วันเสาร์, มิถุนายน 14, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSนวัตกรรมการใช้โดรนขนาดเล็กโจมตีขนาดใหญ่ Operation Spider’s Web
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นวัตกรรมการใช้โดรนขนาดเล็กโจมตีขนาดใหญ่ Operation Spider’s Web


“…..ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องรวมพลังรวมความคิดจินตนาการทั้งในส่วนของเหล่าทัพภาครัฐภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่จะคิดอ่านให้ได้มาซึ่งกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆพัฒนาแนวคิดร่วมกันและลดการพึ่งพาต่างชาติ….

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 14 มิ.ย..68 เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ในยุทธบริเวณยูเครน – รัสเซีย พบปรากฎการณ์นวัตกรรมการใช้โดรนขนาดเล็กโจมตีครั้งใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากยูเครนกับ กับรัสเซีย ทําสงครามสู้รบกันมายาวนานกว่า 3 ปี โดยยูเครน สามารถส่งโดรน First Person View: FPV เข้าไปโจมตีลึกเข้าไปหลายพันกิโลเมตรจากแนวชายแดนในดินแดนรัสเซียต่อขุมกำลังทางอากาศที่เป็นฐานบินหลักที่วางกำลังเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ และเครื่องบินสําคัญ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายทรงคุณค่าสูง High Value Aircraft ภายใต้รหัสการปฏิบัติการ “Operation Spider’s Web” 

@@@…….แม้ว่าจะสร้างความประหลาดใจ และทำให้กำลังทางอากาศหลักของรัสเซีย ได้รับความเสียหายในระดับหนึ่งก็ตาม แต่ก็ยังมิใช่ปฏิบัติการชี้ขาดผลแพ้ชนะแต่อย่างไร รวมทั้งถูกตอบโต้กลับอย่างหนักในเวลาต่อมา .. อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการ Operation Spider’s Web ของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน Security Service of Ukraine: SBU ครั้งนี้ คือ นวัตกรรมการปฏิบัติการทางทหารที่สร้างสรรค์ ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อนหน้านี้ .. พวกเขา ได้ดําเนินการโจมตีด้วยโดรน First Person View: FPV จํานวน 117 เครื่องที่แอบใส่ในรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งมีการดัดแปลงวางไว้ใกล้ฐานบินเป้าหมาย โดยกําหนดเลือกเป้าหมายที่เป็นฐานบินเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียตั้งอยู่ลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ได้แก่ ฐานบิน Belaya, Dyagilevo, Ivanovo Severny, Olenya และ Ukrainka ซึ่งบางเป้าหมายห่างจากชายแดนยูเครนกับรัสเซียมาก เช่น ฐานบิน Belaya Air Base ห่างประมาณ 4,300 กม. และฐานบิน Ukrainka ห่างประมาณ 6,000 กม.แต่โจมตีฐานบินนี้ บางส่วนไม่ประสบความสําเร็จเพราะรถบรรทุกโดรน FPV เกิดการระเบิดไฟไหม้ขึ้นมาก่อนปฏิบัติการ 

@@@……ในการนี้ ยูเครน อ้างว่าสามารถทําลาย หรือสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่เครื่องบินของรัสเซียรวมกันได้ประมาณมากกว่า 40 เครื่อง ได้แก่ เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์แบบ Tu – 95MS, Tu – 22M3, Tu – 160 และเครื่องบิน AWACS แบบ A – 50 รวมถึงเครื่องบินลําเลียงแบบอื่น ๆ โดยทางยูเครน และฝ่ายตะวันตก ประเมินว่าความเสียหายครั้งนี้ อาจสูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงลดขีดความสามารถการโจมตีด้วยจรวดร่อนทางยุทธศาสตร์ลงได้ อยู่ที่ประมาณ 34% ซึ่งจรวดร่อนนี้สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ ขณะที่ฝ่ายรัสเซียโต้แย้งตัวเลขความเสียหายนี้ไม่เป็นความจริง แต่ก็ยอมรับว่าสนามบินเหล่านี้ถูกโจมตี โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแบบเครื่องบิน และความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถูกโจมตีครั้งนี้ .. ทั้งนี้ สํานักข่าวรอยเตอร์ อ้างว่าเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ วิเคราะห์จากภาพถ่ายดาวเทียม และข้อมูลต่าง ๆ แล้ว คาดว่ามีเครื่องบินของ รัสเซียถูกทําลาย หรือได้รับความเสียหาย อยู่ที่ประมาณ 20 เครื่อง โดยถูกทําลายประมาณ 10 เครื่อง จากการโจมตีในครั้งนี้ 

@@@…….โดรน FPV เหล่านี้ มีความแม่นยําสูงซึ่งทําให้จากระบบอาวุธฯ ที่ดูธธรรมดา ๆ กลายเป็นอาวุธที่มีความแม่นยําสูง แต่ว่า ราคาถูกกว่าอาวุธนําวิถีมาก จะเห็นว่าโดรน FPV เหล่านี้ พยายามเลือกโจมตีจุดที่เป็นจุดวิกฤติ Critical Parts ของเครื่องบินเหล่านี้ เช่น ถังเชื้อเพลิงบริเวณปีก, จานเรดาร์เครื่องบิน AWACS เป็นต้น .. ทั้งนี้ ยูเครน ตระหนักดีว่า สนามบินของรัสเซียนั้น จะมีการป้องกันภัยทางอากาศ และการวางระบบต่อต้านโดรนที่แน่นหนา ซึ่งในการปฏิบัติการครั้งนี้จะต้องพบกับอุปสรรคสําคัญอย่างแน่นอน ทั้งการรบกวนระบบสัญญาณการควบคุมโดรน และระบบนําร่องด้วยดาวเทียม

@@@…….ดังนั้น พวกเขาจึงพัฒนาระบบการควบคุมโดรนโดยใช้ Open Source Software ที่เรียกว่า “ArduPilot” ที่สามารถทํางานร่วมกับ การเดินอากาศแบบ Dead Reckoning ซึ่งไม่ต้องพึ่งระบบนําร่องด้วยดาวเทียม โดยการบังคับระยะไกลนั้น คาดว่าพวกมันใช้แบบ SIM Card ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของเครือข่ายโทรศัพท์ในท้องถิ่นของรัสเซียเอง หรืออาจะใช้สัญญาณ อินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่มีการเข้ารหัส หรือออกแบบพิเศษ ร่วมกับการใช้ Artificial Intelligence: AI ในการจดจําเป้าหมายอัตโนมัติ Automatic Target Recognition: ATR โดยเมื่อสัญญาณของโดรนถูกรบกวนจะเปลี่ยนโหมดการบินเข้าหาเป้าหมายได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงการบังคับโดรน FPV เหล่านี้ด้วยระบบ Manual มาพร้อมด้วย 

@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง มองว่า ปฏิบัติการ Operation Spider’s Web ของยูเครนในครั้งนี้ คือ ตัวอย่างซึ่งแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่เป็นนวัตกรรมการโจมตีเป้าหมายที่น่าตื่นเต้นรูปแบบใหม่ที่ต่างออกไปในการทําสงครามสมัยใหม่ Modern Warfare พร้อมกับแสดงให้เห็นช่องโหว่ และจุดอ่อนในระบบป้องกันภัยทางอากาศ และระบบต่อต้านโดรน Anti – Drone Weapon Systems ที่มีใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งแม้แต่โดรนเชิงพาณิชย์ทั่วไป ก็สามารถเล็ดรอดเข้ามาโจมตีเป้าหมายสำคัญยิ่งยวดได้ หากมีการใช้ความคิดสร้างสรรค์ กับมีความเข้าใจ พัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เป็น Open Sources หรือเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติการเชิงรุกของฝ่ายเรา .. คําถามสําคัญ คือ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องรวมพลัง รวมความคิดจินตนาการ ทั้งในส่วนของเหล่าทัพ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่จะคิดอ่านให้ได้มาซึ่งกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์รูปแบบใหม่ ๆ พัฒนาแนวคิดร่วมกัน และลดการพึ่งพาต่างชาติ ทั้งนี้เพื่อให้กองทัพไทย และฝ่ายความมั่นคง พร้อมปฏิบัติภารกิจปกป้องประเทศชาติด้วยตัวของตัวเองแบบที่เห็นในบทเรียนครั้งนี้ให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มิได้ยากเกินกว่าที่จะคนไทยจะทำเองได้ 

@@@……ตามที่กองทัพบกได้ดำเนินมาตรการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว และพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี จ.อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ โดยให้กองกำลังป้องกันชายแดนพิจารณาให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกประชาชนตามหลักมนุษยธรรม ล่าสุด กองกำลังบูรพาได้มีการปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า ในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อมุ่งอำนวยความสะดวกประชาชน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน มีรายละเอียดดังนี้ 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน : เปิด – ปิด เวลา 08.00 – 16.00 น. และผ่อนปรนให้รถบรรทุกหกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออกได้ (จากเดิมที่ไม่อนุญาตรถบรรทุก) โดยจำกัดจำนวนคันที่ 70 คัน/ต่อวัน ทั้งขาเข้าและขาออก 

@@@……2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ : เปิด – ปิด เวลา 08.00 – 12.00 น. และผ่อนปรนให้รถบรรทุกหกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออกได้ (จากเดิมที่ไม่อนุญาตรถบรรทุก) โดยจำกัดจำนวนคันที่ 30 คัน/ต่อวัน ทั้งขาเข้าและขาออก 3.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา : คงเวลาเปิด – ปิด เวลา 08.00 – 12.00 น. โดยห้ามรถบรรทุกหกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออก แต่หากจำเป็นต้องเดินทางสัญจรสามารถใช้เส้นทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน) นอกจากนี้ได้มีการผ่อนปรน โดยอนุโลมในการเดินทางข้ามแดนของนักเรียนชาวกัมพูชา สามารถผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรบการค้าบ้านหนองปรือ ในช่วงเช้า ตั้งแต่ เวลา 06.00 – 08.00 น. และช่วงเย็น เวลา 17.00 – 18.00 น. ทั้งนี้ กองทัพบกจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการใช้มาตรการที่จำเป็นในการจำกัดการเข้าออกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่และพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ตามหลักมนุษยธรรม จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย 

@@@…….กองบัญชาการกองทัพไทย….พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นประธานในพิธีส่งมอบยุทโธปกรณ์พิเศษให้กับกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก และหน่วยเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ณ บริเวณด้านหน้าอาคารกองบัญชาการกองทัพไทย ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารสูงสุด/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการฯ ที่ได้มอบหมายให้กรมยุทธการทหาร และศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากลดำเนินการจัดหายุทโธปกรณ์พิเศษ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้กับหน่วยงานภายใต้โครงสร้างของศูนย์อำนวยการฯ ดังกล่าว

@@@…….โดยในครั้งนี้ กรมยุทธการทหาร และศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล ได้จัดหายุทโธปกรณ์พิเศษแล้วเสร็จ จำนวน 4 รายการ พร้อมส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ กองกำลังสุรนารี : รถจักรยานยนต์วิบาก Kawasaki จำนวน 5 คัน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี : รถจักรยานยนต์ Honda Wave จำนวน 8 คัน กองกำลังผาเมือง : รถจักรยานยนต์ Honda Wave จำนวน 6 คัน กองกำลังนเรศวร : รถจักรยานยนต์ Honda Wave จำนวน 4 คัน หน่วยเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม : รถจักรยานยนต์ Honda Wave จำนวน 12 คัน เครื่องรับ-ส่งวิทยุ VHF/FM จำนวน 78 เครื่อง พร้อมแบตเตอรี่

@@@……นอกจากนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยยังได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์อื่น ๆ จากนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 เพื่อนำไปมอบให้กับกองกำลังป้องกันชายแดนอีกด้วย การจัดหายุทโธปกรณ์ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่ไม่เพียงเน้นการเสริมขีดความสามารถทางยุทโธปกรณ์ แต่ยังมุ่งพัฒนา “เครือข่ายความมั่นคงเชิงระบบ” โดยคำนึงถึงสภาพภูมิประเทศที่ยากต่อการเข้าถึง และภัยคุกคามที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

@@@……ในปีงบประมาณ 2567–2568 กองบัญชาการกองทัพไทยได้ดำเนินการสนับสนุนการจัดหาและส่งมอบยุทโธปกรณ์ที่เหมาะสมแก่การปฏิบัติงาน อาทิ โดรนตรวจการณ์ เพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าตรวจ  กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว รถจักรยานยนต์แบบวิบากและไฟฟ้า สำหรับการเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดาร เรือยางทางยุทธวิธีพร้อมเครื่องยนต์ สำหรับภารกิจตามแนวลำน้ำชายแดน ระบบโซลาร์เซลล์ สนับสนุนการใช้พลังงานในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า การปรับปรุงเส้นทางแนวชายแดน และระบบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อสนับสนุนการดำรงชีพของกำลังพลในพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชน ซึ่งสะท้อนพลังแห่งความร่วมมือของทุกภาคส่วน ที่พร้อมผนึกกำลังเพื่อความมั่นคงของชาติอย่างเป็นรูปธรรม

@@@……กองทัพเรือ…..พล.ร.ต. ปารัช รัตนไชยพันธ์  รองโฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า จากกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลจากเรือบรรทุกน้ำมันดิบ MT Phoenix Jamnagar (เรือ Clude Oil Tanker สัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962) ขณะขนถ่ายน้ำมันบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล SBM2 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลา 23.54 น. ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหล ลงสู่ท้องทะเลเป็นปริมาณ ประมาณ 10,000 ลิตร  แต่ เจ้าหน้าที่สามารถล้อมคราบน้ำมันด้วยบูมได้ทัน มีเพียงบางส่วนเล็ดลอดออกไป  ในเบื้องต้น กระแสน้ำได้พัดไปทางเกาะสีชัง ไม่ส่งผลกระทบต่อชายฝั่งหรือแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่  สำหรับการปฏิบัติที่สำคัญ ในห้วงที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 บริษัทไทยออยล์ได้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ โดยล้อมบูม 3 ชั้น และฉีดสารเคมีควบคุมคราบน้ำมัน ขณะที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 ได้สนับสนุนอากาศยาน ขึ้นปฏิบัติการฉีดพ่นสารเคมีทางอากาศ พร้อมจัด อากาศยานไร้คนขับ ขึ้นบินติดตามตรวจสอบและประเมินผลทางอากาศ  รวมถึงจัดเรือหลวงตาชัยเข้าทำการล้อมบูมเพื่อเร่งขจัดคราบน้ำมัน 

@@@……โดยช่วงบ่ายของวันที่ 6 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ ร่วมเดินทางไปกับ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ภาค 1  นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar และตรวจสอบพื้นที่ทางทะเลระหว่างศรีราชาและชายฝั่งเกาะสีชัง พบว่ามีกลุ่มคราบน้ำมัน ลักษณะเป็นแผ่นฟิลม์บางๆ เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งสามารถดำเนินการโดยแล้วเสร็จได้ ภายในวันที่ 6 มิถุนายน 2568

@@@……สำหรับการปฏิบัติเพิ่มเติมในวันนี้ ทางหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้จัดกำลังจากกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 2 ชุดบรรเทาสาธารณภัย ชุดขจัดคราบน้ำมันดิบรั่วไหล  ลงพื้นที่บริเวณเกาะสีชังโดยเป็นการเดินสำรวจชายหาดและหาคราบน้ำมันดิบที่รั่วไหล ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบคราบน้ำมัน และฟิล์มน้ำมัน น้ำทะเลสีใส ไม่มีแพลงตอนบูม มีนักท่องเที่ยว ออกท่องเที่ยวตามปกติ  ทั้งนี้สถานการณ์โดยรวมอยู่ในความควบคุม และไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่ง แหล่งท่องเที่ยว อาทิ พัทยา ศรีราชา บางแสน รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมโดยรอบ  ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะยังคงติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

…………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img