุทธ์” อาจรู้สึกติดขิดตะขวงใจ หากต้องแต่งตั้ง “บิ๊กเด่น” เพราะบุคคลที่เป็นแกนหลัก สนับสนุนนายตำรวจคนนี้คือ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ซึ่งมีความสัมพันธ์ไม่แนบแน่นกับหัวหน้ารัฐบาล แม้ว่าจะมีสถานะน้องชาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ตาม  

แต่ล่าสุดมีข่าว “ผู้มากบารมี” ได้มาร้องขอ “ผู้มีอำนาจในรัฐบาล” จนในที่สุดได้มีการตกปากรับคำ ยอมเปิดทางให้ “บิ๊กเด่น” ก้าวเข้ามารับตำแหน่ง “ผบ.ตร.คนที่ 13” จนมีข่าว “ว่าที่แม่ทัพสีกากี” ได้จัดเตรียมทีมงาน เพื่อพร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที หากได้รับมอบหมายให้รับตำแหน่งสำคัญ เนื่องจากมีอายุราชการเหลือเพียง 1 ปีเท่านั้น

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์

ส่วน “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติ (ศปทส.ตร.), ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม (ศปป.ตร.) ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตร.(ศพดส.ตร.) ซึ่งในช่วงแรกมีความโด่ดเด่น และได้รับคาดหมายจะมีมีโอกาสลุ้นตำแหน่ง “ผบ.ตร.” แต่ระยะหลังกลับแผ่วปลาย แต่ก็ต้องจับตา จับตาในช่วงโค้งสุดท้าย จะมีเหตุการณ์อะไรพลิกผันหรือไม่ แต่ที่สำคัญคือด้วยระยะเวลาในการรับราชการ กลายเป็นเงื่อนไข ที่อาจทำให้เกิดปัญหา

ขณะที่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมตามประกาศคสช.ฯ กำหนดว่า ผู้จะได้รับแต่งตั้งเป็นผบ.ตร. ต้องมีคุณสมบัติเพียง 2 ข้อ คือ 1.มาตรา 51 ผบ.ตร.จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศ พล.ต.อ. และ 2.มาตรา 53 การแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ ให้ผบ.ตร.คัดเลือกรายชื่อ  จเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ขั้นตอนการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.” ตามกฎหมาย ประกอบด้วย 1. ผบ.ตร.คนปัจจุบันเป็นผู้เลือก จากรองผบ.ตร.และ จเรตำรวจแห่งชาติ ที่ยังไม่เกษียณฯ ผู้ที่มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อ เรียงลำดับตามความอาวุโส

1.พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. 2.พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติ์ประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ 3.พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.

2.ผบ.ตร.นำชื่อที่เลือกเสนอ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ก.ต.ช.ในปัจจุบัน มี 7 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, ปลัดกระทรวงกลาโหม, ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ปลัดกระทรวงยุติธรรม, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.

ตามข้อบังคับ ก.ต.ช.ว่าด้วยการลงมติฯ ระบุว่า การลงมติให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีสิทธิ์ออกเสียงได้ 1 เสียง หากเสียงเท่ากัน ประธานก.ต.ช. ออกเสียงเพิ่มได้อีก 1 เสียงเป็นการชี้ขาด การลงมติทำได้ทั้งเปิดเผย และแบบลับ กฎหมายไม่ระบุว่าต้องเสนอชื่อผู้เหมาะสมกี่รายชื่อ ผบ.ตร.เสนอเพียงชื่อเดียวให้ก.ต.ช.พิจารณา หากเห็นชอบ ก็ถือว่าก.ต.ช.รับรอง

3.เมื่อก.ต.ช.เห็นชอบ เสนอให้นายกรัฐมนตรี นำความขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป

ที่สำคัญถ้าไปไล่เรียงดูไทม์ไลน์ในการทำงานของ “รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์” ซึ่งจะหมดวาระประมาณเดือนม.ค.66  นั่นหมายความว่า การแต่งตั้ง “แม่ทัพสีกากีคนที่ 13” จะถือเป็นการใช้อำนาจครั้งสุดท้ายของหัวหน้ารัฐบาลคนปัจจุบัน ในฐานะประธานก.ต.ช. เว้นเสียแต่ว่า ในศึกซักฟอก “นายกฯลุงตู่” จะมีอันเป็นไป ต้องพ้นจากการทำหน้าผู้นำรัฐบาล ก็คงต้องมาดูกันอีกทีว่า กระบวนการสรรหาผบ.ตร.คนใหม่ จะมีทิศทางเป็นอย่างไร

อย่าลืม “ทักษิณ ชินวัตร” เคยรับราชการเป็นตำรวจ ก่อนถูกถอดยศเคยใช้ “พ.ต.ท.” นำหน้า สมัยมีอำนาจคุมการบริหารประเทศ ถูกวิจารณ์ว่าสถาปนาองค์กรสีกากีให้เป็น “รัฐตำรวจ” ถ้า “พรรคเพื่อไทย” (พท.) กลับมาเป็นแกนนำรัฐบาล เชื่อได้เลย “ทักษิณ” ไม่มีทางปล่อยวางหน่วยงานนี้ เพราะสามารถ ให้คุณให้โทษในทางการเมือง และ การบริหารราชการแผ่นดินได้

………………………………………

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย..“แมวสีขาว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img