วันอาทิตย์, มกราคม 26, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSความร่วมมือจีน-อาเซียน แก้ปัญหา“แก๊งคอลเซ็นเตอร์”ได้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ความร่วมมือจีน-อาเซียน แก้ปัญหา“แก๊งคอลเซ็นเตอร์”ได้


“……..ความพยายามในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามหารือร่วมกันในหลายประเด็น ทั้งการทํางานของกระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมการชายแดนในพื้นที่ เพื่อประสานงานกับฝ่ายเมียนมา รวมถึงการเจรจาในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น ในเมียนมาไม่ได้เกิดจากไทยเพียงฝ่ายเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับชายแดนที่ติดกับจีน และประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ …..

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 25 ม.ค.68 เรื่องคอลเซ็นเตอร์จะเป็นปัญหาใหญ่มาก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของรัฐบาลเมียนมา ได้หารือกับคณะผู้แทนกองทัพไทย นําโดย พล.อ.ดิเรก บงการ หัวหน้าศูนย์ประสานงานประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพบก, พล.อ.สุรศักดิ์ ตันติสุข หัวหน้าศูนย์ประสานงานกองทัพบก ในกรุงเนปิดอว์ และยังมี พล.ท.จ่อ สวา ลิน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา เข้าร่วมประชุม เพื่อเสริมความร่วมมือในการปราบปรามการค้ามนุษย์ และการฉ้อโกงทางออนไลน์บริเวณชายแดน โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูง 

@@@…….การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่เมืองเมียวดี ศูนย์กลางการฉ้อโกง และการหลอกลวงผ่านทางออนไลน์ที่ดําเนินการโดยกลุ่มอาชญากรชาวจีน กลายเป็นประเด็นอีกครั้ง หลังกรณีของ นายหวาง ซิง นักแสดงชาวจีนที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ และถูกบังคับฝึกงานในศูนย์หลอกลวง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีน อาจคิดที่จะยกเลิกการเดินทางมายังไทย และจีนกดดันให้ประเทศอาเซียนร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมนี้ โดยรัฐบาลทหารเมียนมาร่วมมือกับไทยในการปราบปรามกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ โดยเมียนมา ถูกกล่าวหาว่าพึ่งพาทรัพยากรจากไทย เช่น ไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกัน เมียนมา จีน ลาว กัมพูชา ไทย และเวียดนาม ได้เริ่มระยะที่ 2 ของการปราบปรามอาชญากรรมชายแดนผ่านศูนย์ความร่วมมือด้านความมั่นคงล้านช้าง – แม่โขงในคุนหมิง หลังจากระยะแรกเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึง ธันวาคมที่ผ่านมา และมีการดําเนินคดีผู้ต้องสงสัยกว่า 70,000 คนในคดีฉ้อโกงทางโทรคมนาคม และช่วยเหลือเหยื่อได้มากกว่า 160 คน 

@@@…….ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลทหารเมียนมา ได้มีการจับกุม และเนรเทศชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงกลับประเทศบ้านเกิดของพวกเขาแล้ว มากกว่า 55,000 คน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามที่รัฐบาลจีนร้องขอ โดยในจำนวนนี้ มากกว่า 53,000 คน ถูกส่งกลับไปประเทศจีน นอกจากนั้นเป็นชาวเวียดนามราว 1,000 คน, ชาวไทย 600 คน ส่วนที่เหลือมาจากชาติต่าง ๆ อีก 25 ประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามหารือร่วมกันในหลายประเด็น ทั้งการทํางานของกระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมการชายแดนในพื้นที่ เพื่อประสานงานกับฝ่ายเมียนมา รวมถึงการเจรจาในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น ในเมียนมาไม่ได้เกิดจากไทยเพียงฝ่ายเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับชายแดนที่ติดกับจีน และประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ

@@@……สําหรับการแก้ปัญหาตามแนวชายแดนนั้น ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นการป้องกันปัญหายาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ โดยการปฏิบัติงานตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้น จะช่วยลดโอกาสที่ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นจากฝ่ายไทย และได้กําชับให้ทุกฝ่ายดําเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งการพูดคุยกับเมียนมาไม่ใช่เรื่องเฉพาะเจาะจง แต่เป็นการหารือเพื่อความร่วมมือในหลายด้านมาพร้อมด้วยนั่นเอง ฝ่ายความมั่นคง เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือที่แน่นแฟ้น และการดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวดจริงจังมากขึ้นระหว่าง จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา และประเทศไทย รวมทั้งชาติในอาเซียน จะส่งผลให้ปัญหาตามแนวชายแดนทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้คลี่คลายลงได้สำเร็จในที่สุดจากนี้ไป 

@@@……กระทรวงกลาโหม….นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 1/68  โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุม ณ ห้องภาณุรังษี ในศาลาว่าการกลาโหม โดยได้มอบนโยบายและสั่งการ ดังนี้

@@@……กระทรวงกลาโหมเปลี่ยนผ่านทหารกองประจำการสมัครใจ เลือกหน่วย เลือกเหล่าทัพได้พร้อมสิทธิประโยชน์ ทั้งเงินเดือน สวัสดิการ การศึกษา และต่อยอดเพิ่มโอกาสพัฒนาทักษะอาชีพ  จากนโยบายการเปลี่ยนผ่านการคัดเลือกทหารกองเกิน เข้าเป็นทหารกองประจำการ ด้วยความสมัครใจ โดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะให้มีการลดการใช้ระบบจับใบดำ – แดง และพัฒนากระบวนการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รองรับกำลังพลที่มีคุณภาพและเต็มใจเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาประเทศ โดยผู้สมัครใจยังได้รับสิทธิในการเลื่อนปลดประจำการ หรือสมัครต่อเนื่องได้จนถึงอายุ 30 ปีบริบูรณ์ กระทรวงกลาโหม ขอยืนยันว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบสมัครใจนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานการรับราชการทหาร สร้างความพึงพอใจให้กับกำลังพลและพัฒนากองทัพให้แข็งแกร่งในระยะยาว

@@@……การดูแลสวัสดิการและความเป็นอยู่ของทหารกองประจำการ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน 1 ใน 11 ข้อ ตามนโยบายเร่งด่วน ที่ต้องการให้ทหารกองประจำการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขณะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ โดยการดำเนินการจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของทหารกองประจำการให้มีคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดห้วงระยะเวลาที่อยู่ในกองประจำการเสมือนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัว ให้ความสำคัญกับการจัดสวัสดิการและบริการที่ครอบคลุมทุกด้าน ดังนี้ 1.สวัสดิการด้านการเงิน ให้ทหารกองประจำการได้รับเงินเดือน เบี้ยเลี้ยงประจำ และเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวตามอัตราที่กำหนด รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษ สำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยหรือพื้นที่ชายแดน  2.สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล ให้ได้รับการรักษาพยาบาลฟรีในโรงพยาบาลทหารทุกสังกัด รวมถึงสิทธิการรักษาพยาบาลในกรณีได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการปฏิบัติหน้าที่ และได้รับการประกันชีวิตในระหว่างที่รับราชการ 

@@@……3.ด้านการพัฒนาการศึกษาและอาชีพ ได้รับการศึกษานอกระบบ โดยทหารที่ยังไม่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถเรียนผ่านระบบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) และการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพในด้านต่างๆ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างยนต์ ช่างตัดผม เป็นต้น เพื่อให้พร้อมสำหรับการประกอบอาชีพหลังปลดประจำการ อีกทั้งยังมีคะแนนเพิ่มในการสมัครสอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบก โรงเรียนจ่าทหารเรือ และโรงเรียนจ่าอากาศ โดยมีโควตาพิเศษสำหรับผู้ที่ผ่านการเข้าประจำการครบตามวาระที่กำหนด 4.ทหารกองประจำการจะได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน โดยได้รับการดูแลทางโภชนาการตามมาตรฐานที่สะอาดและปลอดภัย และสนับสนุนกิจกรรมทางด้านกีฬา และนันทนาการด้านต่างๆ เพื่อให้ทหารกองประจำการมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ 

@@@……5. การป้องกันการลงทัณฑ์หรือลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและแบบธรรมเนียมทหาร เน้นย้ำให้กำลังพลทุกนายได้เกิดความรู้ความเข้าใจในมาตรการควบคุมและป้องกันการลงทัณฑ์หรือลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและแบบธรรมเนียมทหาร เพื่อสร้างการยอมรับและความเชื่อมั่นของกองทัพที่มีต่อสาธารณชน อันจะส่งผลดีต่อกระทรวงกลาโหมในภาพรวม ตลอดจนส่งเสริม และสามารถเพิ่มจำนวนยอดของผู้ที่สมัครเข้าตรวจเลือกทหารกองเกินให้มีจำนวนมากขึ้น จนไปถึงการเปลี่ยนผ่านการตรวจเลือกทหารกองประจำการจากระบบเกณฑ์ทหารไปสู่ระบบการสมัครใจ โดยเน้นการสร้างแรงจูงใจให้ครอบคลุม ทั้งการดูแลสวัสดิการ การปกครองบังคับบัญชา และการฝึกที่สมดุลทั้งด้านร่างกายและจิตใจ 

@@@……กระทรวงกลาโหมบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 เร่งลดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (ฝุ่น PM 2.5) ถือเป็นวาระสำคัญของชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม สุขภาพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันขึ้น แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับชาติ ภาค และจังหวัด จึงได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ บูรณาการและประสานการปฏิบัติร่วมกับจังหวัด ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ให้ครอบคลุมในทุกมิติและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในพื้นที่เมือง พื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า โดยเฉพาะพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ บูรณาการร่วมกันของเหล่าทัพ

@@@……กองบัญชาการกองทัพบก….. พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และคณะผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในโอกาสเข้าร่วมหารือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่ชายแดน ซึ่งกำลังส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ การหารือครั้งนี้มุ่งเน้นถึงการขับเคลื่อนความร่วมมือในระดับนโยบายและการปฏิบัติ โดยที่ผ่านมากองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ได้ปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด การลาดตระเวน และการควบคุมช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดน รวมถึงการจับกุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อาจถูกนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรม  

@@@……ในการประชุม พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ได้นำเสนอข้อมูลสถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน โดยพบว่า มีการแจ้งความกว่า 700,000 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 79,000 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน แต่ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติในวงกว้าง จากนั้นที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนเพิ่มเติม อาทิ การบูรณาการระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก เพื่อควบคุมและคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดนอย่างเข้มงวด รวมถึงพิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้กลไกทางกฎหมาย ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม  

@@@……ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม พล.อ.พนา ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างครอบคลุม รอบคอบ และมีความยั่งยืน ทั้งในการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในรายละเอียดของหน่วยงานในพื้นที่ชายแดน รวมถึงการใช้กลไกความร่วมมือระหว่างประเทศตามแนวชายแดน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว ซึ่งกองทัพบกจะนำข้อมูลที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ ไปพิจารณากำหนดแนวทางดำเนินการ เพื่อเสนอต่อกระทรวงกลาโหมต่อไป  

@@@……กองทัพเรือ….พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปเยี่ยมและมอบของขวัญให้กับกำลังพลทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของกองทัพเรือ จำนวน 14 นาย ณ พื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปยังบ้านพักข้าราชการภายในค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า  เพื่อเยี่ยม พันจ่าเอก อำพร  อุภัยชีวะ ซึ่งทุพพลภาพร่างกายอัมพาตด้านซ้าย จากการถูกผู้ก่อการร้ายลอบวางระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือ

@@@……นอกจากนั้น ทางกองทัพเรือได้รับภรรยาของ พันจ่าเอก อำพร  เข้ารับการบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือน ที่ กองโรงงาน ฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ  ได้มอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ พร้อมกล่าวแสดงความระลึกถึงคุณงามความดี ความเสียสละที่มีต่อประเทศชาติและกองทัพเรือ รวมถึงกล่าวคำอวยพรแก่ทหารผ่านศึกทั้ง  13 นาย 

@@@……จากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้กำลังพลกองทัพเรือที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต ซึ่งกระทบต่อการดำเนินชีวิตของกำลังพลและครอบครัว แม้ว่ากองทัพเรือได้มอบเงินเพื่อช่วยเหลือตามระเบียบกองทัพเรือแก่กำลังพลและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว แต่ยังมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของกำลังพล ด้วยเหตุข้างต้น กองทัพเรือจึงได้จัดตั้ง “กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ” เพื่อช่วยเหลือกำลังพลและครอบครัวของกองทัพเรือที่บาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ ตลอดจนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างกล้าหาญดีเยี่ยม ทั้งนี้กองทุนน้ำใจไทยฯ ได้ดำเนินการการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัวอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน โดยการมอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาแก่กำลังพลกองทัพเรือและทายาทของผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการชายแดน

@@@……ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีความห่วงใยและให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิตของกำลังพล ในกองทัพเรือทุกระดับ จึงได้มอบกระเช้าของขวัญพร้อมกับเงินช่วยเหลือให้แก่ทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของกองทัพเรือ เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีเกียรติในสังคม ตลอดจนเพื่อให้บุตรของ กำลังพลมีทุนในการศึกษา โดยจัดกิจกรรมเยี่ยมเยียน มอบเงินช่วยเหลือ และสิ่งของให้กับกำลังพลทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำทุกปี ในส่วนของการบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ สามารถบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารทหารไทยธนชาติ จำกัด (มหาชน) หมายเลขบัญชี 115-2-17087-2 ชื่อบัญชี “กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ” สอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมสวัสดิการทหารเรือ 0 -2475-5414.

………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img