“ลุงตู่” นั่งหัวโต๊ะพิจารณาปรับย้ายทหารปลายปีไร้ปัญหาลงตัว เตรียมนำเสนอให้ “ลุงป้อม” รักษาการนายกฯนำทูลเกล้าฯ ขณะที่ ตท.22 เข้าตำแหน่งสำคัญ
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 3 ก.ย.2565 ก่อนจะพูดถึงเรื่องของกองทัพ ช่วงวันที่ 4 – 6 .ย.กรมอุตุฯขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสมที่เกิดขึ้นไว้ด้วย ที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
@@@……พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหมได้กำชับสั่งการทุกเหล่าทัพ ที่มีหน่วยทหารในพื้นที่ ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ และให้ประสานกับฝ่ายปกครอง และ กทม. สนับสนุนแจ้งเตือน เฝ้าระวังและให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง พื้นที่ริมแม่น้ำสายหลัก และพื้นที่ฝนสะสมต่อเนื่อง เสี่ยงดินโคลนถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน นอกจากนี้ยังย้ำให้จัดกำลังพลและเครื่องมือช่าง เข้าช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน เพื่อดูแลความปลอดภัยและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนขั้นต้น โดยเฉพาะ การเข้าไปช่วยเสริมแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ต่ำและพื้นที่เขตเมือง การเปิดทางน้ำและการระบายน้ำออกจากพื้นที่ต่ำน้ำท่วมขัง และให้จัดยานพาหนะอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขัง ต่อเนื่องไปถึงการสนับสนุนฟื้นฟูหลังน้ำท่วม จนกว่าสถานการณ์จะปกติ
@@@……ที่กองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พลโท สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1/ผู้อํานวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 1 ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการ ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และรับทราบสถานการณ์น้ํา ในพื้นที่บริเวณสวนสาธารณะ ใต้สะพานตากสิน เขตสาธร กรุงเทพมหานคร โดยได้รับฟังคําบรรยายจากผู้บังคับหน่วยของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งได้ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ในการกรอกกระสอบทรายเพ่อื ทํา แนวกั้นน้ําบริเวณจุดที่จะเกิดน้ําไหลท่วมจากแม่น้ําเจ้าพระยาที่อาจจะสูงขึ้นจากการปล่อยน้ําของ เขื่อนเจ้าพระยา
ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบสิ่งของบํารุงขวัญให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน โดย ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้หน่วยทหารดูแลทุกเขตในกรุงเทพมหานคร โดยจัดให้มีผู้ประสานงานประจําเขตเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนเมื่อได้รับ ความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ําท่วม เช่น การช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง, การ อํานวยความ สะดวกด้านการจราจร, การแจกจ่ายสิ่งของอุปโภคบริโภคผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งทํางาน ร่วมกับสํานักการระบายน้ํา กรุงเทพมหานคร ในกําจัดสิ่งปฏิกูลที่กีดขวางทางน้ําไหล ลอกท่อ ระบายน้ําและบรรจุกระสอบทรายทําแนวกั้นน้ําไหลที่จะท่วมเข้าชุมชนหรือบ้านเรือนประชาชน
@@@……กองทัพอากาศ โดย พล.อ.ท. ชัยนาท ผลกิจ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ/ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพลเรือนทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่กองทัพอากาศรับผิดชอบ ซึ่งประกอบไปด้วยลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ภาคอีสานตอนบนและตอนล่าง โดยใช้สมรรถนะของกองทัพอากาศทั้งการถ่ายภาพทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์, ชัยนาท, อ่างทอง, สิงห์บุรี, พระนครศรีอยุธยา นำมาวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงประสบอุทกภัยและการพยากรณ์เส้นทางน้ำไหล เพื่อทำการอพยพประชาชนและสิ่งของรวมทั้งวางแผนช่วยเหลือในกรณีเร่งด่วน และให้กองบิน/โรงเรียนการบิน ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
@@@……มาดูเรื่องดี ๆ พล.อ. ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม รองเสนาธิการทหาร และคณะ ได้ตรวจเยี่ยมโครงการ “สร้างคน สร้างโอกาส สร้างชาติมั่นคง” ภายใต้แนวคิด “ดี เก่ง กล้า ด้วยดนตรี กีฬาและศิลปะ” ณ บ้านนนทภูมิ ตำบาลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมี นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้การต้อนรับ ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือแสดงเจตจำนงในการร่วมขับเคลื่อนโครงการ “สร้างคน สร้างโอกาส สร้างชาติมั่นคง”ภายใต้แนวคิด “ดี เก่ง กล้า ด้วยดนตรี กีฬา และศิลปะ”
เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านดนตรี กีฬา และศิลปะ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เด็ก เยาวชน สตรี ครอบครัว คนพิการ ผู้สูงอายุ และคนไร้ที่พึ่งที่อยู่ในความดูแลของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สามารถพัฒนาตนเอง และมีทักษะด้านดนตรี กีฬา และศิลปะ นำไปต่อยอดสู่การประกอบอาชีพ การมีรายได้พึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง ซึ่งกองบัญชาการกองทัพไทยได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในพื้นที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดนนทบุรี และ จังหวัดปทุมธานี โดยมี สำนักสวัสดิการทหาร เป็นหน่วยดำเนินการ
@@@……พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เข้าร่วมงาน Defense & Security 2022 ซึ่งจัดขึ้น ณ ศุนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยงานดังกล่าว เป็นการจัดแสดงเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคง และการรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีบริษัทต่างๆจากต่างประเทศ ร่วมแสดงผลงานวิจัยและผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งชมการจัดแสดงเทคโนโลยี งานวิจัยและพัฒนาในหน่วยงาน สังกัดกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมของไทย มีนโยบายผลักดันโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนำประเทศไทยไปสู่การพึ่งพาตนเอง รวมทั้งได้เชิญชวนให้มาลงทุนใน EEC และการจัดงานฯ ในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่ไทยและมิตรประเทศจะได้มีการขยาย ความร่วมมือระหว่างกัน และเป็นการนำเสนอศักยภาพของยุทโธปกรณ์ และขีดความสามารถ ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของประเทศต่างๆให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
@@@……ผบ.ทหารสูงสุด ได้รับมอบยานรบ 4X4 ลาดตระเวน (LIGHT FIGHTING VEHICLE : LFV) จาก สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (ผอ.สทป.) ซึ่งเป็นยานยนต์ทางยุทธวิธีขนาดเบาที่มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ ใช้ได้หลายรูปแบบทั้งในการต่อสู้ ลาดตระเวนจู่โจม บรรทุกสัมภาระ บรรทุกสัมภาระและกำลังพล มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ในพื้นที่ทุรกันดาร เฝ้าตรวจการณ์แบบต่าง ๆ หรือเป็นยานยนต์อเนกประสงค์ทั่วไป และยานรบ 4X2ลาดตระเวน (LIGHT FIGHTING VEHICLE : LFV) ซึ่งเป็นยานยนต์ทางยุทธวิธีขนาดเบาที่มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ใช้ได้หลายรูปแบบทั้งในการต่อสู้ ลาดตระเวนจู่โจม เฝ้าตรวจการณ์แบบต่าง ๆ หรือเป็นยานยนต์อเนกประสงค์ติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับและระบบป้องกันภัยทางอากาศ
@@@……พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือ ในพื้นที่สัตหีบ เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ บนเรือหลวงนเรศวร ซึ่งจอดเทียบภายในท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ จากหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งจัดให้มีพิธีเพื่อเป็นเกียรติ แก่ผู้บัญชาการทหารเรือ รวมถึง รองปลัดกระทรวงกลาโหม รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายทหารชั้นนายพลเรือ จากกองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกองทัพเรือ ที่เกษียณอายุราชการ ในส่วนของการจัดพิธีตรวจพลสวนสนามทางเรือ มีการจัดกำลังพลจากกองเรือยุทธการ ร่วมกับ กำลังทางเรือและอากาศยานเข้าร่วมในพิธี โดยหมู่เรือรับรอง ประกอบด้วย เรือหลวงนเรศวร เป็นเรือรับรอง เรือ ต.112 และ เรือหลวงตากใบ เป็นเรือตรวจพลหมู่เรือสวนสนาม (เรือจอด) โดยมี เรือหลวงปิ่นเกล้า เป็นเรือยิงสลุต นอกจากนั้นยังมีการจัดกำลังอากาศนาวี จากกองการบิน กองเรือยุทธการ ร่วมในพิธี
@@@……ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 55 พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ได้มุ่งเน้นการพัฒนากองทัพเรือ ให้ขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ด้วยนโยบายที่มุ่งเน้นให้กองทัพเรือ เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น นำพากองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้า โดยเน้นความสามัคคีปรองดอง เป็นพี่เป็นน้อง ร่วมมือร่วมใจปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วย ต้องดูแลหน่วยและสวัสดิการ กำลังพลชั้นผู้น้อย ซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กองทัพเรือไปถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของ พล.ร.อ. สมประสงค์ นิลสมัย ที่ว่า “รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา”
@@@……ไม่ต้องลุ้นกันอีกต่อไป สำหรับการโยกย้ายนายทหารปลายปี ล่าสุดมีรายชื่อออกมาเรียบร้อยโรงเรียนเตรียมทหาร หลังจากที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม ได้ประชุมคณะกรรมการปรับย้ายทหารชั้นนายพล ประกอบด้วย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทอ.) โดยรายชื่อของทุกเหล่าทัพ ได้ส่งกลับให้เจ้ากรมเสมียนตรา ตรวจความถูกต้องอีกครั้ง ก่อนนำนำส่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาการนายกฯ ลงนาม และคาดว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งตำแหน่งสำคัญ ๆ ที่ทหารให้ความสนใจและอยากจะรู้ใครจะมาเป็นนาย ได้แก่ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม คาดว่า พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม จะได้เป็น ปลัดกระทรวงกลาโหม ตำแหน่ง ผบ.ทร. คาดว่า พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้ช่วย ผบ.ทร. จะได้เป็น ผบ.ทร. และ ตำแหน่ง ผบ.ทอ.คาดว่า พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ. จะได้เป็น ผบ.ทอ.
@@@……การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารรับราชการประจำปีตามวาระ ถือเป็นวิถีทางปกติการรับราชการ ทั้งนี้การพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพ แทนผู้ที่เกษียณราชการด้วยนั้น ในการประชุมสภากลาโหมที่ผ่านมา ซึ่งรายชื่อเข้าพิจารณาทั้งหมดมาจากการเสนอของเหล่าทัพเอง ซึ่งหมายถึงทุกคนผ่านการพิจารณาขั้นต้นมาก่อนแล้วว่ามีความรู้ความสามารถที่จะทำหน้าที่สำคัญได้เป็นอย่างดีทุกคน ไม่ว่าใครจะได้รับการพิจารณาในขั้นสุดท้ายก็ตาม ..ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า ทุกคนมีความพร้อม และสามารถปฏิบัติหน้าตามที่ได้รับมอบหมายได้ รวมทั้งทุกๆ ตำแหน่งมีความสำคัญที่จะต้องทำงานสอดประสานกัน จะขัดแย้งกันไม่ได้ ซึ่งมันมีความหมายมากกว่าที่มันเป็น ความรักความสามัคคี ที่สร้างสมมาตั้งแต่เป็นนักเรียนทหารร่วมรุ่นมาแต่เก่าก่อน คือ หัวใจสำคัญที่ทำให้ฝ่ายความมั่นคงมั่นใจว่า งานด้านความมั่นคงจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร้รอยต่อ ความสำนึกในหน้าที่เป็นอีกประเด็นที่ทุกคนได้รับการปลูกฝังผ่านระบบการศึกษาทางทหารและประสบการณ์การทำงาน ทำให้มั่นใจได้ว่า หน่วยงานความมั่นคงยังคงมีความรัก ความสามัคคี ที่สามารถเป็นเครื่องมือของภาครัฐได้เป็นอย่างดีต่อเนื่องต่อไปแน่นอนไร้ข้อสงสัย
@@@……ตามที่กองทัพบกได้รับสมัครชายไทยอายุ 18 – 20 ปี และ 22 -29 ปี เข้าเป็นทหารกองประจำการ โดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์หรือ “ทหารออนไลน์”ตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม เพื่อมุ่งสู่ระบบทหารอาสาทดแทนการเรียกเกณฑ์มาตั้งแต่ปี 2564 และได้รับความสนใจและการตอบรับของชายไทยสมัครเป็นทหารมากจำนวนมากขึ้นในทุกปีตามลำดับ สำหรับปี 2566 กระทรวงกลาโหมได้ขยายการรับสมัครทหารออนไลน์ ไปใน 3 ส่วนราชการ ได้แก่ กองบัญชาการกองทัพไทย, กองทัพอากาศ และกองทัพบก เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าประจำการมากขึ้น
@@@……ในส่วนของกองทัพบก ในปีนี้ยังคงเดินหน้า “ทหารออนไลน์” โดยกำหนดยอดการรับสมัครจำนวน 28,642 นาย โดยในปีนี้ยังได้เปิดรับผู้ที่มีความสูงตั้งแต่ 146 เซนติเมตรขึ้นไป ซึ่งเดิมกำหนดความสูงไว้ที่ 159 เซนติเมตร และเพิ่มทางเลือกให้ผู้สมัครสามารถเลือกหน่วยทหารที่ตนเองประสงค์จะเข้าประจำการในส่วนของกองทัพบกได้ 510 หน่วยทั่วประเทศ และยังสามารถเลือกประจำการในสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย 2 หน่วย และกองทัพอากาศอีก 1 หน่วย การสมัครเป็นทหารออนไลน์ ประจำปี 2566 สามารถสมัครด้วยวิธีง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ 24 ชม. ทางเว็บไซต์ rcm66.rta.mi.th หรือสามารถสมัครด้วยตนเองที่หน่วยทหารใกล้บ้าน เมื่อยื่นสมัครแล้วผู้สมัครจะต้องเข้ารับการคัดเลือกใน 2 ขั้นตอนคือ 1) การตรวจหลักฐาน วัดขนาดของร่างกายที่หน่วยทหารใกล้บ้าน ได้ตลอดห้วงการรับสมัคร และขั้นตอนที่ 2) การตรวจโรคทางการแพทย์ ณ 35 มณฑลทหารบก
……………
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย… “รหัสมอร์ส”
