“มงคลกิตติ์” บี้”นายก-ผบ.ทอ.” มาแจงกมธ.ทหารฯด้วยตัวเอง เหตุเครื่องบินรบเมียนมาลุกล้ำอธิปไตยน่านฟ้าไทย ข้องใจใครแอบตกลงเจรจาหรือไม่ สอนอย่าเห็นแก่การเมืองมากกว่าศักดิ์ศรีประเทศ
วันที่ 1 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร สภาฯ กล่าวถึงกรณีที่มีเครื่องบินมิก-29 ของกองทัพเมียนมา บินเหนือน่านฟ้าไทย บริเวณอ.พบพระ จ.ตากว่า การที่เครื่องบินของเมียนมาทำการบินรุกล้ำเข้ามาประเทศไทยได้ถึง 5 กิโลเมตร ถือว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะเมื่อเรดาร์ของไทยสามารถตรวจจับได้ ก็ควรรีบแจ้งเตือนเครื่องบินลำดังกล่าวโดยด่วน แต่หากเขาไม่รับฟัง ทางกองทัพอากาศและกองทัพบกที่มีปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานควรยิงเตือนเพื่อสกัดกั้น แต่หากยังมีการบินรุกล้ำน่านฟ้าไทยอยู่อีกก็ต้องยิงให้ร่วง แต่กองทัพอากาศไทยกลับยอมให้เครื่องบินมิก-29 ของเมียนมาบินเข้ามาน่านฟ้าประเทศไทย จนทำให้ประชาชนในพื้นที่ตื่นกลัว เพราะครื่องบินลำดังกล่าวมีการทำการบินในระดับต่ำ ถือว่ามีความผิดในด้านความมั่นคง เนื่องจากปกติจะไม่ยอมให้เครื่องบินที่อื่นรุกล้ำเข้ามาน่านฟ้าได้
“ผมอยากเสนอให้พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส. กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกมธ.ทหารฯ เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มาชี้แจงด้วยตนเอง อย่าให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เข้ามาชี้แจงแทน พร้อมทั้งเรียกพล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เข้ามาชี้แจงกับกมธ. ทหารภายในสัปดาห์หน้าด้วย”นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า เรามีพรมแดนที่ติดกัน ถึงแม้ความสัมพันธ์ทางด้านทหารและประเทศจะมีความสำคัญ แต่เรื่องอธิปไตยของประเทศมีความสำคัญยิ่งกว่าการเมือง ถ้าเราไม่เตือนเขา เขาจะทำอีก ถือเป็นภัยความมั่นคง เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่ของไทยไปคุยกับผู้นำเมียนมาหรือไม่ และวันที่ 30 มิ.ย. มีการตกลงหรือเจรจาอะไรกันหรือเปล่า หรือต้องการเปิดทางให้กองทัพเมียนมาเข้ามาปล่อยจรวดมิสไซล์ใส่กองกำลังชนกลุ่มน้อยหรือไม่ เพราะปกติแล้วเครื่องบินกองทัพจะไม่บินเหนือน่านฟ้าอธิปไตยของประเทศอื่น ตนในฐานะกมธ.ทหาร ยอมไม่ได้ และไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก รวมถึงตอนนี้กองทัพอากาศก็กำลังซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 ซึ่งกองทัพอากาศไม่ควรฟังการเมืองเกินไป เพราะศักดิ์ศรีของประเทศเหนือกว่าการเมือง” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
