นักวิชาการอิสระวิเคราะห์ จุดจบ “โจซัวหว่อง” ฮีโร่ม็อบฮ่องกง “อบอุ่นตอนถือไมค์ โดดเดี่ยวตอนโดนคดี” คือบทเรียนสำหรับ “ม็อบมุ้งมิ้ง” เมื่อหมดประโยชน์ทางการเมือง แกนนำก็ต้องสู้คดีที่มีติดตัว ต่างกรรมต่างวาระอย่างโดดเดี่ยว หลังโดน “สว.มะกัน” แกง อดได้สถานะผู้ลี้ภัย
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.64 นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pat Hemasuk ระบุว่า…”คุกไทยดูดีกว่าเยอะ คุกจีนโหดนะ โดนจูงโซ่เหมือนหมาเลย โจชัว หว่อง แกนนำม็อบเยาวชนในฮ่องกงวัย 24 ปีที่ตอนนี้กำลังจะโดนคดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากคดีบ่อนทำลายชาติตามกฎหมายใหม่ อบอุ่นตอนถือไมค์ แต่โดดเดี่ยวตอนโดนคดี เมื่อวันก่อนพวกแกนนำม็อบฮ่องกงไม่ว่าเด็กหรือแก่ ก็โดนตำรวจบุกจับไปเพิ่มอีก 50 คนพร้อมกันถึงในบ้านแต่ละคนแบบไม่ให้ตั้งตัว งานนี้ฮ่องกงใช้ตำรวจประมาณ 1,000 นาย บุกจับพร้อมกันแบบไม่ให้ส่งข่าวให้เพื่อนหลบหนีได้ทัน
เรื่องนี้เหล่าม็อบฮ่องกงรู้ดีว่าโดนแกงไปเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนปีใหม่ จากที่ นายเท็ด ครูซ (Ted Cruz) สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ จากพรรครีพลับลิกัน ที่เคยบินไปสนับสนุนม็อบฮ่องกงถึงที่ และพูดให้กำลังใจแกนนำทุกคนให้สู้กับรัฐบาลจีน โดยอ้างว่าเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง แต่เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาตัว นายครูซ เองพูดกลับลำออกมาต่อต้านร่างกฎหมายใหม่ของสหรัฐที่จะให้สถานะพิเศษแก่ฮ่องกง เพื่อให้ชาวฮ่องกงสามารถมีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยในสหรัฐได้ และต่อมา กม.ไม่ผ่านวุฒิสภา เพราะวุฒิสมาชิกจากพรรครีพลับลิกันไม่เอาด้วยกับร่างนี้
เรื่องนี้เป็นที่รู้กันว่าเมื่อพวกม็อบเยาวชนในฮ่องกงหมดความหมาย และใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว ก็ป่วยการที่จะให้คนเหล่านี้เข้ามาเป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องดูแลส่งเสียให้เรียนต่อ และอยู่ในสหรัฐในฐานะผู้ลี้ภัยที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรในอนาคตได้อีกต่อไป
มองดูม็อบเยาวชนฮ่องกงแล้วมองดูม็อบเยาวชนบ้านเรา อนาคตคงไม่ต่างกันสักเท่าไร หมดประโยชน์ในทางการเมืองแล้ว แกนนำแต่ละคนก็ต้องสู้คดีที่มีติดตัวกันนับสิบคดีต่างกรรมต่างวาระอย่างโดดเดียว และอายุแต่ละคนก็ไม่ใช่ขึ้นศาลเยาวชนแล้วด้วย แม้ส่วนมากจะยังเรียนไม่จบก็ตาม“
ด้าน น.ส.ซินเธีย เอี่ยมสะอาด ไฮโซแกนนำกลุ่มฅนไทยผู้รักชาติ โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก Cynthia Aiemsaard ระบุว่า…ตัวอย่างที่ม็อบมุ้งมิ้งควรอ่าน ? โจ ชัวร์ หว่อง ว่าพริ้ว ฝีปากดี กร่างเก่งในม็อบ เพลานี้โดนล่ามโซ่โดนจูงเหมือนหมา เลือกเอาเยาวชนเอ้ย !!! มีประเทศไหนหรือองค์กรไหนกล้าเข้าไปเผือกไหมล่ะ?
ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า…#ช่วงเวลาที่สามนิ้วต้องทบทวน ประชาธิปไตยของอเมริกา กำลังเกิดปัญหา เพราะตัวคน คนแพ้เขาไม่ยอมแพ้ แต่ปัญหาของประชาธิปไตยของไทยเรา ก็เกิดจากคน คนทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แม้ศาลจะตัดสินไปแล้ว และพยายามปลุกปั่น เพื่อล้มเจ้า เปลี่ยนระบบ
สิ่งที่เกิดขึ้นที่ตึกรัฐสภาของอเมริกา จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทยมาถูกทาง ทั้งเรื่องรากเหง้าและวิถีไทย ปัญหาใหญ่จึงเกิดจากคน ช่วงเวลาโควิดนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่น้องๆสามนิ้ว ได้ทบทวนหลักคิด ศึกษาความเป็นมา ของความเป็นชนชาติไทย บนฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อเทียบกับอเมริกา อย่างน้อยจะได้นำพลังที่มีของน้องๆ มาช่วยผลักดันประเทศ ไปในทิศทางที่ถูกต้อง