วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSเวทีฝ่ายค้านประกาศตรงกัน ‘บิ๊กตู่’ ครบ8ปีหมดความชอบธรรมอยู่ต่อ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เวทีฝ่ายค้านประกาศตรงกัน ‘บิ๊กตู่’ ครบ8ปีหมดความชอบธรรมอยู่ต่อ


เวทีฝ่ายค้านเห็นตรงกัน “นายกฯ ตู่” ครบ 8 ปี หมดความชอบธรรมอยู่ต่อ แนะประกาศลาออกเอง พร้อมชูแก้ รธน. 60 ให้อำนาจประชาชนตรวจสอบองค์กรอิสระ

เมื่อวันที่21 ส.ค.65 ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ”อนาคตประเทศไทย บนเส้นทางประชาธิปไตย” ครั้งที่ 6 โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า การจัดเวทีวันนี้ เพื่อระดมความเห็นว่าประชาชนอยากเห็นอะไร คิดเห็นต่อเรื่อง 8 ปีอย่างไร เพื่อหาทางออกร่วมกันให้กับประเทศ ซึ่งสิ่งที่ตนอยากเห็นที่สุดคือวันที่ 23 ส.ค.65 พล.อ.ประยุทธ์ ออกประกาศว่าครบวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นการประกาศยุติการดำรงตำแหน่งตัวเอง ซึ่งจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกจารึกและจดจำสำหรับประชาชน เกียรติยศเกียรติภูมินายกฯถูกยกย่องว่าอยู่ในหลักนิติธรรมปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างภาคภูมิ นอกจากนั้นยังดีต่อประเทศ เพราะจะลดความอึมครึม ลดความขัดแย้ง ลดความกังวล เริ่มตาสว่างเห็นโอกาสจากที่ถูกครอบงำมา 8 ปี ได้มีโอกาสเลือกนายกฯ คนใหม่

แต่หากยังอยู่ยาวจะเกิดการผูกขาดใช้อำนาจทางการเมือง เป็นเหตุให้ก่อวิกฤติทางการเมือง กลายเป็นวงจรอุบาททางการเมือง เจตนารมณ์แบบนี้หากปล่อยไว้ความเป็นประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของปวงชนชาวไทยจะไม่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย จะเป็นประชาธิปไตยเพียงรูปแบบ เป็นประชาธิปไตยแบบจอมปลอม แต่ประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจถูกใช้เป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านพยามทำหน้าที่เพื่อประชาชนให้มากที่สุด ให้ถึงจุดมุ่งหมายในการตรวจสอบควบคุมถ่วงดุลในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล แต่หลายเรื่องพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจจะถูกบิดเบือนถูกใส่ร้ายว่าเราไม่ทำหน้าที่ เช่นการต่อสู้ในสภาเรื่องหาร 100 หรือหาร 500 การที่ไม่เป็นองค์ประชุมในรัฐสภาเพื่อให้ได้กฎหมายหาร 100 เป็นความชอบตามรัฐธรรมนูญในการทำหน้าที่ระงับยับยั้งเสียงข้างมาก อย่างไรก็ตามกระบวนการกฎหมายลูกหลังจากนี้ยังไม่จบ ยังรอว่ากฎหมายจะผ่านหรือไม่ กกต.จะมีข้อทักท้วงหรือไม่ ซึ่งช่วงที่รอนี้สามารถร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้นกระบวนการออกกฎหมายตราบใดที่ยังไม่ออกมาเป็นกฎหมาย ก็ไม่มีความแน่นอน ดังนั้นช่วงนี้จึงถือเป็นช่วงสุญญากาศหากมีการยุบสภาเกิดขึ้น

จากนั้นมีการเสวนา ”อนาคตประเทศไทย บนเส้นทางประชาธิปไตย” โดย รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้เลยหากยังมีรัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่ เพราะถูกร่างขึ้นมาโดย คสช. ทำให้พรรคที่ได้รับการเลือกตั้งอันดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ขณะที่พรรคอันดับ 2 รวมเสียงพรรคเล็กพรรคน้อย พรรคปัดเศษจัดตั้งรับบาล และเอา ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งมาเลือกนายกฯ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากนั้นรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดให้รัฐบาลในอนาคตทำตามยุทธศาตร์ชาติ หากไม่ทำตามก็จะมีปัญหา ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายพรรคยังยึดมั่นที่จะขอแก้ไขยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยกระบวนการให้มี ส.ส.ร. โดยพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอร่างรัฐธรรมนูญแล้ว 1 ร่างซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาเร็วๆ นี้

ส่วนกรณีวาระ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์นั้น ตนเห็นว่าตามเจตนารมณ์การกำหนดวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี เพื่อไม่ให้อยู่ในอำนาจนานเกินไป ซึ่งจะกลายเป็นการสร้างกลไกต่างๆเพื่อสืบทอดอำนาจ ทั้งนี้เชื่อว่าโดยเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ การตีความตามลายลักษณ์อักษร พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ซึ่งวิถีทางประชาธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ การกำหนดเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งเป็นวิถีทางประชาธิปไตย แต่คนที่มาโดยเผด็จการไม่รู้จักวิถีทางประชาธิปไตย ดังนั้นประชาชนต้องสอบให้เขารู้ว่าวิถีทางประชาธิปไตยต้องปฏิบัติเช่นนี้ หมดเวลาที่ข้อยกเว้นทั้งหลายต้องสิ้นสุดไปด้วยวิถีทางประชาธิปไตย

ขณะที่ นายพิจารญ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งมา 8 ปี แต่มี พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองอยู่มา 8 ปีแล้ว ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมาระบอบประยุทธ์กัดกินประเทศทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์จึงหมดความชอบธรรมที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯต่อ ทั้งความชอบธรรมทางกฎหมาย เพราะหากตีความตามตัวบทกฎหมายก็ชัดเจนว่า วันที่ 24 ส.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไม่ได้แล้ว นักวิชาการทางกฎหมาย สื่อมวลชน ต่างให้ความเป็นไปในทางเดียวกัน นอกจากนั้นที่ผ่านมาสะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์หมดความชอบธรรมทางการเมืองแล้ว หัวเดียวกระเทียมลีบ อยากได้ระบบเลือกตั้งหาร 500 ก็ไม่ได้ ในการอภิรายไม่ไว้วางใจก็ไม่มีใครช่วย ส.ส.รัฐบาลก็ไม่เอา ขณะที่ความชอบธรรมทางสังคมประชาชนต่างอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น

ส่วน นายธงชาติ รัตนวิชา ที่ปรึกษาพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ประเด็นวาระ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่าต้องนับวาระต่อเนื่องตั้งแต่ปี 57 ดังนั้นเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย ไม่จำเป็นต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความด้วยซ้ำ เพราะทุกคนเข้าใจตรงกัน ทั้งนี้ระบอบประชาธิปไตยอำนาจเป็นของประชาชน ถ้าประชาชนไม่ยอมรับเรื่องนี้ก็ทำได้ ซึ่งเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้าก็ด้วยกติกาของชาติ

แต่การกำหนดกติกาที่เอาเปรียบผู้อื่น สร้างความชอบธรรมให้ตัวเองที่อาศัยกฎหมายที่ตัวเองร่างขึ้นมานั้นชอบธรรมหรือไม่ ดังนั้นควรเลิกรัฐธรรมนูยฉบับนี้ และร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ โดยตั้ง ส.ส.ร.จากตัวแทนประชาชนเข้ามาร่าง เหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 ที่มีการตรวจสอบอำนาจรับมากมาย เวลานี้องค์กรอิสระใช้อำนาจเกินอำนาจอธิปไตยประชาชน ดังนั้นต้องให้อำนาจประชาชนเข้าไปตรวจสอบการใช้อำนาจขององค์กรอิสระได้ด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ใช้อำนาจจนเกินเลย ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นในทางการเมืองตนคิดว่าถึงเวลาที่ประชาชนต้องออกมาช่วยกันแสดงพลังให้เก็นว่าเราไม่ต้องการกติกาที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้นจึงขอเชิญประชาชนมาแสดงพลังว่าเราคือเจ้าของอำนาจที่แท้จริง อย่าปล่อยให้กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งสืบทอดอำนาจโดยไม่สิ้นสุด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

ว่าด้วยเรื่อง พัฒนา“พุทธมณฑล”

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img