วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight''ฝ่ายค้าน''ซัด'เสี่ยหนู'ไร้คุณธรรมเปิดช่องพี้กัญชา เอาสุขภาพปชช.มาเสี่ยง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”ฝ่ายค้าน”ซัด’เสี่ยหนู’ไร้คุณธรรมเปิดช่องพี้กัญชา เอาสุขภาพปชช.มาเสี่ยง

“ก้าวไกล-ประชาติ ” ฉะ“เสี่ยหนู”จงใจเปิดช่องกม.ไร้สภาพคุมพี้กัญชา ส่อทำให้ปชช.เสี่ยงด้านสุขอนามัย หวั่นเด็ก-เยาวชนกู่ไม่กลับ กระทบศก.-ท่องเที่ยว-การทูตระหว่างประเทศ

วันที่ 19 ก.ค.65 เวลา 12.48 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน ต่อมานพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในประเด็นกัญชาเสรีว่า อยากให้รับข้อเท็จจริงเบื้องต้น 3 ประการ ด้วยใจเป็นกลาง คือ 1.กัญชา ไม่ใช่ยาครอบจักรวาล 2. กัญชามีทั้งประโยชน์และมีโทษด้วย 3. กัญชาถ้าจะนำเอามาใช้ในการพี้ ปุ้น หรือนันทนาการ จะต้องระมัดระวังโทษของมันด้วย เหมือนบุหรี่หรือเหล้า

ถ้ายอมรับ 3 อย่างร่วมกันเราก็จะไปต่อกันได้ ทั้งนี้จุดยืนของตนและพรรคก้าวไกลสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ และถ้าพูดถึงปลายอุโมงค์การนันทนาการ การเปิดคาเฟ่กัญชาเราก็ไม่ได้คัดค้าน แต่สิ่งที่เราต้องการคือต้องมีการควบคุมให้ถูกต้อง เหมาะสม รัฐจะต้องดูแลสุขภาพของคนสูบและคนที่ไม่ได้สูบด้วย สิ่งที่ตนสนใจคือในกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่จะโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญในอนาคต อ้างอิงผลการศึกษาเมื่อเด็กโดนการใช้กัญชาเข้าไปจะมีพุทธิปัญหาและพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนไม่กลับคืน

ปัญหาคือเมื่อเด็กโดนพิษเหล่านี้ไปแล้วเขาไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ ซึ่งพิษเหล่านี้มีทั้งทางตรงและทางอ้อม เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องปกป้องดูแลเด็กและเยาวชน ขณะที่ทางสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) มีข้อสรุปว่า ถ้าประเทศไหนทำกัญชาให้ถูกกฎหมาย จะมีผู้ใช้กัญชาเพิ่มขึ้น มีผู้ป่วยจากกัญชาเพิ่มมากขึ้น ผู้ป่วยซึมเศร้าและการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นด้วย


นพ.วาโย กล่าวอีกว่า ตนและพรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านการใช้กัญชาทางการแพทย์ แต่หลังจากนายอนุทินเข้ามาก็มีการออกประกาศปลดทุกส่วนของกัญชาออกจากยาเสพติด ยกเว้นศาลสกัด THC เกิน 0.2 % ที่ยังเป็นยาเสพติดอยู่ ขณะที่ พ.ร.บ.กัญชากัญชง พ.ศ….. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกมธ. ดังนั้นจึงต้องยอมรับว่าวันที่ 9 มิ.ย.ที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขมีผลบังคับใช้ ทำให้เกิดสุญญากาศ กฎหมายไม่สามารถใช้ควบคุมการใช้สันทนาการได้ ต่อมาภายหลังได้มีการยกเอา พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 เข้ามาควบคุมกลิ่นและควันกัญชา เป็นเหตุรำคาญ แต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถควบคุมได้ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ต่อให้เจอคนสูบกัญชาต่อหน้าก็ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการอะไรได้ ต้องกลับมาพิมพ์เอกสารในคอมพิวเตอร์แล้วค่อยส่งไปให้ที่บ้าน ซึ่งมันๆม่ทันการแล้ว

ต่อมามีการยก พ.ร.บ. คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 มาใช้ ซึ่งกฎหมายนี้หลักการเป็นการคุ้มครองพืชสมุนไพร ไม่ได้เป็นการคุ้มครองสุขภาพประชาชน ดังนั้นจึงต้องมีการพิจารณากฎหมายให้เข้มข้น ป้องกันการเข้าถึงของกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี เพราะการใช้กัญชามีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสมอง ราชวิทยาลัยต่างๆ ก็มีการออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนและข้อห่วงใยในประเด็นนี้จำนวนมาก


“ดังนั้นประกาศกระทรวงสาธารณสุขจึงเป็นประกาศที่ใช้ไม่ได้จริง และขอถามว่าตั้งแต่ออกประกาศมานายอนุทินได้ใช้อำนาจตามประกาศนี้กี่ครั้ง ทั้งนี้ผมทราบว่ามี ส.ส.บางท่าน ไปใช้ที่ดินหลังบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลูกกัญชากันเยอะแยะ แต่ปรากฏว่า อย.ก็ไม่ซื้อ ก็เลยต้องออกมาทำให้เกิดช่องว่างแบบนี้หรือไม่ ตนมีเอกสารการตรวจราชการของกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้มีคลินิกกัญชาในแต่ละโรงพยาบาลเป็นการสร้างดีมานด์การใช้กัญชา แต่ถามว่าหมอใช้กัญชาในการรักษาจริงหรือไม่ ก็ไม่ได้ใช้”นพ. วาโย กล่าว


นพ.วาโย กล่าวว่า ทั้งนี้ประเทศไทยอยู่ในยุคกัญชาทางการแพทย์ตั้งแต่ก่อนนายอนุทินเข้ารับตำแหน่งแล้ว ดังนั้นคนที่ทำให้กัญชาของประเทศไทยเข้าสู่ยุคกัญชาทางแพทย์ไม่ใช่นายอนุทิน แต่พอปลดล็อกกัญชาเดือนเดียวปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ส่งผลกระทบทั้งในและระหว่างประเทศแล้ว สำหรับผู้ใหญ่ที่รู้เรื่องแล้วยังทำตัวเองก็ว่าไป แต่เด็กและเยาชนยังไม่สามารถรับรู้และเข้าใจด้วยตนเอง ออกไปกินข้าวมีร้านใส่ลงไปมั่วๆ จะไปตามตรวจก็คงไม่ไหว การควบคุมก็ใช้ไม่ได้จริง การขออนุญาตประชาชนก็ขอไม่ได้ คงจะมีแต่นายทุนใหญ่เท่านั้นที่ขอได้ สิ่งที่ท่านทำมาทั้งหมดไม่ได้ดูสนับสนุนทางการแพทย์เท่าไร
“ สรุปรมว.สาธารณสุขเอาชีวิต เอาอนามัยของประชาชนมาเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งเกิดความเสียหายขึ้นจริงแล้วตามที่ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยระบุ เสี่ยงต่อการเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เสี่ยงต่อการเกิดความสูญเสียและความเสียหายทางการทูต และรมว.สาธารณสุขจงใจทำให้เกิดช่องว่างของกฎหมาย เพราะสิ่งที่แก้ได้ง่ายที่สุดคือออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพื่อยืดระยะเวลาออกไป หรือยกเลิกกระบวนการนั้นก็ได้ แต่ไม่ทำ ด้วยเหตุผลทั้งหมดตนและพรรคก้าวไกลจึงไม่สามารถลงมติให้ความไว้วางใจกับนายอนุทินได้”นพ.วาโย กล่าว

ต่อมา นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปรายว่า ตนขอไม่ไว้วางใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพราะไร้คุณธรรม ไร้จิตสำนึก ที่สนับสนุน ผลักดันให้มีการเปิดเสรีกัญชาสุดโต่ง รวมถึงนายกรัฐมนตรีก็เกี่ยวข้องด้วย ที่ปล่อยให้เกิดเสรีกัญชามาไกลขนาดนี้ แม้จะถูกกฎหมาย แต่ผิดหลักของศาสนาอิสลาม และพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ยอมรับในเรื่องการใช้กัญชา ประเทศไทย ถือเป็นชาติเดียวในโลกที่เปิดเสรีกัญชาสุดโต่ง ในต่างประเทศที่เปิดกัญชาเสรี ก็ยังกำหนดให้สามารถพกพาได้ไม่เกิน3กรัม เพื่อใช้เฉพาะส่วนตัว แต่ประเทศไทยขนเป็นคันรถสิบล้อผ่านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสถานีตำรวจที่ไหนก็ได้ไม่ผิด

นายกูเฮง กล่าวต่อว่า ที่น่าเสียใจคือสภาฯไทยถูกหลอกว่า ใช้เพื่อทางการแพทย์ ไม่ใช่สันทนาการ แต่วันนี้มีการจำหน่ายเฉพาะช่อดอก อย่างที่ถนนสีลม ถนนข้าวสาร และทองหล่อ ขายกันอยู่ที่กิโลกรัมละ 200,000-1,000,000 บาท ทั้งที่ช่อดอกมีค่าTHCสูงถึง20เปอร์เซ็นต์ แต่สภาฯไทยยังมานั่งถกเถียงกันว่าค่าTHCต้องไม่เกิน0.02เปอร์เซ็นต์ ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีใครไปวัดได้ และขายกันโจ๋งครึ่ม ถูกกว่ายาบ้าอีก หน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลเรื่องสุขภาพคนไทย ไม่ใช่มาดูเรื่องรายได้ ถามว่ามีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นอะไร มีพรรคพวกของท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ จึงขอเตือนว่าพรรคการเมืองที่สนับสนุนเรื่องกัญชา ในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมบอกเลยว่าประชาชนในพื้นที่ไม่เอาแน่นอน ขณะเดียวกันยังมีการชักชวนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ให้ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองหนึ่ง ประชาชนในพื้นที่ยังต่อต้าน

นายกูเฮง กล่าวด้วยว่า สำคัญที่สุดคือทางจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศห้ามใช้กัญชาในศาสนาอิสลาม ถือเป็นของต้องห้าม ยกเว้นใช้เพื่อทางการแพทย์ที่จำเป็นเท่านั้น จึงประกาศให้มัสยิดทั่วประเทศเป็นเขตปลอดกัญชา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังเกี่ยวไปถึงศักดิ์ศรีของคนไทยด้วย นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทยทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของเขา ยังเตือนคนของเขาเลยว่าถ้ามาเที่ยวไทยแล้วกลับประเทศเขาอย่าพกกัญชากลับมาด้วย ขณะที่ร้านอาหารในประเทศมาเลเซีย ต่างได้รับผลกระทบจากการอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาอีกด้วย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img