“ภราดร” เผยกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญเดินหน้าเร็ว มาตรา 256/1 ผ่านแล้ว คาดกรรมาธิการพิจารณาเสร็จภายใน พ.ย.–ต้น ธ.ค. เปิดสมัยวิสามัญโหวตวาระ 3 ก่อนปีใหม่ จากนั้นส่งคำถามประชามติให้ครม.และกกต.กลาง ม.ค. 69 ย้ำเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ใช่แค่เลือก สส. แต่เลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญด้วย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการพิจารณาไปมากแล้ว โดยมาตรา 256/1 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ผ่านความเห็นชอบจากเสียงข้างมากเรียบร้อย ส่วนมาตรการอื่นคาดว่าจะพิจารณาจบภายในเดือน พ.ย. หรือช้าสุดช่วงต้นเดือน ธ.ค.
นายภราดรระบุว่า หากกรรมาธิการสรุปผลได้ตามกรอบเวลา ก็สามารถเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญได้ก่อนสมัยประชุมสามัญวันที่ 12 ธ.ค. พร้อมย้ำว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมเปิดสมัยประชุมวิสามัญทันทีหากกรรมาธิการพิจารณาเสร็จตามกำหนด โดยเป้าหมายคือให้สามารถลงมติวาระ 3 ได้ก่อนปีใหม่
เมื่อถามถึงการตั้งคำถามประชามติ นายภราดรกล่าวว่า คำถามต้องเริ่มต้นจากรัฐสภาตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยหลังลงมติวาระ 3 จะต้องมีการเสนอญัตติจากรัฐสภาเพื่อกำหนดคำถามที่ 1 ส่วนคำถามที่ 2 ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256(8) เนื่องจากการแก้ไขครั้งนี้มีการเพิ่มหมวด 15/1 ที่กำหนดให้ต้องทำประชามติ และรัฐสภาจะส่งมติให้คณะรัฐมนตรีกำหนดคำถามร่วมกับ กกต.
นายภราดรระบุว่า ตามไทม์ไลน์หลังปีใหม่ ครม.จะรับเรื่องและมีมติให้ทำประชามติภายใน 2–3 วันก่อนส่งต่อให้กกต. ช้าสุดไม่เกินกลางเดือน ม.ค. เพื่อให้ทันกรอบเวลา 75 วันตามที่กกต.กำหนด โดยต้องมีมติก่อนวันที่ 15 ม.ค. 2569 ย้อนจากวันประชามติที่คาดไว้ 29 มี.ค. 2569
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยวิจารณ์ “สูตร 20 หยิบ 1” อาจนำไปสู่การล็อกสเปกคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ นายภราดรชี้แจงว่า ประเด็นดังกล่าวเคยหารือนอกรอบแล้ว และในที่สุดยอมปรับมาใช้สูตรของพรรคประชาชนเพื่อให้ทุกฝ่ายเดินหน้าร่วมกันได้ พร้อมย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการเลือก ส.ส. แต่คือการเลือกผู้ที่จะมีสิทธิจับสลากกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญด้วย
สำหรับคุณสมบัติผู้ที่จะทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงกรณีผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือในชั้นกรรมาธิการ และจะได้ข้อสรุปในลำดับต่อไป.
