หุ้นไทยปิดร่วงตามตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่แดงยกแผง กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าคาด แนะลงทุนหุ้นรับอานิสงส์โควิดระบาดหนัก-ค่าเอฟทีปรับตัวขึ้น
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก หรือ GBS เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิด 1,557.40 จุด ลบ 0.47 จุด หรือ 0.03 % ระหว่างวันดัชนีสูงสุด 1,560.01 จุด และต่ำสุดที่ 1,548.87 จุดมูลค่าการซื้อขาย 46,061.27 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ในแดนลบ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร สูงกว่าที่ตลาดคาด ทำให้นักลงทุนกังวลเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) วันที่ 26-27 ก.ค.นี้
สำหรับหุ้นกดตลาดวันนี้หุ้นกลุ่มการแพทย์ และค้าปลีก เช่น CPALL,CRC,HMPRO , BJC ,BDMS,RAM,THG ส่วนกลุ่มธนาคารมีแรงซื้อกลับ เช่น KBANK ,SCB ,BBL ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดลบเล็กน้อย
ด้านปัจจจัยที่ต้องติดตามคือตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันที่ 13 ก.ค. นี้ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Beige Book) รู้ผลวันที่ 14 ก.ค.
ขณะที่มูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,245.25 ล้านบาทบัญชีบล.ขายสุทธิ 163.96 ล้านบาทในประเทศขายสุทธิ 421.19 ล้านบาทต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,830.39 ล้านบาท
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ หุ้นโรงพยาบาลได้ประโยชน์จากไวรัสโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ : BH, BDMS ,CHG ,BCH, PRINC ,WPH และหุ้นโรงไฟฟ้า รับผลบวกจากค่า Ft ที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลง เช่น GPSC, BGRIM, GULF แนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,545-1,550 จุด ถ้าไม่หลุดแนวรับดังกล่าวมีโอกาสรีบาวด์ แนวต้านแรกที่ 1,565 จุด แนวต้านต่อไปที่ 1,572 จุด