“…..เป็นที่ชัดเจนว่า รัฐบาลไบเดนที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ตั้งใจที่จะดำเนินมาตรการเพื่อราดน้ำมันลงในกองไฟ และกระตุ้นให้ความตึงเครียดของความขัดแย้งนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น….”
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 30 พ.ย.67 ห้วงเวลาที่ผ่านมา การสู้รบระหว่างรัสเซีย และยูเครน ทวีความซับซ้อน และตึงเครียดมากขึ้น หลังหลายประเทศตัดสินใจปลดล็อกการใช้ขีปนาวุธที่ทรงอานุภาพในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย โดยสหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้งานระบบขีปนาวุธยุทธวิธี หรือที่รู้จักในชื่อ ATACMS: Army Tactical Missile System ซึ่งมีความเร็วเหนือเสียง และมีศักยภาพการโจมตีที่แม่นยำ ส่วนอังกฤษ และฝรั่งเศสอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลจากอากาศสู่พื้น Storm Shadow หรือ SCALP ที่มีศักยภาพทำลายล้างด้วยหัวรบแบบเจาะทะลุหลายชั้น
@@@…….ภายหลังได้รับไฟเขียว กองทัพยูเครน เปิดฉากใช้งานขีปนาวุธทั้ง ATACMS และ Storm Shadow โจมตีใส่เป้าหมายลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียหลายจุดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะที่ รัสเซีย ตอบโต้กลับด้วยการใช้ขีปนาวุธ Oreshnik ซึ่ง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เผยว่า เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง IRBM ที่ติดตั้งหัวรบความเร็วเหนือเสียง แต่ไม่ได้ใช้หัวรบนิวเคลียร์ โดยคาดว่า ขีปนาวุธชนิดนี้ คือ รุ่นที่ลดระดับลงมาจากขีปนาวุธข้ามทวีป ICBM รุ่น Yars – M
@@@……มีรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่า นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้พูดคุยหารือกันในประเด็นเรื่องการส่งกำลังทหารเข้าร่วมรบในยูเครน แม้ว่าจะถูกคัดค้านจากเยอรมนี อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศส ได้ออกมาระบุว่า การส่งกำลังช่วยเหลือยูเครนในบางรูปแบบยังอยู่ในขั้นตอนของการวางแผน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ นายฌอนโน แอล บาร์โรต์ รมว.กต.ฝรั่งเศส ที่ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อห้วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลฝรั่งเศสยัง พร้อมพิจารณาทุก ๆ ทางเลือกในการช่วยเหลือยูเครนต่อสู้กับรัสเซีย
@@@……ทั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า รัฐบาลไบเดนที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ตั้งใจที่จะดำเนินมาตรการเพื่อราดน้ำมันลงในกองไฟ และกระตุ้นให้ความตึงเครียดของความขัดแย้งนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ในขณะที่ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ยังไม่แสดงท่าทีใด ๆ แต่ที่ผ่านมา รัสเซีย เคยประกาศว่า หากสหรัฐฯ ยกเลิกข้อห้ามในการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย ก็จะถือว่าเป็น ‘การมีส่วนร่วมโดยตรง’ ของ NATO ในสู้รบนี้
@@@…….ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่า การทิ้งทวนอันตรายของฝ่ายการเมืองยูเครน รวมทั้งท่าทีของสหรัฐฯ อังกฤษ ตามมาด้วยฝรั่งเศส ด้วยการเพิ่มมาตรการการใช้ขีปนาวุธระยะที่ไกลออกไป ก่อนที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมปีหน้านั้น ไม่เป็นผลดีต่อแผนการจัดให้มีการเจรจาพูดคุยกันโดยตรงในเร็ววัน เพื่อแสวงหาข้อยุติในการคลี่คลายความขัดแย้งที่มีการใช้กำลังทางทหาร แต่กลับทำให้สถานการณ์การสู้รบยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น และก็ไม่ได้แปลว่ายูเครนจะได้เปรียบบนโต๊ะเจรจาแต่อย่างไร แต่กลับอาจจะเป็นการดึงกลุ่มประเทศนาโต้ NATO เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสู้รบ และกลายเป็นศึกขีปนาวุธแลกหมัดกันไปมาอันเป็นเงื่อนไขของสงครามขนาดใหญ่ ซึ่งไม่สมควรให้เหตุการณ์ที่กล่าวถึงนี้เกิดขึ้น เนื่องเพราะอาจล่อแหลมต่อการขยายความรุนแรงทางทหารเข้าสู่สงครามโลกครั้งต่อไปได้
@@@…….ดังนั้น การเตรียมประเด็นการเจรจาของยูเครนให้เสียเปรียบน้อยที่สุด และการยับยั้งชั่งใจของมหาอำนาจทั้งหลายที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรง และทางอ้อม จึงเป็นความจำเป็นยิ่งยวดที่ขาดไม่ได้ มิฉะนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่คาดไม่ถึงขึ้นได้ ซึ่งฝ่ายความมั่นคง จะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่า สถานการณ์การสู้รบในยุโรปนี้ จะกระทบต่อเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศไทยให้น้อยที่สุดจากนี้ไป
@@@…….จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบเหตุอุทกภัย และมีความเสี่ยงดินโคลนถล่ม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพระดมเครื่องจักร เครื่องมือยุทโธปกรณ์ และกำลังพลเข้าช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัย 7 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี สงขลา สตูล นครศรีธรรมราช ปัตตานี นราธิวาส และยะลา มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 136,219 ครัวเรือน โดยเหล่าทัพได้มีการเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือในระดับสูงสุด ได้บูรณาการร่วมกับ ปภ.จังหวัด และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน อาทิ สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดกำลังพล พร้อมเครื่องสูบน้ำ และเรือยาง เรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัย
@@@…….กองทัพบก โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่4/ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค4 ได้จัดกำลังพล เข้าปฏิบัติหน้าที่แล้ว จำนวนกว่า 500 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 12 คัน, รถกระบะ จำนวน 6 คัน เรือท้องแบน 6 ลำ เสื้อชูชีพ 223 ตัว และอุปกรณ์ในการช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกรมการทหารช่าง ได้จัดเรือท้องแบนจำนวน 25 ลำ พร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าเสริมการช่วยเหลือ โดยได้ดำเนินการเตรียมการป้องกันอุทกภัยและการช่วยเหลือ เร่งบรรจุและก่อกระสอบทรายทำแนวป้องกันน้ำ ช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ผู้ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงการช่วยขนย้ายยานพาหนะออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมกับแจกจ่ายอาหาร ข้าวกล่อง และน้ำดื่มให้กับครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในขั้นต้น ในขณะเดียวกันมีบางพื้นที่ที่น้ำเริ่มมีระดับลดลง เจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยเหลือในการฟื้นฟูทำความสะอาดต่อไป
@@@…….พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ในพื้นที่ หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ณ ค่ายพิทักษ์อุทุมพรเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 และ พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ให้การต้อนรับ โดยผู้บัญชาการทหารบก และคณะ ได้เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และตรวจภูมิประเทศ ซึ่งฐานปฏิบัติการนี้เป็นฐานระดับกองร้อย ในอดีต พ.ศ. 2552 และ 2554 เคยเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์รบปะทะ ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับนักเรียน สำหรับใช้ในการทำกิจกรรมของโรงเรียน
@@@…….จากนั้นคณะผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการช่องปลดต่าง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และตรวจภูมิประเทศตามแนวสันปันน้ำของทิวเขาพนมดงรัก ซึ่งใช้เป็นแนวเส้นแบ่งเขตแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยผู้บัญชาการทหารบก ได้พบปะกำลังพล พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญและกล่าวขอบคุณที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ เพื่อรักษาความสงบตามแนวชายแดน โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภารกิจด้วยความไม่ประมาท และให้ผู้บังคับหน่วยดูแลสวัสดิการและสภาพความเป็นอยู่ของกำลังพล พร้อมทั้งให้มีการปรับปรุงฐานปฏิบัติการให้มีความเหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจทางทหาร และกำกับดูแลไม่ให้กำลังพลยุ่งเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย
@@@…….สำหรับกองกำลังสุรนารี เป็นหนึ่งในกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา และไทย – ลาว รวม 750 กิโลเมตร โดยใช้การวางกำลังในฐานปฏิบัติการ ประจำจุดตรวจการณ์ 92 จุด และจุดตรวจ/ด่านตรวจ 34 จุด ร่วมกับการลาดตระเวนเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดนทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงการใช้อากาศยานไร้คนขับ นอกจากนี้ ยังจัดตั้งกองบังคับการควบคุมที่ 4 สนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) รับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ และ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี อีกด้วย
@@@…….กองทัพเรือ….พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เยี่ยมชมการดำเนินการของโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ในการจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปีเชิงรุกประจำปีงบประมาณ 2568 ครั้งที่ 1 ณ ห้องอาหารกองบริการ กรมพลาธิการทหารเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือพระราชวังเดิม โดยมี พล.ร.ท.ประทีป ตันติสานนท์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ พล.ร.ต.สมชาย จันทโรธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ และนาวาเอกหญิง ด็อกเตอร์ทันตแพทย์หญิง จีรวัฒน์ กฤษณพันธ์ ว่องวิทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์ทันตกรรมกรมแพทย์ทหารเรือ ให้การต้อนรับ
@@@…….สำหรับการตรวจสุขภาพเชิงรุก เป็นหนึ่งนโยบายของกองทัพเรือในการดูแลสุขภาพของกำลังพลซึ่งกำหนดให้มีการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีโดยไม่ต้องสำรองเงินส่วนตัวจ่ายก่อนและกิจกรรมในการตรวจสุขภาพเชิงรุก ที่จัดขึ้นประกอบด้วย การตรวจวัดความดัน การตรวจวัดมวลกล้ามเนื้อและวิเคราะห์ส่วนประกอบของร่างกายด้วยเครื่อง Body Composition Analyzer การเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจจักษุ รวมถึงการตรวจคลื่นหัวใจ ซึ่งจะทำในคนไข้ที่มีภาวะเสี่ยง นอกจากนั้นได้มีการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของสุภาพสตรี สำหรับผู้ที่มีภาวะเสี่ยง การเอ็กซเรย์ปอด เป็นต้น
@@@…….การจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพเชิงรุกเป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปี 2568 ด้านการดูแลสวัสดิการให้แก่กำลังพล ตั้งแต่สิทธิสวัสดิการของกองทหารกองประจำการ โดยเน้นการเบิกเงินเดือนเบี้ยเลี้ยง ตลอดจนการจัดเลี้ยงให้ถูกสุขลักษณะ การดูแลสุขภาพกำลังพลในทุกระดับ โดยปรับรูปแบบเป็นการตรวจสุขภาพเชิงรุก การให้คำปรึกษาทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ การส่งเสริมให้กำลังพลมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง สานต่อโครงการอบรมดนตรี กีฬา ภาษา ให้แก่บุตรหลานข้าราชการกองทัพเรือและซ่อมแซมปรับปรุงที่พักอาคารส่วนกลาง
@@@……กองทัพอากาศ….พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 3 นำอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ทำการบินสนับสนุนกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ในการค้นหาและติดตามช้างป่าเพื่อผลักดันช้างกลับคืนสู่ป่า รวมทั้งจัดตั้งส่วนบัญชาการและควบคุมภารกิจอากาศยานไร้คนขับ โดยมีผู้นำชุมชนในส่วนต่าง ๆ ร่วมระดมความคิด วิเคราะห์และวางแผน ขณะทำการบินค้นหา เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ของคืนวันที่ 28 พ.ย.67 ตรวจพบช้างป่าขนาดใหญ่จำนวน 1 ตัว กำลังกินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองหว้า อำเภอเขาฉกกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ห่างจากชุมชนบ้านนาล้อม ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 1.3 กิโลเมตร จึงได้ทำการส่งข้อมูลพิกัดของช้างให้ชุดปฏิบัติการผลักดันช้าง เพื่อแจ้งเตือนประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของช้าง ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ช้างเริ่มเดินเข้าใกล้เขตชุมชนมากขึ้น เจ้าหน้าที่ภาคพื้นจึงตัดสินใจทำการปิดล้อมและดำเนินการผลักดันช้างออกจากเขตชุมชน เข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย
………………
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย.. “รหัสมอร์ส”