“อนุสรณ์” ลั่นเพื่อไทยไม่ทรยศประชาชน ไม่มีฮั้วพลังประชารัฐแน่นอน ยืนยันไม่ว่าจะใช้สูตรหาร 100 หรือหาร 500 พร้อมลงแข่งทุกกติกา เพื่อไทยกับพลังประชารัฐ ไม่ใช่ศัตรูแต่ถือเป็นคู่แข่งทางการเมืองต่างขั้ว เหมือนปลาคนละน้ำ คนละอุดมการณ์
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ระบุมีการฮั้วกันใช้สูตรหาร 100 แลกนายกฯ คนนอก ว่าการกล่าวหาพรรคการเมืองอื่นให้เสียหายโดยปราศจากหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว ตอนได้ดั่งใจสมประโยชน์กับสูตรหาร 500 บอกว่าเป็นเรื่องของสภาฯ พอทำท่าจะเสียประโยชน์กลับบอกว่ามีการฮั้วกัน
พรรค พท.ทำงานการเมืองตรงไปตรงมาตามกติกาประชาธิปไตย ไม่ทรยศหักหลังประชาชน ไม่มีความจำเป็นต้องฮั้วกับใคร ยืนยันมาโดยตลอดไม่ว่าจะใช้สูตรหาร 100 หรือหาร 500 พร้อมลงแข่งทุกกติกา พรรค พท.กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ใช่ศัตรูแต่ถือเป็นคู่แข่งทางการเมืองต่างขั้ว เหมือนปลาคนละน้ำ คนละอุดมการณ์ จุดยืน มุมมองต่อระบอบประชาธิปไตย วัฒนธรรมการเมืองและความเชื่อแตกต่างกันมาก
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปฮั้วกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่พร้อมจะเป็นนายกฯ ไม่ได้อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ในการเลือกตั้งปี 62 ขณะที่พรรค พท.มีรายชื่อบุคคลที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน เมื่อเรามีแคนดิเดตนายกฯ คนในที่ผ่านด่านคัดกรองตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว จะไปฮั้วเพื่อให้เกิดนายกฯ คนนอกจากพรรคการเมืองที่อยู่คนละขั้วให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคมเพื่ออะไร
“พรรค พท.ได้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งนโยบายและบุคลากร ถ้าประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เชื่อมั่นว่าพรรค พท.สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศชาติได้ ไม่ว่าจะสูตรการเลือกตั้งแบบใด ประชาชนก็พร้อมเลือก ประเทศต้องเดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ไม่ควรมีการใช้อภินิหารทางกฎหมายมาสืบทอดอำนาจ กลไกปกติในรัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขปัญหาได้ ไม่ควรมีการบิดเบือน กล่าวหาใส่ร้ายกัน” นายอนุสรณ์ กล่าว
ทางด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันสุดท้าย ก่อนจะถึงวันที่ 15 ส.ค.65 ซึ่งเป็นวันครบกำหนด 180 วัน ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐสภา พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้แล้วเสร็จ หากครบกำหนดแล้วถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ร่างหลักที่ใช้ในการพิจารณาวาระ 2 คือการสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบ สูตรหาร 100 ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 132(1)
พรรค พท.จะทำให้ดีที่สุด เรามีข้อสรุปร่วมกันว่าวันนี้จะเข้าร่วมประชุมในการประชุมร่วมรัฐสภาดังที่ดำเนินการมาโดยตลอด โดยจะเป็นองค์ประชุมในร่าง พ.ร.ป.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมให้แล้วเสร็จ เราทำงานอย่างสร้างสรรค์ ไม่ปฏิบัติตนอยู่เหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นขั้นตอนการดำเนินงานจะคำนึงถึงบทบัญญัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ยืนยันว่ามีความพร้อมสู้ศึกการเลือกตั้งในทุกกติกา โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง พรรคยังคงยืนยันในเจตนารมณ์และจุดมุ่งหมายแรกที่ได้นำเสนอมาตั้งแต่ต้นและเป็นไปตามบทบัญญัติในธรรมนูญ
ที่ผ่านมาพรรค พท.ถูกโยนความผิด กล่าวหาว่าทำลายการประชุมสภา ทั้งที่องค์ประชุมเสียงส่วนใหญ่เป็นฝ่ายรัฐบาลและวุฒิสภา ซึ่งเป็นนั่งร้านของรัฐบาล ควรจะเข้าร่วมการประชุมในทุกการประชุม พรรคพท.ยืนยันในหลักการและยึดมั่นบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ หากย้อนไปจะพบว่าร่างแก้ไขฯ ที่พรรคได้นำเสนอไปโดยให้ใช้สูตรหาร 100 เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญไปกว่านั้นเราทำตามเจตจำนงของประชาชนที่ต้องการเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ต้องมีที่มาเดียวกันเท่านั้น
“พรรค พท.ถูกผลักให้เป็นฝ่ายรับผิดชอบ ทั้งที่เรายืนยันหาร 100 มาตลอด เมื่อเสียงส่วนใหญ่เห็นว่า 500 เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมาย เพราะเคารพเสียงส่วนใหญ่ตามระบอบประชาธิปไตย แต่กลุ่มคนที่กลับไปกลับมา ไม่มั่นใจ กลัวทำผิดรัฐธรรมนูญ หรือต้องการยื้อเวลาเพื่ออยู่ต่อ กลับลอยตัวเหนือปัญหา เราไม่เล่นนอกกติกา ยังยึดมั่นในหลักการมาโดยตลอด ยืนยันว่าจะไม่วนกลับไปที่เดิมอีก เพราะตอบสังคมไม่ได้ว่า เหตุใดยังกลับไปถกเถียงกันที่หาร 500 ทั้งที่ขัดรัฐธรรมนูญ” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว….