จากระยอง สู่ชลบุรี คราวนี้มาถึงจันทบุรี “ผบ.ตร.” สั่ง “จตช.” เร่งตรวจสอบ “บ่อนเมืองจันท์” หลังผู้ว่าฯแถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 15 ราย แต่อาจมีผู้เกี่ยวข้องในบ่อนอีกไม่ต่ำกว่า 500 คน “วิสนุ” สั่ง “หัวหน้าจเรตำรวจ” ลงพื้นที่สอบด่วน ลั่นถ้าพบว่ากระทำผิด-ละเลย-รู้เห็น จะถือว่าบกพร่อง ต้องโดนลงโทษทางปกครองและวินัยเหมือน 2 จังหวัดก่อนหน้า
หลังมีข่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งย้าย ผบก.ภ.จว.ระยอง และ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี โดยมีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย เอาผิดผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากกรณีมีการเปิดเผยว่า มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนการพนันในพื้นที่รับผิดชอบ ล่าสุดนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และนายอภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ร่วมแถลงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จังหวัดจันทบุรี เมื่อ 31 ธ.ค.2653 ว่ามีผู้ติดเชื้อในจังหวัดจันทบุรี รวมแล้ว 15 คน ส่วนใหญ่เป็นคลัสเตอร์จากบ่อนการพนัน คือบ่อนพนันใน ต.เนินสูง อ.ท่าใหม่ และหนองสีงา ต.วังใหม่ อ.นายายอาม จากการสอบสวนโรคทราบว่า ผู้เกี่ยวข้องในบ่อน 2 แห่งนี้มีไม่ต่ำกว่า 500 คน พนักงานเป็นคนกัมพูชาที่เข้ามาตรวจหาเชื้อแล้ว ราว 68 คน คนไทยที่เข้าไปเล่นราว 270 คน โดยมีการอ้างว่า เชื่อมโยงกับบ่อนการพนันหลายแห่ง
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.63 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ “จเรตำรวจ” เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตนมอบหมายให้ พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จเรตำรวจ (หัวหน้าจเรตำรวจ) ซึ่งเป็นชุดตรวจสอบกรณีบ่อนระยอง และชลบุรี จัดทีมลงตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่โดยด่วน และให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อเสนอ ผบ.ตร พิจารณา
“หากพบว่ามีการกระทำผิด ปล่อยปละละเลย หรือมีส่วนรู้เห็น จะถือเป็นความบกพร่อง ต้องมีการดำเนินการทางปกครองและวินัยแก่ผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกันกับกรณี ภ.จว.ระยอง และภ.จว.ชลบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ “จเรตำรวจ” เพิ่งจัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบและรายงาน ผบ.ตร ว่ามีการเปิดบ่อนและตำรวจพื้นที่มีส่วนรู้เห็นจริง กระทั่ง ผบ.ตร. มีคำสั่งย้าย ผบก.ทั้ง 2 จังหวัดไปประจำ ศปก.ตร และสั่งตั้งกรรมการฯทางวินัยเอาผิดผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะถือว่าฝ่าฝืนนโยบายของผบ.ตร. ที่เคยสั่งการและคาดโทษไว้หลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ หากมีข้อมูลว่า มีพื้นที่ใดบกพร่องเช่นเดียวกันอีก ก็จะต้องถูกพิจารณาโทษเช่นเดียวกัน”พล.ต.อ.วิสนุระบุ
