“ก้าวไกล” ซัด “ประวิตร” ใช้บารมีแทรกแซงสอบนาฬิกาหรู “เจ้าตัว” โวมีเพื่อนดี ตอกย้ำไม่เคยร่วมปฏิวัติ โบ้ย “ประยุทธ์” ทำเองคนเดียว “บิ๊กป๊อก” ก็ไม่เกี่ยว
วันที่ 20 ก.ค.65 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน วันที่สอง ต่อมานายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่า การตรวจสอบนาฬิกาหรูที่พล.อ.ประวิตรครอบครอง แม้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ตรวจสอบแล้ว แต่ไม่สามารถตรวจสอบให้เกิดความกระจ่างชัดในสังคมได้ และตนขอตั้งข้อสังเกตว่าป.ป.ช.มีความเป็นอิสระจริงหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบนั้นพบว่า ป.ป.ช. ถูกตั้งมาในช่วง คสช. จึงถูกสร้างระบบควบคุม และใช้บารมีดำเนินการ เพราะหากเป็นมาตรฐานเดียวกันต้องตัดสินคดีด้วยมาตรฐานเดียวกัน
“ผมขอถามพล.อ.ประวิตรว่า กรมศุลากรซื้อนาฬิกาคืน 19 ล้านบาท เป็นอำนาจของท่านใช่ไหมส่งแค่ภาพถ่ายมาไม่ยอมส่งตัวจริงมาเป็นอำนาจท่านใช่หรือไม่ ซึ่งผิดปกติในการตรวจสอบ ถ้าตอบไม่ได้และองค์กรที่บังคับใช้กฎหมายทำให้ประชาชนกระจ่างชัดว่า นาฬิกาหรู 20 เรือนเป็นของใครกันแน่ ผมขอถามว่าพล.อ.ประวิตรใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรตรวจสอบใช่หรือไม่ ทั้งนี้ผมขอให้ประชาชนช่วยค้นหาความจริง” นายธีรัจชัย กล่าวพร้อมโชว์ภาพนาฬิกา จำนวน 20 เรือน พร้อมเลขรหัส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายธีรัจชัยอภิปรายนั้น ถูกประท้วงจากส.ส.พรรคพลังประชารัฐมากที่สุด และเป็นระยะๆ จนไม่สามารถอภิปรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า เป็นเรื่องเก่าที่อภิปรายแล้วและป.ป.ช.เคยตัดสินแล้ว โดยเฉพาะนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ประท้วงนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ว่า ทำหน้าที่ไม่ได้เรื่อง ทำให้นายศุภชัยขอให้ถอนคำพูด แต่นายนิโรธ ย้ำว่า “ข้อบังคับได้เรื่อง แต่ท่านไม่ได้เรื่อง แต่หากจะให้ถอน จะถอนให้” ทำให้นายศุภชัย มีสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวด้วยที่เสียงเข้มว่า “การทำงานของตนตลอด 3 ปีพิสูจน์ได้”
ต่อมา พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายธีรัชชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า “ขอเรียนว่ข้อกล่าวหาของผู้อภิปรายทั้งในเรื่องนาฬิกา ผมไม่สามารถที่จะตอบได้ ไม่ก้าวล่วงไปในเรื่องของป.ป.ช.เขาได้ เพราะผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับป.ป.ช. ส่วนเรื่องที่ผมจะมีเพื่อนดีสักคน ของคุณคงไม่เคยมี ผมมีเพื่อนดี เพื่อนคบกันมาตั้งแต่ชั้นประถม เรามีอะไร ลูกสาวเขาก็เหมือนลูกผม”
ส่วนเรื่องของการปฏิวัติผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง นี่คนปฏิวัติ (พร้อมกับชี้ไปที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี) พร้อมระบุว่า “ท่านนายกฯคนเดียว (ทำให้ส.ส.ปรบมือทั้งสภา) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง คุณก็เอาผมไปเกี่ยวข้อง ผมยังไม่รู้เลยว่าจะไปปฏิวัติเมื่อไหร่ 3 ป. 3 เปออะไร พูดไปเรื่อย เอาเรื่องจริงเข้ามาดีกว่า ผมก็มีเพื่อนดีๆ ที่จะให้ยืมอะไรได้ ส่วนในเรื่องที่ผมจะตอบคุณว่าอย่างโน้นอย่างนี้ เกี่ยวกับเรื่องป.ป.ช.นั้นผมไม่อยากก้าวล่วง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่พล.อ.ประวิตรชี้แจงอยู่นั้น พล.อ.ประยุทธ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆมีสีหน้าอารมณ์ดี พร้อมอมยิ้มตลอดเวลา
ทั้งนี้ในช่วงท้าย มีสไลด์ที่ประกอบการอภิปรายของพล.อ.ประวิตร ระบุว่า “เป็นนาฬิกาของเพื่อนที่รักกันมากให้ยืมมาใส่ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่สนิทสนมกัน ตั้งแต่เรียนในชั้นมัธยมฯ ที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล ได้ติดต่อคบหาากันอย่างใกล้ชิด สนิทสนมต่อเนื่องกันมา เป็นระยะเวลามากกว่า 50 ปี”
