ไม่รู้ว่าฉลาดหรือโง่สิ้นดี ถึงเลือกวิธีปั่นกระแสปลุกความเกลียดชังกับคนที่ไม่เคยเจอหน้า ล่าสุดเด็กบัญชีจุฬาฯ ทวีตให้พรรคพวกหาทางข่มขืนลูกสาวของ “ประยุท”
แม้จะเขียนชื่อผิด ๆ เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกดำเนินคดี ก็อย่าคิดว่าจะรอดตัวไปได้ง่าย ๆ เพราะไม่เจอคุกก็ต้องเจอตีน
ก่อนหน้านี้เด็กอายุ 14-16 ปี เรียนอยู่ในชั้นมัธยมฯ ถูกปั่นหัวให้กระทำผิดมาตรา 112 จนถูกจับไปดำเนินคดี โดยไม่รู้ว่า กำลังเป็นเหยื่อของ “ผู้อยู่หลังม่าน” ที่กำลังสนุกกับการเล่นเกมเบี้ยกินขุน
การเอาชนะกันในทางการเมือง จะใช้วิธีใดก็ตาม แต่ไม่ควรละทิ้งความเป็นมนุษย์ ไปสวมวิญญาณเดรัจฉาน เสี้ยมเด็กไปชนกับขั้วอำนาจ เพื่อให้เด็กถูกทุบทำลาย และขั้วอำนาจจะได้ถูกสังคมโลกประณาม
“ผู้อยู่หลังม่าน” ไม่ได้ทำลายเด็ก และขั้วอำนาจเท่านั้น ยังทำลายความงดงามของสังคมไทยที่เคยเปี่ยมด้วยความเอื้ออาทร แม้คนไม่เคยรู้จัก แต่พอเจอหน้ากัน ก็จะถามว่า เอ้าไปไหนมา กินข้าวหรือยัง แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความเอื้อเฟื้อ
แต่วันนี้ “ผู้อยู่หลังม่าน” ปลูกข้อมูลในสมองให้คนกลุ่มหนึ่งเกลียดชังคนอีกกลุ่ม จนถึงขั้นพร้อมจะทำร้ายร่างกายหรือพรากชีวิตกันได้ตลอดเวลา
ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วใน โดนัลด์ ทรัมป์ เอาโควิดมาโจมตีจีน ปลูกข้อมูลในสมองของคนสหรัฐให้รู้สึกเกลียดชังคนจีนและคนเอเชีย จนเมื่อวันก่อน คนผิวขาว บุกเข้าไปในร้านนวดของชาวเกาหลี กราดยิงแขกที่มาใช้บริการ ตายไป 8 ศพ ในจำนวนนี้เป็นชาวเกาหลี 6 ศพ แล้วในเวลาที่ใกล้เคียงกันเกิดเหตุคนผิวขาวทำร้ายป้าแก่ ๆ ชาวเอเชียบนท้องถนน
เราอยากให้ประเทศไทยที่เคยเอื้ออาทรกัน เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนแบบสหรัฐอเมริกาใช่ไหม..??
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่า “ผู้อยู่หลังม่าน” รู้ถึงธรรมชาติของ “ความกลัว” ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในชีวิตมนุษย์ ถ้าปั่นหัวให้ฝ่ายหนึ่งกลัว ฝ่ายนั้นก็จะไปฆ่าฝ่ายตรงข้ามทันที
เหมือนกับการ ปั่นหัวให้เด็กบัญชีจุฬาฯ เกลียด “ประยุท” ถึงขนาดทวีตเรียกร้องให้คนไปข่มขืนลูกสาว “ประยุท” เมื่อ “ประยุท” เกิดความกลัว ก็จะต้องหาทางปกป้องครอบครัว ถ้าเล่นงานทางกฎหมายไม่ได้ “ประยุท” ก็ต้องหาทางอื่นจัดการ เพราะความกลัวจะผลักดันให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้กลับอย่างรุนแรง จนกว่าจะหมดความกลัว
วันนี้การทวีตคุกคามอาจสร้างความสะใจ เพราะทำให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นทุกข์ โดยลืมไปว่า ความหวาดกลัวกำลังขับดันสันดานดิบของมนุษย์ให้กระทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชีวิตและครอบครัวของผู้ที่ถูกข่มขู่คุกคาม
ฉะนั้นบนเส้นทางสายนักเลงมีคติอยู่ว่า อย่าไปขู่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลัว เพราะถ้าเขากลัว เขาจะชิงฆ่าเราก่อน
ฉะนั้นการทวีตชักชวนให้ใครต่อใครไปข่มขืนลูกสาว “ประยุท” จึงเป็นการกระทำที่โง่ที่สุด เพราะนอกจากตัวเองจะเดือดร้อนแล้ว ยังเป็นการทำลายประชาธิปไตย เพราะทำให้คนทั่วไปมองเห็นว่า ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยมีพฤติกรรมต่ำช้าน่ารังเกียจ ไม่ควรเข้าร่วมสังฆกรรม
น่าสมเพช พวกซ้ายกะลาขวากระป๋อง เรียกร้องประชาธิปไตย กลับทำลายประชาธิปไตยเสียเอง บางคนกระแดะอยากเป็นฝ่ายซ้าย แต่มีจิตวิญญาณรับใช้ทุนสามานย์.
#ดินสอโดม