วันเสาร์, พฤษภาคม 17, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS“ทุนจีนสีเทา” อาชญากรรมข้ามพรมแดนที่พลิกความมั่นคง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทุนจีนสีเทา” อาชญากรรมข้ามพรมแดนที่พลิกความมั่นคง

“……ฝ่ายความมั่นคง มองว่า หนึ่งในวิธีที่ทุนจีนสีเทาแฝงตัวได้ง่ายคือ การใช้ ‘นอมินี’ หรือ คนไทยเป็นตัวแทนถือหุ้นในบริษัท วิธีนี้ทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านการเป็นเจ้าของธุรกิจในไทยได้….”

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 17 พ.ค..68 ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา การไหลบ่าของทุนจีนได้เปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจและสังคมของอาเซียนอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดยักษ์ภายใต้เส้นทางสายไหมยุคใหม่ Belt and Road Initiative: BRI ไปจนถึงเม็ดเงินลงทุนที่ทะลักเข้ามาในภาคอุตสาหกรรม และการพัฒนาเมือง 

@@@…….ทุนจีนถูกมองว่า พวกมันคือ แรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยเติมเชื้อเพลิงให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโต อย่างไรก็ตามภายใต้โอกาสที่มาพร้อมกับเงินทุนมหาศาล ซึ่งแม้จะมีธุรกิจทุนจีนที่ดีอยู่มากมาย แต่กลับซ่อนเร้นปัญหาที่หลายประเทศเริ่มตั้งคำถามตามมา ไม่ว่าจะเป็นภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น การพึ่งพาการลงทุนจากจีนอย่างหนัก หรือแม้แต่ทรัพยากรในประเทศที่เริ่มถูกควบคุมโดยทุนต่างชาติ นอกจากนี้อาเซียนยังต้องเผชิญกับ ‘ทุนสีเทา’ เครือข่ายธุรกิจที่แฝงตัวผ่านกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ การฟอกเงิน และการคอร์รัปชัน ที่กำลังแทรกซึมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และสังคมของหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

@@@…….จากทัวร์ศูนย์เหรียญสู่ทุนจีนสีเทาในไทย กว่า 10 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก หนึ่งในรูปแบบการท่องเที่ยวที่เคยได้รับความนิยมคือ ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ หรือทัวร์ราคาถูก ที่ดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย แต่แท้จริงแล้วกลับสร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ และต่อมาก็เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่า ‘ทุนจีนสีเทา’ ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อไทยทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของชาติ .. พวกมัน คือ รูปแบบท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำมาก บางครั้งจ่ายเพียงแค่ค่าตั๋วเครื่องบินเท่านั้น เมื่อมาถึงไทย บริษัททัวร์จีนจะพาไปยังร้านค้าที่พวกเขาเป็นเจ้าของ และบังคับให้ซื้อสินค้าในราคาสูงเกินจริง รายได้จึงไม่ได้กระจายสู่ธุรกิจไทยอย่างแท้จริง แต่กลับถูกผูกขาดโดยทุนจีนเอง

@@@…….ต่อมาเมื่อการเดินทางท่องเที่ยวเริ่มขยายตัว นักลงทุนจีนบางกลุ่มเริ่มมองเห็นโอกาส พวกเขาเข้ามาซื้อโรงแรม ร้านค้า และอสังหาริมทรัพย์ในไทยโดยใช้นอมินี หรือตัวแทนคนไทยในการถือหุ้น สิ่งนี้นำไปสู่การครอบงำธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย ทำให้ผู้ประกอบการไทยสูญเสียโอกาสในการแข่งขัน ทั้งนี้ กลุ่มทุนจีนสีเทายังใช้ไทยเป็นฐานฟอกเงิน พวกเขาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในราคาสูงลิ่ว ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย และลงทุนในกิจการต่าง ๆ โดยไม่ต้องเปิดเผยแหล่งที่มาของเงินทุน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า กลุ่มทุนเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ แรงงานเถื่อน หรือแม้แต่การเรียกค่าคุ้มครองจากนักธุรกิจจีนที่มาทำธุรกิจในไทย เป็นต้น

@@@…….ฝ่ายความมั่นคง มองว่า หนึ่งในวิธีที่ทุนจีนสีเทาแฝงตัวได้ง่ายคือ การใช้ ‘นอมินี’ หรือ คนไทยเป็นตัวแทนถือหุ้นในบริษัท วิธีนี้ทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านการเป็นเจ้าของธุรกิจในไทยได้ นอกจากนี้ยังมีการจดทะเบียนสมรสกับคนไทย เพื่อสร้างเส้นทางการเข้าถึงทรัพย์สิน และสิทธิทางกฎหมายในไทย ดังตัวอย่างที่เป็นข่าวใหญ่ คือ การจับกุมเครือข่ายทุนจีนสีเทา ‘ตู้ห่าว’ ที่เปิดผับหรูเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่เสพยา และทำธุรกิจผิดกฎหมาย การสืบสวนเผยให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ให้การสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทุนสีเทาได้แทรกซึมเข้าสู่ระบบการเมือง และกฎหมายของไทยไปแล้ว 

@@@…….ตัวอย่างธุรกิจที่เข้าข่ายว่า มีทุนจีนสีเทาดำเนินการอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ได้แก่ 1.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ – เข้ามากว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อปล่อยเช่า หรือขายให้คนจีนที่ต้องการมาปักหลักอยู่ในไทย 2.สถาบันสอนภาษา – มาปักหลักเปิดโรงเรียนสอนภาษาเป็นธุรกิจบังหน้า แต่ลับหลังคืออำนวยความสะดวกออกวีซ่าผิดกฎหมายให้คนจีนที่ต้องการมาทำธุรกิจในไทย 3.ธุรกิจโรงงานผลิตสินค้า – กว้านซื้อโรงงานผลิตสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มงานฝีมือ แล้วจ้างคนไทยผลิตสินค้า เพื่อติดป้าย Made in Thailand แล้วส่งออกไปต่างประเทศ 4.ธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ – ร่วมมือกับนอมินี หรือผู้ถือหุ้นแทนที่เป็นคนไทย เพื่อนำทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยขายทัวร์ไทยราคาถูกให้คนจีน จากนั้นพาคนจีนไปแวะตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือซื้อสินค้าต่าง ๆ ในไทย ที่มีคนจีนเป็นเจ้าของอยู่เบื้องหลัง 5.ธุรกิจโรงแรม – เข้ามาซื้อหรือเช่าเหมาโรงแรมในไทย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมา โดยอาจจะทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในโรงแรม และฟอกเงินไปพร้อมด้วย

@@@…….6.ธุรกิจร้านอาหาร – เข้ามาเปิดร้านอาหารในไทย โดยว่าจ้างคนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นให้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีน หรือเพื่อฟอกเงินแบบง่าย 7.ธุรกิจล้งรับซื้อผลไม้ส่งออก – มาทำหน้าที่พ่อค้าคนกลาง รับซื้อผลไม้จากชาวสวนไทย โดยกดราคาถูก ๆ แล้วส่งออกไปต่างประเทศ 8.ธุรกิจนวด สปา – มาใช้นอมินีในไทยเปิดธุรกิจนวด สปา รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทย 9.ธุรกิจรถเช่า – เข้ามาใช้นอมินีในไทยทำธุรกิจรถเช่าให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีน 10.ธุรกิจไนท์คลับ – ร่วมมือกับนอมินีในไทย ทำธุรกิจไนท์คลับที่มีการขายยาเสพติด และค้าประเวณีในสถานประกอบการ 11.ธุรกิจพนันออนไลน์ – เข้ามาแฝงตัวทำธุรกิจพนันออนไลน์ในไทย 12.ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงทางโทรศัพท์ – ทำธุรกิจผิดกฎหมายหลอกลวงผู้คนทางโทรศัพท์ 13.ลักพาตัว เรียกค่าไถ่คนจีนด้วยกัน – เข้ามาเพื่อลักพาตัวคนจีนที่มาไทย เพื่อเรียกค่าไถ่

@@@……ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่น จะได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมทุนจีนสีเทา Grey Capital และทุนไทยเทาอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศไทย เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ การระมัดระวัง และรับมือกับทุนสีเทาเหล่านี้ คือ สิ่งสำคัญจำเป็นที่ขาดไม่ได้ เพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ อย่างไรก็ตาม มิใช่เรื่องง่ายที่จะร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการทาง กฏหมาย เนื่องส่วนใหญ่ทุนจีนเทา ได้เปิดตัวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และใช้ประเด็นนี้บังหน้าเพื่อดำเนินธุรกิจผิดกฏหมายในภายหลังอย่างระมัดระวัง และปกปิด ข้อมูลด้านการข่าวของฝ่ายความมั่นคง ไม่เพียงพอที่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะนำคดีขึ้นสู่ศาลหากไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดแจ้งกว่านี้ 

@@@…… อย่างไรก็ตาม ทุนจีนสีเทา คือ การลงทุนจากจีนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน, การค้ายาเสพติด, การพนันออนไลน์, การคอลเซ็นเตอร์ และการกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าให้คนจีน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจ และสังคม, การก่อกวนทางการเมือง และการคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ดังนั้น รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง สถาบันทางการเงิน รวมทั้งภาคเอกชนไทย ควรเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุนจากต่างชาติ, ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง, และเพิ่มมาตรการป้องกันการใช้ “นอมินี” ในธุรกิจต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้การปราบปรามทุนจีนเทา และรวมถึงทุนไทยเทาอย่างเด็ดขาดมาพร้อมด้วย บรรลุความสำเร็จให้ได้จากนี้ไป ความมั่นคงของประเทศ ก็จะได้รับการประกัน 

@@@……กองบัญชาการกองทัพไทย…..พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ติดตามการปฏิบัติภารกิจในปฏิบัติการ “ยุทธการไชยปราการ 1” ซึ่งเป็นยุทธการเชิงรุกในการสกัดกั้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และภัยคุกคามที่แทรกซึมผ่านแนวชายแดนเข้าสู่ประเทศไทย ภารกิจเริ่มต้นด้วยการประชุมร่วมกับคณะกรรมการศูนย์อำนวยการประสานงานชายแดนจังหวัดหนองคาย ณ ศาลากลางจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการต่อต้านขบวนการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามแดน

@@@…….ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ ได้ลงพื้นที่สำรวจด่านศุลกากรหนองคาย (สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 1) ตรวจพื้นที่เสี่ยงต่อการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ก่อนเดินทางไปยังจุดปฏิบัติงานสำคัญของกองร้อยทหารพรานเฉพาะกิจที่ 2104 ในเขต ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย ซึ่งสามารถตรวจยึดยาบ้าได้ถึง 1.88 ล้านเม็ด จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เยี่ยมจุดปฏิบัติงานของกองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 ณ บ้านห้วยดอกไม้ ตำบลโคกกล่อง ซึ่งเป็นแนวชายแดนสำคัญที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้าได้มากถึง 4 ล้านเม็ด สะท้อนถึงความเข้มแข็งของระบบการสกัดกั้นและความเสียสละของกำลังพลชายแดนไทยทุกนาย

@@@…….“ทุกก้าวย่างของกำลังพล คือการยืนหยัดปกป้องแผ่นดินไทย” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวแสดงความขอบคุณและให้กำลังใจกำลังพลทุกหน่วยที่ปฏิบัติภารกิจอย่างทุ่มเท ด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ อดทน และเสียสละ พร้อมย้ำถึงความมุ่งมั่นของกองบัญชาการกองทัพไทยในการปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้วของแผ่นดินไทยจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ กองกำลังของไทยจะยังคงประจำพื้นที่แนวชายแดนในทุกจุดยุทธศาสตร์อย่างเข้มแข็ง เพื่อป้องกันประเทศจากการแทรกซึมของยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ และภัยความมั่นคง พร้อมดำรงความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน

@@@…….กองทัพบก…..พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบันว่า สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีลักษณะใดที่นำไปสู่การเผชิญหน้ากันด้วยกำลังแต่อย่างใด ทั้งนี้ จากกรณีที่มีบางความเห็นในสื่อโซเชียล กล่าวถึงแนวทางการจัดระเบียบพื้นที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ มีลักษณะไม่ตรงกันกับแนวทางของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะฝ่ายบริหารนั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าแนวทางการดำเนินการต่อพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงเป็นไปตามนโยบายของฝ่ายบริหารที่อาศัยข้อมูลองค์ประกอบที่ได้รับจากหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ ในส่วนของกลไกความร่วมมือ คณะกรรมการชายแดนในทุกระดับยังคงสามารถพูดคุยและดำรงความสัมพันธ์กันได้เป็นอย่างดี ส่วนในระดับพื้นที่หรือระดับท้องถิ่นที่อาจยังไม่เรียบร้อยบ้าง เหลือเพียงส่วนน้อยไม่กี่จุด ซึ่งผู้ปฏิบัติทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาดำเนินการ คาดว่าจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นในเร็ววัน

@@@…….สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่โดยหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ยังคงเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับฝ่ายบริหาร หรือแนวทางของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ซึ่งได้มีการพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาไว้แล้ว โดยยึดถือแนวปฏิบัติตามข้อตกลงที่มีร่วมกัน และเคยใช้ร่วมกันมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับในพื้นที่ที่ยังไม่มีการจัดทำหลักเขต และต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์นั้น ได้ใช้แนวทางดูแลร่วมกัน โดยแต่ละฝ่ายสามารถจัดกำลังเฝ้าตรวจหรือลาดตระเวนในจำนวนที่เหมาะสมประมาณฝ่ายละ 7 คน ส่วนบางพื้นที่ที่มีการจัดกำลังมากเกินกว่าที่เคยปฏิบัติกันมา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความกังวลระหว่างกัน ก็ได้มีการปรับลดกำลังให้อยู่ในระดับเดิมเพื่อความเรียบร้อยและสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกันกองทัพบกขอยืนยันว่า ทุกการปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนยังคงยึดมั่นในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี บนพื้นฐานของความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ และพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการทุกด้านอย่างใกล้ชิดต่อไป

@@@…….กองทัพเรือ….พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปเยือนกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน(สปจ.) อย่างเป็นทางการ เมื่อเดินทางไปถึงกองบัญชาการกองทัพเรือ สปจ. พล.ร.อ. หู จงหมิง (Hu Zhongming) ให้การต้อนรับด้วยการขึ้นแท่นรับการเคารพ ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ รวมทั้งรับการสวนสนามจากกองทหารเกียรติยศอย่างสมเกียรติ จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเรื่องการเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ได้แก่ การแลกเปลี่ยนการเยือนของนายทหารทุกระดับ การขยายขีดความสามารถด้านการฝึก การเดินทางเยือนเมืองท่าของเรือรบ การลงนามในTOR ว่าด้วยความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายซึ่งผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ไทยแล้ว การแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางทหาร และการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านการฝึกศึกษา/อบรม และกองทัพเรือ สปจ. ยังได้จัดงานเลี้ยงรับรองให้อย่างอบอุ่นอีกด้วย

@@@…….พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ยังได้เดินทางไปมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน (NDU,PLA) เมื่อเดินทางถึงพล.อ.Xiao Tianliang ผบ.มหาวิทยาลัยป้องกันประเทศจีน ให้การต้อนรับ และได้รับชมวีดีทัศน์ช่วงเวลาสมัยที่ผู้บัญชาการทหารเรือเข้ารับการศึกษาในหลักสูตร International College of Defense Strategics , NDU PLA (วปอ.สปจ.)ในปี 2002 พร้อมมอบประกาศเกียรติบัตรศิษย์เก่าดีเด่นที่สร้างชื่อเสียงและขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ แล้วพาเยี่ยมชมภายในมหาวิทยาลัยทั้ง ห้องเรียน ห้องสมุด ห้องประชุม/สัมมนา อาคารนอน ห้องออกกำลังกายเพื่อรำลึกถึงบรรยากาศที่เคยมาเรียน ทั้งนี้ NDU,PLA (วปอ.สปจ.) เป็นสถาบันการศึกษาทางทหารระดับสูง ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน มีภารกิจหลักในการให้การศึกษา อบรมและวิจัยด้านยุทธศาสตร์ ความมั่นคงและการป้องกันประเทศ แก่นายทหารระดับสูงจากต่างประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางการทหารระหว่างประเทศ ปัจจุบันมีนายทหารจากต่างประเทศเข้ารับการศึกษากว่า 100 ประเทศ รวมทั้งจากประเทศไทย

@@@…….กองทัพอากาศ….กรณีที่อากาศยานทหารเมียนมาแบบ K-8 จำนวน 1 เครื่อง บินเข้าใกล้เขตแดนไทยบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ผ่านมา พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า หน่วยควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ ได้ตรวจจับอากาศยานดังกล่าวในระยะเข้าใกล้แนวชายแดน และได้ดำเนินการตามระเบียบการปฏิบัติประจำทันที ด้วยการติดต่อแจ้งเตือนผ่านคลื่นความถี่ฉุกเฉิน (On Guard) พร้อมทั้งสั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จากกองบิน 4 ขึ้นบินปฏิบัติภารกิจการบินลาดตระเวนรบเฝ้าระวังทางอากาศ เพื่อแสดงศักยภาพในการควบคุมและป้องกันน่านฟ้าไทยอย่างชัดเจน อากาศยานทหารเมียนมาดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางออกจากเขตแดนไทยโดยไม่มีพฤติกรรมรุกรานหรือกระทำการที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยแต่อย่างใด กองทัพอากาศขอยืนยันว่า การปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของน่านฟ้าไทย เป็นภารกิจหลักที่ดำเนินการอย่างเข้มงวด ต่อเนื่อง โดยมีการเฝ้าตรวจ ค้นหา พิสูจน์ฝ่าย และสกัดกั้นอากาศยานที่มีพฤติกรรมผิดปกติหรือเข้าใกล้เขตแดนในลักษณะที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในความปลอดภัยของน่านฟ้าไทย.

…………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img