“สุทิน” ข้องใจรัฐบาลมีเหตุผลอะไรปิดกั้นไม่ให้ซักฟอก 5 วัน กลัวอะไร จี้เปิดใจกว้างให้ตรวจสอบ ยันฝ่ายค้านไม่อภิปรายฯแบบลมโชย จบได้รีบจบ ลั่นตกลงวันไม่ได้ก็ใช้ข้อบังคับแทน
วันที่ 4 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงจำนวนวันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จากการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านคิดว่าวันเวลาที่เหมาะสมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือ 5 + 1 ซึ่งไม่มีอะไรเสียหาย หรือจะกระทบกับส่วนใด เช่น หากใช้เวลา 5 วัน อย่างมากก็ล้นไปอภิปรายในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ ไม่ได้ไปชนกับวาระอื่น อีกทั้งไม่ได้ไปทำให้ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล เพราะวันเสาร์และวันอาทิตย์ทางรัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเรามาทำงานวันเสาร์และวันอาทิตย์เพิ่มขึ้น จะทำให้ประชาชนชื่นใจ และเห็นว่าสภาฯทำงาน เพื่อเขาอย่างไม่มีวันหยุดหย่อน หากในอดีตอาจจะไปชนกับวาระสำคัญถ้าแบบนั้นเราก็ไม่ว่า แต่เมื่อเวลาโล่ง ไม่มีอะไรได้รับผลกระทบ รัฐบาลก็ไม่มีเหตุผลที่จะมากีดกัน และหากรัฐบาลบอกว่าใจกว้างสามารถให้ตรวจสอบได้ ไม่ไปพักผ่อนวันเสาร์และวันเสาร์อาทิตย์ รัฐบาลเองกลับจะได้รับคำชม
“การมาปิดกั้นให้อภิปรายฯ 4 วันนั้น ผมคิดว่าไม่มีเหตุผล ถ้ากลัววกวนซ้ำซาก เรามีข้อบังคับการประชุมสภาฯอยู่แล้วที่ประธานสภาฯจะควบคุมไม่ให้เกิดการอภิปรายซ้ำซาก และฝ่ายค้านก็จะเสียหายเอง แต่ที่เราบอกว่าใช้เวลาอภิปรายฯ 5 วันยืนยันว่าจะไม่ใช้การอภิปรายฯแบบลมโชย หากจบได้เร็วเราก็จบ ไม่แน่อาจจะใช้เวลา 3-4 วันก็ได้ สมควรตรงไหน เราก็จบตรงนั้นหากได้ความแล้ว”นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวว่า ที่บอกว่าขอไป 5 วันคือเกณฑ์ขั้นสูง เอาเข้าจริงอาจจะไม่ถึง รัฐบาลไม่น่ามีเหตุผลอะไรมาบีบเป็น 3 วันหรือ 4 วัน โดยในการประชุมวิป 3 ฝ่ายวันที่ 6 ก.ค. เราจะเสนอก่อนว่าจะอภิปรายฯ 5 วัน ถ้ายอมไม่ได้ก็ใช้ข้อบังคับแทน ก็ลองดูสักที ชวนรัฐบาลใช้ข้อบังคับสักที ไม่ต้องตกลง ไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีแนวปฏิบัติที่เคยปฏิบัติมาอยู่แล้ว ทุกคนรู้อยู่แล้วในประเพณีปฏิบัติ คงไม่มีใครออกนอกลู่นอกรอย
และหากอภิปรายฯไม่ครบ 11 คนก็ปิดการประชุมไม่ได้ แต่คุณก็จะไปพูดวกวนวนเวียนซ้ำซากไม่ได้เหมือนกัน เพราะข้อบังคับห้ามไว้ ดังนั้นเรื่องนี้จะช่วยรักษาทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายรัฐบาลต่อรองขอเวลาน้อยลง มองว่าเป็นเพราะเขากังวลหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนมองหาเหตุผลอย่างอื่นไม่เจอว่าทำไมรัฐบาลถึงบีบเวลาลง นอกจากขัดขวางไม่อยากให้เราพูดได้เต็มที่เพราะมาจากความวิตกเท่านั้น
