นายกรัฐมนตรี ประกาศชัดว่าจะไม่ล๊อกดาวน์ประเทศในช่วงโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ แต่จะแบ่งโซนการควบคุมพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 ช่วงปีใหม่ก็ขอให้ประชาชนคนไทยดูแลสุขภาพและระวังการติดเชื้อขอความร่วมมือในการงดกิจกรรมทุกรูปแบบ
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ The Key News ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 26 ธ.ค. 63 ถึงแม้ว่าปีใหม่จะไม่มีการล๊อกดาวน์ประเทศ แต่ให้แบ่งโซนการควบคุมพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 ร้านค้าและสถานบันเทิงมีการตรวจอย่างเข้มงวด และงดจัดกิจกรรมทุกรูปแบบ จึงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าการจัดงานเฉลิมฉลองปีใหม่ในปี 64 ต้องงดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
@@@……..หลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบศ.) ชุดใหม่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้แถลงผลการประชุมและยืน ยันว่า กระทรวงสาธารณสุขของเราดูแลได้ เน้นย้ำผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับพื้นที่ ไม่ใช่โยนให้ผู้ว่าฯ แต่เป็นการมอบอำนาจ ขอให้ทุกคนทำให้เต็มที่พลเรือน ตำรวจและทหารช่วยดู เรื่องการทุจริตที่ข่าวว่าผู้มีอำนาจสั่งรถตู้ขนแรงงานเข้ามา ถามว่าเป็นใครเอาชื่อมาเลย ตอนนี้มีคนในโซเชียลส่งชื่อมาแล้ว สนธิกำลังให้ตรวจสอบหลายคน ไม่ว่าจะท้องถิ่น กำนัน ใครที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบทั้งหมด
@@@……อย่างไรก็ตามโรคโควิดสามารถรักษาได้หมด จะไม่ให้มีตาย หากรักษาทันก็หายหมด และหลายคนมีภูมิต้านทานไม่ทานยาก็หาย เว้นผู้มีความเสี่ยงสูง ขณะที่เรื่องวัคซีนก็กำลังพัฒนาแต่ต้องตรวจสอบความชัดเจน พร้อมฉีดเมื่อปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง ไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนก เราเคยตื่นตระหนกมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อวันนี้เกิดขึ้นอีก ความพร้อมของเรา ทั้งแพทย์ ระบบพยาบาล และสาธารณสุขของเราครบพร้อมรองรับได้ และเมื่อวัคซีนมาแล้วจะทำอย่างไร เราต้องประคับประคองตัวให้ผ่านโควิดไปได้ก่อน
@@@……วันนี้หลายคนรอผมจะล็อกดาวน์ทั้งประเทศหรือไม่ ต้องดูแต่ละพื้นที่ และอย่ารังเกียจคนพื้นที่ใด ซึ่งหากบอกว่าพื้นที่ไหนเป็นสีแดงก็จะมองว่าเปื้อนทั้งจังหวัด ซึ่งแต่ละพื้นที่บางอำเภอก็มีทั้งเสี่ยงมากและเสี่ยงน้อย เป็นเรื่องที่หน่วยระดับพื้นที่ทำงาน ขณะเดียวกันการจัดกิจกรรมช่วงปีใหม่ หรือกิจกรรมสาธารณะอื่นๆ ก็กำลังพิจารณาว่าจะได้หรือไม่ แต่ต้องรู้ที่มาคนมาร่วมงาน ฝากถึงคนไทยทั้งประเทศ ลุงตู่ห่วงใยทุกคนนะจ๊ะ ทุกเรื่องรัฐบาลจะดูแลคนไทยทั้ง 70 ล้านคน
@@@…...พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนปัจจุบัน กองทัพได้เสริมกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ รวมทั้งเพิ่มมาตรการสกัดกั้นและเฝ้าตรวจตามช่องทางต่างๆ มากขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา โดยเฉพาะชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันตกที่มีช่องทางธรรมชาติเป็นแนวยาว
โดยได้ขยายผลติดตั้งติดตั้งไฟส่องสว่างและกล้องวง จรปิดเพิ่มเติมกว่า 40 ตัว รวมทั้งการวางแนวลวดหนามกว่า 100 ช่องทาง ระยะทางกว่า 6,000 เมตร และได้เพิ่มกำลังชุดปฏิบัติการและเครื่องมือเสริมการลาดตระเวนกลางวันและกลางคืน ทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจภายในหมู่บ้าน ร่วมกับ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและอาสาสมัครสาธารณ สุขประจำพื้นที่ ร่วมกันตรวจสอบคัดกรองกลุ่มเสี่ยงและบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองต่อเนื่องกันมา
@@@……วันก่อน พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมกองทัพบก โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบกให้การต้อนรับ พร้อมรับการแสดงความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ และลงนามในสมุดตรวจเยี่ยม
โดย ผบ.ทสส. ได้ขอความร่วมมือกำลังพลและครอบครัวเคร่งครัดในการปฏิบัติตามการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ในช่วงนี้ขอให้งดเว้นการจัดกิจกรรมพร้อมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของทหารที่ประจำอยู่ในพื้นที่ควบคุมจุดตรวจหรือด่านตรวจต่างๆ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนต้องเคร่งครัดการปฏิบัติ เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายผู้ที่มีเชื้อเข้ามาในประเทศ
@@@……สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในส่วนของทหารนั้น ได้ดำเนินการปฏิบัติโดยการเพิ่มทหารให้กับกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อทำหน้าที่เข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งได้เน้นย้ำการวางจุดตรวจพื้นที่ที่สำคัญ เพื่อป้องกันการข้ามเข้ามายังประเทศไทย พร้อมทั้งสั่งการให้ใช้เครื่องมือพิเศษตรวจพื้นที่ และประสานกระทรวงมหาดไทยใช้ชุมชนเข้มแข็งตามแนวชายแดนช่วยตรวจตราแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลควบคุมพื้นที่ ทั้งนี้แม้ว่ารัฐบาลจะระงับกิจกรรมช่วงปีใหม่ แต่ทุกจุดตรวจจุดสกัดจะดำเนินการไปด้วยความเข้มข้น เพราะยังมีประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาอยู่ ทหารที่ทำหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นและเข้มงวด ในมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันให้ได้มากที่สุด
@@@……วันก่อน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกได้ปฏิบัติตามมาตร การป้องกันโรคของสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก (ศบค.19 ทบ.) ภายใต้วิ นัยทหารต้านโควิดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีความอ่อนไหวมากขึ้น และเป็นการเตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค อันจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติราชการ
กองทัพบกจึงได้ออกข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แนวทางการปฏิบัติของกำลังพลกองทัพบก ในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ให้หน่วยทหาร กำลังพลและครอบครัว รวมทั้งทหารกองประจำการได้นำไปปฏิบัติ เพื่อเตรียมความพร้อมและประสิทธิภาพในการป้องกันตนเองให้มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจโดยเฉพาะการสนับสนุนทุกภาคส่วนในการดูแลประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างเต็มที่
@@@……ขณะที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นประธานการประชุมผู้บังคับบัญชาระดับสูง และหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งที่ประชุมได้พูดถึงการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดย ผบ.ทร.ได้สั่งการในที่ประชุมให้ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพเรือ และศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ บูรณาการทำงานร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และ ศรชล.ร่วมสนับสนุนเฝ้าระวังป้องกันและแก้ปัญหาการแพร่ระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่แพร่ระบาดจากกลุ่มแรงงานต่างด้าวภาคประมงในพื้นที่จ.สมุทรสาครตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการในที่ประชุมสภากลาโหมเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา
@@@……แม้ว่าโควิด-19 กำลังระบาดในรอบใหม่ ในเรื่องของการเมือง ฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ได้ปล่อยวาง โดยกรมกำลังพลทหารบก ได้ออกข้อควรปฏิบัติและข้อไม่ควรปฏิบัติของกำลังพลสังกัดกองทัพบก โดยสิ่งที่ทำ ได้ มีดังนี้ 1.การสมัครเข้าเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจน ถึงผู้บัญชาการทหารบกทราบ 2. การเข้าร่วมประชุมทางการเมืองในฐานะส่วนตัวได้ แต่ต้องไม่สวมเครื่องแบบและไม่ใช้ในเวลาราชการ
3.ปฏิบัติราชการในหน้าที่ด้วยการวางตนเป็นกลางโดยไม่มุ่งหวังประโยชน์ของพรรค การเมืองใดโดยเฉพาะแต่ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล 4.ลงคะแนนเสียง/ แสดงความคิดเห็นส่วนตัวต่อผู้ลงสมัครได้ 5.การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองสามารถกระทำได้โดยไม่แต่งเครื่องแบบและไม่ใช้เวลาราชการ ทั้งนี้ในการเข้าร่วมประชุมในที่สาธารณะนั้นต้องเป็นไปอย่างสงบ
@@@……ส่วนสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ มีดังนี้ 1.ไม่กระทำการใดๆ อันมีลักษณะพาดพิง ส่อเสียด ล้อเลียน สถาบัน รัฐบาล และผู้บังคับบัญชา 2.ไม่แต่งเครื่องแบบหรือชุดอื่นใดรวมถึงใช้ตราสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นทหารเข้าร่วมประชุมกับพรรคการเมืองหรือไปร่วมชุมนุมในที่สาธารณะอันเป็นการประชุมที่มีลักษณะทาง การเมือง 3.ไม่ประดับเครื่องหมายหรือแต่งเครื่องแบบของพรรคการเมืองเข้าไปในสถานที่ราชการ 4.ไม่บังคับผู้อยู่ในบังคับบัญชา ทั้งโดยตรงหรือโดยปริยายให้เป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดและไม่กระทำการในทางให้คุณหรือให้โทษ
5.ไม่แทรกแซงในทางการเมืองหรือใช้การเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อการทำกิจการต่างๆ 6.ไม่แสดงออกโดยตรงหรือโดยปริยายที่จะเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งในระยะเวลาที่มีการสมัครรับเลือกตั้ง 7.ไม่โพสต์ข้อความทางการเมืองในเวลาราชการในสถานที่ราชการหรือใช้คอมพิวเตอร์ของราช การรวมถึงห้ามใช้ account ของราชการร่วมกิจกรรมทางการเมืองบนสื่อสังคมออนไลน์
@@@……กฏหมายให้วีซ่าสถานะพิเศษแก่ชาวฮ่องกงอพยพ ซึ่งทำให้ได้สิทธิคุ้มครองไม่ส่งกลับประเทศ ได้สิทธิทำงานในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับ American Citizen นั้น เมื่อชงเป็นร่างกฎหมายเข้าสภาผ่านสภาล่าง แล้ว แต่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา กลับไม่ผ่านสภาสูง โดยวุฒิสมาชิกสายรีพับลิกัน ไม่เห็นด้วย จึงถือว่าเป็นอันตกไป เพราะมองว่ากฎหมายฉบับนี้ ชาวอเมริกันไม่ได้ประโยชน์ และอาจเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีต่อสหรัฐฯ แอบเข้ามาเพื่อบ่อนทำลายชาติได้ ..
@@@……ดังนั้น โจชัว หว่อง ผู้ทำลายอนาคตของฮ่องกงสิ้นซาก จึงต้องอกหักเพราะถูกเท .. ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า นี่น่าจะเป็นบทเรียนสำคัญแก่แกนนำม็อบ ล้มเจ้า – ล้มประเทศ ปลุกระดมชุมนุมละเมิดกฏหมาย ฝ่าฝืน พรบ.หลายฉบับ หวังล้มรัฐธรรมนูญ จาบจ้วงสถาบันอย่างโจ่งแจ้ง ให้สำนึกไว้ว่า ใครทำอะไรไว้ ผลกรรมก็จะตามทันในที่สุด
ชะตากรรมที่จะต้องได้รับก็ไม่น่าต่างจาก โจชัว หว่อง ที่ทุรยศต่อเผ่าพันธุ์ของตัวเอง และแม้ฮ่องกงจะย่อยยับสูญเสียบทบาทความเป็นผู้นำด้านการเงินในภูมิภาคกลายเป็นแค่เพียงเมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ประเทศไทยจะไม่เป็นเช่นนั้น .. Bangkok Winter จะไม่เป็นเหมือน Hong Kong Summer แน่นอน ..
………………..
คอลัมน์ “Military Key”
โดย “รหัสมอร์ส”
