“เสรีพิศุทธ์”ควง “สมชัย”ช่วยผู้สมัครส.ส.หาเสียงเลือกตั้งซ่อมลำปาง ขู่กกต.หาก ‘เสรีรวมไทย’ พบซื้อเสียงในลำปางแต่ตรวจไม่พบ ฟันผิดม.157
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่อ.เกาะคา จ.ลำปาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรค ในฐานะอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงพื้นที่สนับสนุนการหาเสียงช่วยนายเดชทวี ศรีวิชัย ผู้สมัครหมายเลข 1 เขต 4 จ.ลำปาง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่าได้เชิญผู้ตรวจการกกต.มาขอทราบข้อเท็จจริง หลังมีการร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปปช.) ที่ตนเป็นประธานอยู่ โดยได้ถามผู้ตรวจการไปว่าคุณไปรีบรับรองเขาได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมทั้งที่มีการร้องเรียนเรื่องซื้อสิทธิขายเสียงเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ตรวจการกลับตอบว่า ท่านเห็นก็เห็นไปแต่ผมไม่เห็น ถือเป็นคำตอบที่แย่มากไม่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง จึงควรยุบผู้ตรวจการกกต. ไปได้แล้ว อยู่ไปก็เปลืองงบประมาณเปล่าๆ เพราะทำงานไม่คุ้มค่าภาษีประชาชน ตั้งมาดูเท่แต่ทำงานไม่รับผิดชอบอะไรเลยเอาแต่ผลประโยชน์กัน
“ขณะนี้เสียงตอบรับผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเสรีรวมไทยดีมาก จึงมั่นใจว่าครั้งนี้จะชนะเลือกตั้งอย่างแน่นอน ถ้าไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียงอีก” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้รับทราบจากประชาชนว่าขณะนี้มีผู้สมัครบางรายได้ใช้วิธีการให้ อาสาสาธารณสุข (อสม.) เดินจดชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยมีค่าตอบแทนทำงานรายชื่อละ 100 บาท และรับปากกับชาวบ้านว่าจะมีเงินมาให้ก่อนวันเลือกตั้งอีกครอบครัวละ 500 บาท โดยจะให้เฉพาะบุคลที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพราะกลัวว่าจะถูกอัดคลิปเหมือนการเลือกตั้งคราวก่อน นอกจากนี้ยังมีการระดมคนมาฟังการปราศรัยหัวละ 300-350 บาทอีกด้วย แต่น่าแปลกตรงที่ยังไม่มีการรายงานข่าวเรื่องนี้จากกกต.ลำปางเลย
“อยากให้กกต. ซึ่งมีกลไกทั้งสำนักงาน กกต.จังหวัดหรือเขตในพื้นที่ มีผู้ตรวจการเลือกตั้งอีกหมายคนที่รับเงินเดือนถึงเดือนละ 50,000 บาท เอาจริงเอาจังกับการจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซื้อเสียงแบบครึกโครมขึ้นอีกจนเป็นเหตุต้องเลือกตั้งใหม่ ต้องเสียงบประมาณแผ่นดินทีละเป็น 10 ล้านบาทอีก หากคราวนี้มีการซื้อเสียงเกิดขึ้นและมีหลักฐานชัดเจนอีก แต่กกต.ตรวจไม่พบ คราวนี้ผมจะไม่เพียงแจ้งเหตุต่อ กกตให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ซื้อเสียงเท่านั้น แต่ยังจะให้ฝ่ายกฎหมายแจ้งดำเนินคดีอาญา มาตรา 157 กับ กกต.ด้วยฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อีกด้วยเพราะไม่อยากให้สิ้นเปลืองงบประมาณจัดเลือกตั้งใหม่ซ้ำซาก” นายสมชัย กล่าว
