“ประวิตร” ย้ำรัฐบาลมุ่งมั่นสร้างรายได้ชาวสวนปาล์ม แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ผลักดันราคาปาล์มสูงขึ้น คาดปีนี้รายได้ทะลุหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 5 ก.ย.65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศาลากลางจังหวัดกระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการปาล์มน้ำมัน พร้อมกล่าวพบปะให้กำลังใจเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่มาให้การต้อนรับ ว่า วันนี้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและปาล์มน้ำมันของจังหวัดกระบี่ โดยตั้งใจมาพบปะพี่น้องชาวสวนปาล์มเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อน ด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ชาวสวนปาล์มหลายจังหวัดภาคใต้ ได้ไปพบตนเองที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่ทำต่อเนื่องมาแล้ว 8 ปี ขอยืนยันว่า รัฐบาลมีความห่วงใยชาวสวนปาล์ม พยายามลดต้นทุน ผลักดันราคาให้ดีขึ้น โดยออกมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จากความมุ่งมั่นทุ่มเทแก้ไขปัญหา มีผลงานออกมาชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความพึงพอใจให้กับชาวสวน โดยชาวสวนได้ส่งตัวแทนไปขอบคุณตนเองที่ทำเนียบรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ให้ผู้บริโภคเดือดร้อน รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ นำปาล์มไปผลิตเป็นไบโอดีเซล ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ผลักดันส่งออกจนราคาดีขึ้นสูงกว่าราคาประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท จากราคาปาล์มทะลายเฉลี่ย กิโลกรัมละ 3 บาทกว่า เมื่อปี 2562 จนราคาสูงขึ้นถึง กิโลกรัมละ 6 บาทกว่า เมื่อปี 2564 คาดว่าปีนี้ จะอยู่ราว ๆ 7.50 บาท ส่งผลให้เงินสะพัดในพื้นที่ จากห้าหมื่นล้านบาทต่อปี เพิ่มขึ้นถึงหนึ่งแสนสองหมื่นล้านบาท
รองนายกรัฐมนตรีคาดว่ารายได้จากปาล์มในปีนี้ น่าจะสูงถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท ที่สำคัญตนเองได้ผลักดันให้เร่งมาตรการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แปรรูป 8 ชนิด สร้างให้ปาล์มน้ำมัน เป็นพืชเศรษฐกิจแห่งอนาคตที่ยั่งยืนในระดับโลก โดยเฉพาะในปีหน้า ไทยจะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางผลิตน้ำมันอากาศยานชีวภาพ (SAF) ใช้กับอากาศยาน เพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอนฯ สู่ชั้นบรรยากาศในภูมิภาคนี้ พร้อมกับย้ำว่า รัฐบาลจะดูแลเกษตรกรให้อยู่ดีกินดี เศรษฐกิจดี เพราะปาล์มราคาดี จะทำให้ผู้ปลูกปาล์มมีแต่รอยยิ้มกันทุกคน และรองนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนท้ายว่า ตนเองอายุมากแล้ว จะพยายามทำงานเพื่อประชาชน โดยใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ เพื่อให้มีกำลังใจในการทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและประเทศชาติต่อไป