วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“สภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย”จัด Business Forum เร่งฟื้นการลงทุนของ 2 ประเทศ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย”จัด Business Forum เร่งฟื้นการลงทุนของ 2 ประเทศ

สภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย จัด Business Forum ส่งเสริมความร่วมมือด้าน Transport & Mobility และ BCG, Decarbonization และ Smart City เพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจการลงทุนของทั้งสองประเทศ

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.65 ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก สภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย (France-Thailand Business Forum หรือ FTBF) ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และสมาพันธ์นายจ้างแห่งฝรั่งเศส (MEDEF International) ได้จัดงาน ประชุมสภา France-Thailand Business Forum ครั้งที่ 3 พร้อมด้วยจัดเสวนาพิเศษใน 2 หัวข้อ คือ Transport & Mobility และ BCG, Decarbonization และ Smart City โดยมีผู้นำภาครัฐ และนักธุรกิจชั้นนำของสาธารณรัฐฝรั่งเศสและประเทศไทยและในอุตสาหกรรมนี้เข้าร่วมในการประชุม

ฟรองซัวส์ กอร์แบง

สภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย เป็นกลไกในการผลักดันความร่วมมือและโอกาสการลงทุนของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งสอดรับกับกรอบความร่วมมือของภาครัฐ ได้แก่ แผนแม่บท France-Thailand Roadmap 2022-2024 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือนเม.ย.65 นอกจากนี้ ยังเป็นการต่อยอดความร่วมมือจากปฏิญญาแสดงเจตจำนง (Declaration of Intent) ระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเปลี่ยนผ่านทางนิเวศวิทยา กำกับดูแลการคมนาคม แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประเทศไทย ซึ่งได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือนธ.ค.64

นายฟรองซัวส์ กอร์แบง ประธานร่วมสภาธุรกิจ ฝ่ายฝรั่งเศส รองประธานสมาพันธ์นายจ้างแห่งฝรั่งเศส (MEDEF International) กล่าวว่า บริษัทฝรั่งเศสมีจุดแข็งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่โดดเด่น ได้เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ประกอบกับศักยภาพของเอกชนไทยและการผลักดันจากภาครัฐผ่านกรอบนโยบายต่างๆ มีความเชื่อมั่นว่า เอกชนฝรั่งเศสยินดีจะร่วมมือกับเอกชนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้ โดยในครั้งนี้มีนักธุรกิจฝรั่งเศสจากบริษัทชั้นนำกว่า 20 บริษัทเข้าร่วม จากอุตสาหกรรมพลังงาน สิ่งแวดล้อม คมนาคมและระบบขนส่ง โครงสร้างสาธาณูปโภคพื้นฐาน ระบบเมืองอัจฉริยะและยั่งยืน เป็นต้น โดยงานประชุมในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน ส่งเสริม และการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการต่อยอด และเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานร่วมสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย ฝ่ายไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า สภาฯเป็นเวทีส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุนในระดับเอกชนระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีการส่งเสริมการลงทุนและการแสวงหาโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีจากฝรั่งเศส โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 สาขา ได้แก่ Transport, Smart City, Energy Transition, Food & Agri และ Health & Wellness โดยมีหน่วยงานคู่ความร่วมมือ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC)  เป็นต้น

ขณะเดียวกันมีทั้งบริษัทสมาชิกของไทยที่มีการลงทุนในฝรั่งเศสแล้ว เช่น GC, Thai Union, Sea Value, Double A และบริษัทที่มีความร่วมมือแล้วและแสวงหาความร่วมมือกับฝรั่งเศส เช่น Mitr Phol Group, Loxley, ThaiBev, WHA Group, Kasikorn, Thai Airways, CP, Empire Asia, Allied Metals รวมถึงบริษัทฝรั่งเศสที่ลงทุนในประเทศ เช่น Michelin อีกด้วย

ด้วยภาวะปัจจุบันจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญของหลายอุตสาหกรรมคือการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภาคเอกชนทั้งไทยและฝรั่งเศสได้เล็งเห็นโอกาสร่วมกันในความร่วมมือ 2 สาขา คือ Transport & Mobility และ BCG ซึ่งรวมถึง Decarbonization และ Smart City ด้วย เอกชนไทยมองว่า ภาคอุตสาหกรรมของไทยมีความพร้อมด้วยทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งไทยแสวงหาโอกาสในการเข้าถึงนวัตกรรม องค์ความรู้ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมในฝรั่งเศสมีศักยภาพที่สอดรับและสนับสนุนการยกระดับขีดความสามารถ อีกทั้งยังต่อยอดมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาคอุตสาหกรรมของไทยได้

“การประชุม FTBF ครั้งที่ 3 ในปีนี้ จะช่วยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจการลงทุนของทั้งสองประเทศ หลังผ่านการแพร่ระบาดของโควิด โดนในส่วนของฝรั่งเศส เลือกจะมาประเทศไทยเป็นประเทศแรก เพราะเห็นศักยภาพของไทย ขณะที่ไทย นอกจากภาคเอกชน ก็ยังมีภาครัฐ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ บีโอไอ กระทรวงพาณิชย์ มาร่วมรับฟังและให้ข้อเสนอแนะ เพื่อให้ความร่วมมือ เร่งฟื้นเศรษฐกิจการลงทุนของทั้งสองประเทศให้ขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว”ดร.คงกระพัน กล่าว

ประเทศไทยกับสาธารณรัฐฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ามาอย่างยาวนาน โดยฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าลำดับที่ 25 ของไทย เป็นลำดับที่ 3 ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) มีมูลค่าการค้า จำนวน 4,322.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก เป็น Key Player ในยุโรปและของโลก นอกจากนี้ ยังเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ของอาเซียนในปี 2563 อุตสาหกรรมหลักประกอบด้วย เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ โทรคมนาคม การบิน และเวชภัณฑ์  

ที่ผ่านมา ในปี 2564 บริษัทฝรั่งเศสขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทย (BOI) จำนวน 15 โครงการคิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 2,327.60 ล้านบาท ปัจจุบันมีบริษัทฝรั่งเศสในไทยประมาณ 280 บริษัท มีบริษัทขนาดใหญ่ของไทย 6 บริษัทที่ลงทุนอยู่ในฝรั่งเศส ได้แก่  GC, Double A, Thai Union Frozen, Sea Value, Jinpao Precision Industry และ Indorama

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img