วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 28, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“เสี่ยหนู”ลั่นคิดนโยบาย“ภาษีบ้านเกิด–พักหนี้ประชาชน” เหตุเคยเจ็บมาก่อน
- Advertisment -spot_imgspot_img

“เสี่ยหนู”ลั่นคิดนโยบาย“ภาษีบ้านเกิด–พักหนี้ประชาชน” เหตุเคยเจ็บมาก่อน

อนุทิน” เผยเบื้องหลังคิดนโยบาย ภาษีบ้านเกิด พักหนี้ประชาชน เพราะเรียนรู้จากประสบการณ์ความลำบากในชีวิตจริง สมัยทำธุรกิจเคยมีหนี้ตูมเดียว 5 พันล้านฯ


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยถึงแนวคิดการทำนโยบายของพรรค โดยเฉพาะภาษีบ้านเกิดเมืองนอน และการพักหนี้ประชาชนรายละ 1 ล้านบาท 3 ปี ว่าคนไทยไม่ว่าจะเป็นตอนนี้ หรือตอนไหน ก็มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ที่ต้องการความช่วยเหลือดูแลจากคนที่มีประสบการณ์ มีความรู้จริงๆ และมั่นใจว่าเป็นคนหนึ่ง ที่เคยผ่านมาแล้ว เมื่อครั้งทำธุรกิจ ประชาชนเวลาบอกว่าไม่มีเงิน ส่วนใหญ่ยังมีบ้าน มีที่นา แต่กับตนเอง ตอนวิกฤติต้องบอกว่าติดลบเลย เพราะมีหนี้ตูมเดียว 5,000 ล้านบาท มืดแปดด้าน ลูกต้องไปโรงเรียน ข้าวก็ต้องกิน ต่อสู้ดิ้นรน เลือดเข้าตามากตอนนั้น

สิ่งที่ต้องการคือเงิน ที่ต้องเข้ามาหมุนให้มันผ่านไปวันต่อวันก่อน และเวลา ให้ได้คิดพิจารณาหาทางออก ในที่สุดก็ผ่านมาได้ บริษัทรอด เติบโต จึงถอยออกมา พร้อมกับประสบการณ์อันล้ำค่า การบริหารมันก็หลักการเดียวกัน ผ่านตรงนั้นมาแล้ว ก็อยากนำมาใช้แก้ไขปัญหาของประชาชนบ้าง จึงมาทำงานการเมือง เลือกตั้งสมัยหน้านโยบายของพรรคภูมิใจไทยจึงง่ายๆ เลย ทำให้เงินไปถึงกระเป๋าพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด ลดภาระให้พี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ในฐานะคนไทย ที่ทำธุรกิจ มันก็เหมือนกับอาชีพอื่น มีเงินในกระเป๋าก็สบายใจ รู้แล้วว่า ต่างต้องการเงิน และต้องการเวลาให้ได้หายใจ ให้ได้คิดให้ได้ทำ

“นโยบายพรรคภูมิใจไทยมุ่งเน้นนำเงินมาใส่กระเป๋าให้ประชาชน เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน คนที่ทำได้มีผมเป็นหนึ่งในนั้น เพราะอย่างที่บอกว่าเคยผ่านมา ตัวเองเคยได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ ทำให้มีประสบการณ์ วิธีการมันก็เหมือนกัน สิ่งที่เคยทำไม่ว่าจะองค์กรใหญ่ขนาดไหน แต่หัวใจคนทำ มันคนเดียวกัน ตรงนี้ต้องไม่ลืม ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน ให้ท้องถิ่นได้เงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นเลย จะได้มีเงินพัฒนาพื้นที่ ให้ตรงจุดไม่ต้องรอส่วนกลางมาแบ่งให้แบบจำกัดจำเขี่ย แล้วพักหนี้ประชาชน ก็ให้ประชาชน ได้มีเวลาคิด มีเวลาทำงานเก็บเงิน ตอนที่เป็นหนี้ เวลาคือสิ่งที่ต้องการมากที่สุด คิดว่าประชาชนก็เหมือนกัน ประสบการณ์สอนมาแบบนั้น” นายอนุทิน กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img