หน้าแรกCOLUMNISTSOcean Carbon Removal : OCR …. “การกำจัดคาร์บอน”ในมหาสมุทร

Ocean Carbon Removal : OCR …. “การกำจัดคาร์บอน”ในมหาสมุทร

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

Ocean Carbon Removal : Methods to Absorb & Store Atmospheric CO2

“…..นักวิทยาศาสตร์ ประเมินว่า ประมาณมากกว่า 50 % หรือครึ่งหนึ่งของการผลิตออกซิเจนบนโลกใบนี้ มาจากมหาสมุทร Oceans และระบบนิเวศชายฝั่ง…”

การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR หมายถึงวิธีการที่ช่วยเพิ่มความสามารถตามธรรมชาติของมหาสมุทร Enhance the Ocean’s Natural Ability ในการดูดซับ และกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ Absorb & Store Atmospheric Carbon Dioxide : CO2 ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วทำหน้าที่เป็นตัวดูดซับคาร์บอน .. วิธีการเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสกัดคาร์บอนไดออกไซด์จากน้ำทะเล Extract CO2 from Seawater หรือเพิ่มความสามารถในการเป็นอ่างกักเก็บคาร์บอน Acting as a Carbon Sinks ซึ่งจะมีส่วนร่วมสำคัญที่ช่วยบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Potentially Helping Mitigate Climate Change ได้อย่างยอดเยี่ยม ..

General Types of Ocean CDR Approaches | Credit : World Resources Institute

มหาสมุทร และสภาพอากาศ Oceans & Climate เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก สถานะของสิ่งหนึ่งขับเคลื่อนสถานะของอีกสิ่งหนึ่ง State of One Drives the State of the Other .. มหาสมุทร Oceans ซึ่งคิดเป็นกว่า 70% ของพื้นผิวโลก Planet’s Surface มีอิทธิพลอย่างมากต่อสภาพอากาศ โดยการดูดซับรังสีดวงอาทิตย์ Absorbing Solar Radiation, กระจายความร้อน และความชื้นที่เกี่ยวข้องไปทั่วทั้งมหาสมุทร สู่ชั้นบรรยากาศ และทั่วโลก Distributing that Heat & Associated Moisture throughout the Oceans, into the Atmosphere รวมทั้ง มหาสมุทร Oceans คือศักยภาพในการขับเคลื่อนระบบสภาพอากาศโลก Driving Global Weather Systems และสร้างสมดุลธรรมชาติให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ได้ ..

อย่างไรก็ตาม หลังจาก 10,000 ปีของเสถียรภาพสัมพันธ์ Relative Stability ในพลวัตของมหาสมุทร และสภาพอากาศ Ocean-Climate Dynamic นี้ กลับพบว่า ผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Effects of Greenhouse Gas Emissions ที่สะสมในช่วงเพียง 170 ปีที่ผ่านมา ได้คุกคามเสถียรภาพของระบบทั้งหมดแล้ว .. ก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มสูงขึ้น Elevated Greenhouse Gases จะกักเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้เป็นจำนวนมาก โดย 90% ของก๊าซเหล่านี้ ถูกปล่อยลงสู่มหาสมุทร ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในมหาสมุทร ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง รวมถึงการสูญเสียออกซิเจน Loss of Oxygen : O2 .. นอกจากนี้ CO2 ส่วนเกินประมาณ 30% ถูกดูดซับเข้าไปในชั้นบนสุดของมหาสมุทร ทำให้มหาสมุทร Oceans มีสภาพเป็นกรดมากขึ้น .. ความพยายามที่จะฟื้นฟูความสมบูรณ์ของมหาสมุทร Efforts to Restore the Health of the Ocean นั้น ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด หากไม่แก้ไขตัวการหลักที่ก่อให้เกิดอันตราย ซึ่งก็คือ CO2 และมลพิษจากก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ Other Greenhouse Gas Pollution ในอากาศ และน้ำของเราที่มีมากเกินไป ..

คณะกรรมการระหว่างรัฐว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Intergovernmental Panel on Climate Change : IPCC ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า จำเป็นต้องกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมาก Large-Scale Carbon Dioxide Removal : CDR ระหว่าง 100-1,000 GT ในศตวรรษนี้ เพื่อให้มีโอกาสรักษาอุณหภูมิให้เพิ่มขึ้นมากกว่าจุดเล็งที่ 1.5°C ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีส Paris Agreement .. หากเราต้องการสภาพอากาศที่ปลอดภัย และมีเสถียรภาพมากขึ้น จำเป็นต้องดำเนินมาตรการกำจัด CO2 ให้ได้มากขึ้นจากนี้ไป ..

ข่าวดีก็คือ มีวิธีมากมายที่มีแนวโน้มดีด้วยการแทรกแซงของมนุษย์โดยเจตนาในการกำจัดมลพิษ CO2 ในปริมาณมหาศาลนี้ได้ .. การกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide Removal : CDR สามารถทำได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่แนวทางการจัดการที่ดิน เช่น การฟื้นฟูป่า Forest Restoration ไปจนถึงเทคโนโลยี เช่น การดักจับจากอากาศโดยตรง Direct Air Capture : DAC หากแต่จนถึงปัจจุบัน การพัฒนาเทคโนโลยีการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide Removal : CDR Technologies Development ส่วนใหญ่ยังคงเน้นไปที่โซลูชันข้อไขบนพื้นดิน Land-Based Solutions ..

อย่างไรก็ตาม แนวทางอีกชุดความคิดหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนักสำหรับการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากชั้นบรรยากาศ Removing Carbon Dioxide : CO2 from the Atmosphere แต่มีศักยภาพสูงเป็นพิเศษ Particularly Strong Potential ซึ่งขึ้นอยู่กับพลกำลัง และขนาดของมหาสมุทร Power & Size of the Oceans และนั่นหมายถึง วิธีการใหม่ๆ ที่เรียกว่า การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ :-

การยกตัวขึ้น และลงของน้ำทะเลเทียม Artificial Upwelling & Downwelling

การกักเก็บคาร์บอนใต้ทะเลลึก Deep Sea Storage

การกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในมหาสมุทรด้วยเคมีไฟฟ้า Electrochemical Ocean Carbon Dioxide Removal : OCR

การเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนาดใหญ่ และการกักเก็บคาร์บอน Macroalgae Cultivation & Carbon Sequestration

การฟื้นฟูคาร์บอนสีน้ำเงิน และการกักเก็บคาร์บอน Blue Carbon Restoration & Carbon Sequestration

การเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนาดเล็ก Microalgae Cultivation

การขุนบำรุงเลี้ยงเติมความอุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทร Ocean Fertilization

การเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทร Ocean Alkalinity Enhancement

คาดหมายได้ว่า วิศวกรรมมหาสมุทร Engineering the Oceans เช่น Ocean Fertilization รวมทั้งบลูคาร์บอน Blue Carbon เป็นต้นนั้น คือ อีกวิธีปฏิบัติทางภูมิวิศวกรรม Geoengineering ที่เฉียบขาด และเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ รวมทั้งไม่ยากเกินไป ทั้งนี้เพื่อทำนุบำรุงรักษาสุขภาพของโลก World Health เอาไว้ด้วยศักยภาพ และสุขภาพของมหาสมุทร Potential & Health of the Oceans สำหรับอนาคตที่เหนือชั้นกว่าจากนี้ไป ..

ในอีกแง่มุม มหาสมุทร The Oceans และระบบนิเวศชายฝั่ง Coastal Ecosystems ยังทำหน้าที่ผลิตออกซิเจน Oxygen : O2 Production รายใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้อีกด้วย .. นอกจากพืชน้ำ Aquatic Plantsสาหร่าย Algae และแพลงก์ตอน Plankton ในมหาสมุทร จะมีบทบาทสำคัญในการแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ระหว่างชั้นบรรยากาศ และทะเลแล้ว ด้วยกระบวนการสังเคราะห์แสง Photosynthesis ของพวกมัน ยังปล่อยคายออกซิเจน Oxygen : O2 ปริมาณมหาศาลขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศไปพร้อมด้วย ..

นักวิทยาศาสตร์ ประเมินว่า ประมาณมากกว่า 50% หรือครึ่งหนึ่งของการผลิตออกซิเจนบนโลกใบนี้ Oxygen : O2 Production on Earth นั้น มาจากมหาสมุทร Oceans และระบบนิเวศชายฝั่ง Coastal Ecosystems .. การผลิตส่วนใหญ่มาจากแพลงก์ตอนในมหาสมุทร Oceanic Plankton และรวมถึง พืชน้ำ Aquatic Plants, สาหร่าย Algae และแบคทีเรียบางชนิด Some Bacteria ในทะเลที่สามารถสังเคราะห์แสง Photosynthesis ได้ .. โปรคลอโรคอคคัส Prochlorococcus คือหนึ่งในตัวอย่างสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์แสงสำคัญที่เล็กที่สุดในโลก แต่แบคทีเรีย Bacteria ตัวน้อยๆ เหล่านี้ สามารถผลิตออกซิเจน Oxygen : O2 ได้มากถึง 20% ในชีวมณฑลทั้งหมด Entire Biosphere .. นั่นคือสัดส่วนที่สูงกว่าป่าฝนเขตร้อนทั้งหมดบนพื้นดินรวมกันหลายเท่าตัวด้วยซ้ำไป ..

เป็นที่แน่นอนว่า การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR และบลูคาร์บอนตามแนวชายฝั่ง Coastal Blue Carbon คือเทคนิควิธีการที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ในอากาศจากศักยภาพของมหาสมุทร และทะเลชายฝั่ง Potential of the Oceans & Coastal Seas ด้วยเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นลบสุทธิ Negative Emissions Targets ที่น่าสนใจ และให้ผลที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง .. แนวคิดคือ เรามิได้คิดจะเข้าไปแทรกแซงธรรมชาติมากเกินไป แต่เรากำลังจะเร่งฟื้นฟูธรรมชาติ มหาสมุทร Oceans และระบบนิเวศชายฝั่ง Coastal Ecosystems เพื่อให้สมดุลธรรมชาติ Natural Balance ได้ทำหน้าที่ของพวกมัน นั่นเอง ..

ดังนั้น การอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ชายเลน พืชน้ำ สาหร่าย Conservation & Restoration of Mangrove Forest Resources, Aquatic Plants, Algae รวมทั้งระบบนิเวศชายฝั่ง Coastal Ecosystems จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งเหล่านี้ ให้เกิดความยั่งยืน เพื่อให้การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR และระบบนิเวศบลูคาร์บอน Blue Carbon Ecosystems ซึ่งดูดซับ CO2 ไว้ กับปล่อยคายออกซิเจน Oxygen : O2 สู่ชั้นบรรยากาศมาพร้อมด้วยนั้น สามารถทำหน้าที่เป็นอ่างเก็บกักคาร์บอน Carbon Sinks ในรูปแบบชีวมวล และการทับถมของตะกอนลงสู่ชั้นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป รวมทั้งทำให้สัดส่วนของ CO2 และ O2 ในชั้นบรรยากาศ อยู่ในภาวะที่เหมาะสมมากขึ้น ..

Ocean-Based CDR | Credit : CDR Swiss Webinar / CDRmare / GEOMAR Helmholtz Centre

หมายถึงการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR ด้วยการฟื้นฟูป่าชายเลน และระบบนิเวศบลูคาร์บอนชายฝั่ง Mangroves & Coastal Blue Carbon Ecosystems Restoration รวมถึงการเพาะเลี้ยงสาหร่าย Algae Cultivation ให้กระจายไปทั่วโลก จึงได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำคัญยิ่งยวดที่ขาดไม่ได้จากนี้ไป เพื่อให้การบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Emissions Targets ของมนุษยชาติในปี 2593 นั้น เป็นไปได้ ..

การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR ด้วยวิศวกรรมมหาสมุทร Engineering the Oceans หรือ Ocean Fertilization คือ วิธีปฏิบัติทางภูมิวิศวกรรม Geoengineering ที่เฉียบขาด และน่าสนใจอย่างยิ่ง ..

วิศวกรรมมหาสมุทร Engineering the Oceans คือแนวคิดที่น่าสนใจและไม่ยากเกินไป เพื่อบำรุงรักษาสุขภาพของโลก World Health ด้วยศักยภาพ และสุขภาพของมหาสมุทร Potential & Health of the Oceans .. ปัญหาสำคัญประการหนึ่งของ CO2 ในชั้นบรรยากาศที่มีปริมาณมากเกินไป คือ ความเป็นกรดในมหาสมุทร Ocean Acidification ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ CO2 ละลายลงสู่มหาสมุทร และทำให้เกิดกรดคาร์บอนิก Carbonic Acid : H2CO3 ..

ความเป็นกรดของน้ำทะเลนี้ จะละลายเปลือกแข็งของสัตว์ทะเลหลายชนิด เช่น ปะการัง Corals และฆ่าพวกมัน .. นอกจากนี้ สัตว์น้ำหลายชนิดที่ไม่มีเปลือกยังไวต่อการเปลี่ยนแปลงของความเป็นกรด และไม่สามารถอยู่รอดได้นอกขอบเขตแคบๆ .. ปัญหาอีกประการหนึ่งของความเข้มข้นของ CO2 ในมหาสมุทรสูง ก็คือพวกมันทำให้ CO2 สะสมในชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้นด้วย ปัจจุบันมหาสมุทร Oceans ดูดซับมากกว่า 25% ของ CO2 ที่มนุษย์ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ แต่มหาสมุทร Oceans กำลังถึงขีดจำกัดแล้ว และไม่สามารถดูดซับ CO2 ได้มากเหมือนเมื่อก่อนเช่นในอดีต ..

โดยทั่วไป มหาสมุทร Oceans มีอิทธิพลต่อสภาพอากาศของโลกใบนี้อย่างมาก .. พวกมันแสดงบทบาท และทำหน้าที่ดูดซับ และกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ Absorbing & Storing Carbon Dioxide : CO2 ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม .. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Climate Change และวิกฤตสภาพอากาศ Climate Crisis ในปัจจุบัน เกิดจากการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ที่มนุษย์สร้างขึ้น และก๊าซเรือนกระจก Greenhouse Gases อื่นๆ ในชั้นบรรยากาศ ..

อัตราการสะสมขึ้นอยู่กับปริมาณ CO2 ของมนุษย์ที่ปล่อยออกมา และปริมาณ CO2 ส่วนเกินที่ถูกพืช และดินดูดซับ หรือถูกดูดซับลงสู่ทะเลลึกโดยแพลงก์ตอน Plankton, สาหร่าย Seaweed, พืช และสัตว์ขนาดเล็กจิ๋ว Microscopic Plants & Animals ต่างๆ ในทะเล .. นักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่า ปัจจุบัน มหาสมุทร Oceans ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 30-50% ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล Burning of Fossil Fuels .. ทั้งนี้ หากมหาสมุทร Oceans ไม่ทำหน้าที่ของพวกมันตามที่ควรจะเป็น จากการคำนวณคาดว่า ระดับ CO2 ในชั้นบรรยากาศจะสูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 355 Parts per Million by Volume: ppmv ไปอยู่ที่ค่าประมาณ 500-600 ppmv ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis ในปัจจุบัน ..

การปลูกป่าใต้ทะเลตามแนวชายฝั่ง Planting Undersea Seaweed & Forests along the Coast หรือ Coastal Blue Carbon คือ อีกบริบทการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการใช้ศักยภาพของมหาสมุทรที่น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งหมายถึง วัฏจักรคาร์บอน Carbon Cycle ที่ขับเคลื่อนด้วยกระบวนการทางชีวภาพ และการกักเก็บในระบบมหาสมุทรที่บริหารจัดการได้ง่ายกว่า โดยทั่วไปหมายถึง บทบาทของหนองน้ำ น้ำขึ้นน้ำลง ป่าชายเลน และหญ้าทะเล ในการกักเก็บคาร์บอน Carbon Sequestration .. ระบบนิเวศวิทยา Ecosystems ดังกล่าว สามารถมีส่วนช่วยในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Climate Change Mitigation และการปรับตัวสู่สมดุลธรรมชาติในระบบนิเวศ Ecosystem-Based Adaptation ดังนั้น เมื่อระบบทะเลชายฝั่งเสื่อมโทรม หรือสูญเสียไป การฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยาตามแนวชายฝั่ง จึงสำคัญยิ่ง เพื่อหยุดยั้งการปล่อยคาร์บอนกลับคืนสู่ชั้นบรรยากาศให้สำเร็จได้ในที่สุด ..

ขณะที่ การขุนบำรุงเลี้ยงมหาสมุทร Ocean Fertilization คืออีกหนึ่งในวิธีการทางภูมิวิศวกรรมในมหาสมุทร Ocean Geoengineering Method ที่มีการศึกษามาเป็นอย่างดี และสามารถช่วยลดทั้งความเป็นกรดของมหาสมุทร Ocean Acidification และภาวะโลกร้อน Global Warming ได้อย่างเฉียบขาด ซึ่งอาจจำเป็นต้องมีดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูคาร์บอนสีน้ำเงิน และการกักเก็บคาร์บอน Blue Carbon Restoration & Carbon Sequestration มาพร้อมด้วย ..

พวกมัน เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการเติบโตเจริญพันธุ์ของแพลงก์ตอนพืช Phytoplankton หรือ Plankton Booms ซึ่งเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ให้เป็นออกซิเจน Oxygen : O2 ผ่านการสังเคราะห์แสง Photosynthesis .. แพลงก์ตอนพืชขนาดเล็กจิ๋ว Microscopic Phytoplankton เหล่านี้ ทำหน้าที่ประมาณ 50% ของการสังเคราะห์ด้วยแสงของทั่วโลก World’s Photosynthesis .. เช่นเดียวกับการใส่ปุ๋ยในสวน และพืชไร่ เพื่อช่วยให้พืชเติบโตเร็วขึ้น ปุ๋ยต่าง ๆ ก็สามารถเพิ่มลงในมหาสมุทร เพื่อช่วยให้แพลงก์ตอนพืช Phytoplankton เติบโตเร็วขึ้น และใช้ CO2 มากขึ้น และเหล็ก Iron : 26Fe คือปุ๋ยหลักในมหาสมุทร Main Ocean Fertilizer ที่กำลังพิจารณา และกระบวนการนี้จะมีราคาถูกกว่า และให้ผลดีได้รวดเร็วกว่าการปลูกต้นไม้บนบกอยู่หลายเท่าตัว ..

Phytoplankton Produce Oxygen | Credit : Quora

อย่างไรก็ตาม อาจเกิดผลที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจจากวิธีนี้ด้วยเช่นกัน การเจริญเติบโตของแพลงก์ตอนพืช Phytoplankton มากเกินไป อาจทำให้เกิดการขยายตัวของสาหร่าย Algae Blooms ซึ่งทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลได้ .. นอกจากนี้ แม้ว่าแพลงก์ตอนพืช Phytoplankton มีความสำคัญที่อยู่ด้านล่างสุดของห่วงโซ่อาหารทางทะเล แต่การเพิ่มจำนวนประชากรอย่างกะทันหัน อาจทำให้ความสมดุลของสาหร่ายชนิดต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ระบบนิเวศทางทะเลไม่มั่นคง นอกจากนี้ ยังอาจมีราคาแพงกว่า และมีประสิทธิภาพน้อยกว่า รวมทั้งใช้เวลานานกว่าวิธีปล่อยละอองซัลเฟต Sulfate Aerosols หรือซัลเฟอร์ไดออกไซด์ Sulphur Dioxide : SO2 ออกสู่บรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ Stratosphere เพื่อลดความร้อนของโลก .. ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ คำนวณได้ว่า เพื่อให้การบำรุงเลี้ยงสุขภาพของมหาสมุทร Ocean Fertilization เหมาะสมต่อสมดุลธรรมชาตินั้น แม้ว่า ค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังขึ้นอยู่กับประเภทของสารอาหาร Nutrient เช่น ยูเรีย Urea : CH4N2O, ธาตุเหล็ก Iron : 26Fe หรือสารอาหารอื่นๆ ที่เติมลงไปในมหาสมุทรก็ตาม แต่ประมาณการค่าใช้จ่ายต่อปีโดยเฉลี่ยทั่วโลก คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 450 พันล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี ..

ทั้งนี้ ในกรณีของ การขุนบำรุงเลี้ยงมหาสมุทร Ocean Fertilization นั้น เกี่ยวข้องกับการเติมสารอาหารลงในมหาสมุทร Adding Nutrients to the Oceans เพื่อกระตุ้นการเติบโตของแพลงก์ตอนพืช Stimulate Phytoplankton Growth ซึ่งสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ Absorb Carbon Dioxide : CO2 from the Atmosphere ได้อย่างยอดเยี่ยม .. แนวทางนี้มุ่งหวังที่จะปรับปรุง “ปั๊มชีวภาพ Biological Pump” ตามธรรมชาติของมหาสมุทร ซึ่งแพลงก์ตอนพืช Phytoplankton จะจมลงสู่มหาสมุทรลึกเมื่อตาย และกักเก็บคาร์บอนที่ดูดซับไว้ในลักษณะของอ่างกักเก็บคาร์บอน Carbon Sinks อย่างถาวร .. แม้ว่าการขุนบำรุงเลี้ยงใส่ปุ๋ยในมหาสมุทร Ocean Fertilization จะมีแนวโน้มที่ดี แต่ยังคงต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประสิทธิภาพในระยะยาว และผลกระทบทางระบบนิเวศที่อาจเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึงได้ด้วยเช่นกัน ..

โดยภาพรวมแล้ว การใส่ปุ๋ยขุนบำรุงเลี้ยงมหาสมุทร Ocean Fertilization คือ แนวทางภูมิวิศวกรรม Geoengineering ที่ซับซ้อนซึ่งมีศักยภาพสูงในการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศด้วยศักยภาพของมหาสมุทร หรือที่เรียกกันว่า การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR ได้อย่างเฉียบขาด แต่ก็ยังก่อให้เกิดคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพ ผลกระทบต่อระบบนิเวศ และความท้าทายด้านกฎระเบียบอีกด้วย จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม และพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบก่อนที่จะนำไปใช้ในวงกว้างมาพร้อมด้วย ..

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักของภูมิวิศวกรรม Geoengineering เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากหลายสถาบันทั่วโลก กำลังดำเนินการทดสอบทดลองภาคสนาม เพื่อประเมินผลที่อาจเกิดขึ้นอย่างแม่นยำ และพัฒนาข้อตกลงระหว่างประเทศ เพื่อปรับใช้ และติดตามการใช้เทคโนโลยีภูมิวิศวกรรม Geoengineering Technologies อย่างปลอดภัย .. หากจะมีการนำภูมิวิศวกรรม Geoengineering มาใช้ในมหาสมุทรอย่างกว้างขวางแล้ว เป็นที่แน่นอนว่า เทคนิคต่างๆ ที่ผสมผสานกันจะถูกนำมาประยุกต์ใช้ไปพร้อมด้วย ขึ้นอยู่กับต้นทุน Cost, เงื่อนไขทางภูมิสังคม Regional Conditions และการตอบสนองของสภาพภูมิอากาศ Climate’s Response ..

วิธีการที่แตกต่างกันอาจมีผลกระทบในระดับท้องถิ่น หรือระดับโลก ดังนั้นนโยบายด้านกฎระเบียบ จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาคมระหว่างประเทศ กลายเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ .. ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก จึงเรียกร้องให้มีการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแล และองค์การความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อให้คำแนะนำแก่สหประชาชาติ United Nations : UN และจัดลำดับความสำคัญของภูมิวิศวกรรมในการวางแผนงานต่างๆ ที่จะสามารถช่วยให้มนุษยชาติ สามารถย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Reverse Climate Change ในลักษณะที่มีการควบคุมได้มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์วิกฤติสภาพภูมิอากาศ และทำให้เกิดความยั่งยืน Sustainability ในระบบเศรษฐกิจ และสังคมของมนุษยชาติให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..

การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR ในประเทศไทย ..

ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังศึกษา และพัฒนาวิธีการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Develop & Explore Ocean-Based Carbon Removal Methods เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutrality Goals ภายในปี 2593 และการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Emissions ภายในปี 2608 ซึ่งรวมถึงโครงการต่างๆ เช่น การฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล Restoring Marine Ecosystems, การพัฒนาแนวปะการังเทียม Developing Artificial Reefs และการสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับการเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทร Supporting Research into Ocean Alkalinity Enhancement .. นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังพิจารณาเทคโนโลยีการดักจับ และกักเก็บคาร์บอน Carbon Capture & Storage Technologies รวมถึงการดำเนินโครงการนอกชายฝั่ง Offshore Projects หลายโครงการ และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในความพยายามระหว่างประเทศ Participate in International Efforts เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และต่อสู้กับปัญหาขยะทะเล Combat Climate Change & Marine Debris ..

Blue Carbon in Ko Smui, Thailand | Credit : Frontiers in Marine Science

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบความพยายามของไทยในประเด็นที่กล่าว สรุปได้ดังนี้ :-

1.การปรับปรุงการดักจับคาร์บอนในมหาสมุทร Enhancing Ocean’s Carbon Capture :-

โครงการ Blue CarbonInitiatives & Blue Carbon Ecosystems : ประเทศไทย เร่งผลักดันการศึกษา และดำเนินโครงการ “Blue Carbon Projects” อย่างแข็งขันในหลายพื้นที่ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟู และรักษาระบบนิเวศชายฝั่ง Restoring & Preserving Coastal Ecosystems เช่น ป่าชายเลน Mangroves และทุ่งหญ้าทะเล Seagrass Beds ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการดูดซับ และกักเก็บคาร์บอน Highly Effective at Absorbing & Storing Carbon รวมทั้งการปล่อยคายออกซิเจน Oxygen : O2 สู่ชั้นบรรยากาศในปริมาณมหาศาลมาพร้อมด้วย ..

การฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเล Restoration and Development of Marine Habitats : ประเทศไทย มีการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเล Restore & Develop Marine Habitats รวมถึงการใช้แนวปะการังเทียม Use of Artificial Reefs ที่สามารถช่วยกักเก็บคาร์บอน Sequester Carbon และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในทะเล Provide Habitat for Marine Life ..

BlueCarbon / Plants and Trees in Coastal Ecosystems Absorb Carbon Dioxide through Photosynthesis | Credit : NOAA

การเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทร Ocean Alkalinity Enhancement : บริษัท Planetary Technologies กำลังสำรวจศักยภาพของการเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทรเพื่อขจัด CO2 ออกจากน้ำทะเล ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการกำจัดคาร์บอนในระยะยาว Long-Term Carbon Removal ตามรายงานของ Carbon Herald ..

การวิจัย และพัฒนา Research & Development : ประเทศไทย Thailand ยังสนับสนุนการวิจัยเทคโนโลยีการกำจัดคาร์บอนจากมหาสมุทรต่างๆ Various Ocean-Based Ocean Carbon Removal : OCR Technologies รวมถึงการปลูกสาหร่ายทะเล Kelp Farming และการขุนบำรุงเลี้ยงมหาสมุทร Ocean Fertilization ซึ่งสามารถดักจับ CO2 จากผิวน้ำ และปล่อยคาย O2 ได้อย่างยอดเยี่ยม ..

2.การดักจับ และจัดเก็บคาร์บอน Carbon Capture and Storage : CCS ในประเทศ :-

การดักจับ และกักเก็บคาร์บอนนอกชายฝั่ง Offshore CCS : ปตท.สผ. PTTEP ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของประเทศไทย กำลังพัฒนาเทคโนโลยีการดักจับ และกักเก็บคาร์บอนนอกชายฝั่ง Developing Offshore CCS Technology for Carbon Capture & Storage ซึ่งรวมถึงการฉีดอัด CO2 ที่ดักจับได้ลงในแหล่งน้ำใต้ดินที่เป็นเกลือ Saline Aquifers และแหล่งก๊าซที่หมดลงแล้ว Depleted Gas Fields ในอ่าวไทย Gulf of Thailand ..

การดักจับ และการใช้ประโยชน์คาร์บอน Carbon Capture & Utilization : CCU : ปตท.สผ. PTTEP และอีกหลายหน่วยงาน รวมทั้งองค์กรทางธุรกิจ กำลังสำรวจความเป็นไปได้เพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยี CCU Technologies ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อแปลง CO2 ที่ดักจับ และจัดเก็บไว้ได้มาเป็นวัตถุดิบในการทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า เช่น เชื้อเพลิง และอื่น ๆ อีกมากมาย ..

3.ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการลดขยะในทะเล International Cooperation & Marine Debris Reduction :-

การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันเชิงรุก Active Participation : ประเทศไทย Thailand มีส่วนร่วมอย่างสำคัญในความพยายามระหว่างประเทศ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล Combat Climate Change & Protect Marine Environments ..

การลดขยะในทะเล Marine Debris Reduction : ประเทศไทย Thailand ได้ดำเนินการตามมาตรการเพื่อลดขยะพลาสติกในทะเลผ่านแคมเปญทำความสะอาด Clean-Up Campaigns, โปรแกรมการลดขยะ Waste Reduction Programs และโครงการวิจัยริเริ่มใหม่ Research Initiatives ตลอดจนการจัดตั้งฐานข้อมูลขยะในทะเลระดับประเทศ National Database of Marine Debris ..

ความร่วมมือ Collaboration : ประเทศไทย Thailand ยังทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ และองค์กรระหว่างประเทศ Working with Other Countries & International Organizations เพื่อแบ่งปันข้อมูล Share Information และสร้างศักยภาพในการป้องกัน และจัดการขยะในทะเล Build Capacity for Preventing & Managing Marine Debris ไปพร้อมด้วย ..

ตัวอย่างความร่วมมือทางวิชาการของไทยกับนานาประเทศในประเด็นการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR ที่โดดเด่น ได้แก่ การร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ Memorandum of Understanding : MOU โครงการ Ocean Negative Carbon Emissions : ONCE ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Chulalongkorn University โดยศูนย์บริการวิชาการ Academic Service Center และภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ Department of Marine Science of the Faculty of Science ซึ่งโครงการนี้ ได้รับการรับรองจากโครงการ Global Ocean Negative Carbon Emissions: Global-ONCE ภายใต้โครงการทศวรรษวิทยาศาสตร์มหาสมุทรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ United Nations Decade of Ocean Science for Sustainable Development ซึ่งประสานงานโดย คณะกรรมาธิการสมุทรศาสตร์ระหว่างรัฐแห่งองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ IOC-UNESCO ..

ทั้งนี้ Ocean Negative Carbon Emissions : ONCE คือโครงการความร่วมมือระหว่างสถาบัน การศึกษา และการวิจัยจากมากกว่ากว่า 33 ประเทศ ในพิธีลงนาม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ณ China Hall of Science and Technology กรุงปักกิ่ง โดยศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ Professor Dr. Pornanong Aramwit รักษาการรองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ลงนามในข้อตกลงดังกล่าวในนามของศาสตราจารย์ ดร. วิเลิศ ภูริวัต Professor Dr. Wilert Puriwat อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย .. ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการลงนามโดยศาสตราจารย์ติงเว่ย หลัว Prof. Tingwei Luo ประธานศูนย์วิจัยการปล่อยคาร์บอนเชิงลบในมหาสมุทร เซียเหมิน President of the Research Center for Ocean Negative Carbon Emissions, Xiamen : ONCEXM โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.เพ็ญใจ สมพงศ์ไชยกุล Associate Professor Dr. Penjai Sompongchaiyakul ทำหน้าที่เป็นพยานในการลงนาม ..

ความร่วมมือทางวิชาการนี้ ถือเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างศักยภาพทรัพยากรบุคคลผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างคณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโทของไทยกับนานาประเทศ .. นอกจากนี้ โครงการ Ocean Negative Carbon Emissions : ONCE ยังมุ่งหวังที่จะรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมหาสมุทร In-Depth Data on Oceans ซึ่งมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับการกำหนดยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ และกรอบการจัดการที่สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ United Nations Sustainable Development Goals : SDGs ในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับมหาสมุทร Oceans และสภาพอากาศโลก Global Climate ..

อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นของไทยในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Emissions ภายในปี 2608 และแผนงานการเพิ่มแหล่งดูดซับคาร์บอนบนบกในประเทศ Increase Domestic Land-Based Carbon Sinks ชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่แข็งขันเชิงรุกของไทยในความพยายามเพื่อการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ Active Role in Carbon Dioxide : CO2 Removal : CDR Efforts ออกไปจากชั้นบรรยากาศ ซึ่งรวมถึงความพยายามที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR อีกด้วย ..

แหล่งดูดซับ หรืออ่างกักเก็บคาร์บอนในประเทศ Domestic LULUCF Sinks คือ ยุทธศาสตร์สำคัญของไทยในการพัฒนาระยะยาวสำหรับการปล่อยคาร์บอนต่ำของไทย Thailand’s Long-Term Low-Emission Development Strategy : LT-LEDS รวมถึงแผนงานการใช้ที่ดินในประเทศ Domestic Land Use, การแปลงการใช้ที่ดิน และป่าไม้ Land-Use Change & Forestry สำหรับการทำให้เป็นอ่างกักเก็บคาร์บอนในประเทศ Domestic Carbon Sinks โดยมีเป้าหมาย อยู่ที่ 120 MtCO2e ซึ่งเทียบได้เท่ากับ 28% ของการปล่อยคาร์บอนในประเทศต่อปีเมื่อปี 2562 ภายในปี 2608 ..

ขณะที่ การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR ของไทยในปัจจุบัน จะยังมิได้มีการระบุรายละเอียดเป้าหมายอย่างชัดเจนมากนัก แต่การผนวกรวมโครงการการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทรที่เกี่ยวข้องกับแหล่งดูดซับ หรืออ่างกักเก็บคาร์บอนในประเทศ Domestic LULUCF Sinks ไว้ในยุทธศาสตร์ไปสู่คาร์บอนเป็นศูนย์สุทธิของไทย ได้แสดงให้เห็นถึงความตระหนักรู้ และศักยภาพในการกำจัดคาร์บอนจากมหาสมุทร Potential for Ocean-Based Carbon Removal โดยสามารถดำเนินงานได้ผ่านโครงการต่างๆ เช่น การปลูกป่า หรือการอนุรักษ์ทางทะเล Reforestation or Marine Conservation ซึ่งรวมถึงการฟื้นฟู และรักษาระบบนิเวศชายฝั่ง Restoring & Preserving Coastal Ecosystems เช่น ป่าชายเลน Mangroves และทุ่งหญ้าทะเล Seagrass Beds เป็นต้น ..

ทั้งนี้ โดยสรุปแล้ว แม้ว่าไทยจะไม่ได้ระบุถึงเป้าหมายปริมาณการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทรโดยเฉพาะก็ตาม แต่ความมุ่งมั่นของไทยในการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Emissions และการบรรจุรวบรวมแผนการพัฒนาแหล่งดูดซับ และอ่างกักเก็บคาร์บอนในประเทศ Domestic LULUCF Sinks ไว้ในยุทธศาสตร์ โครงการ แผนงาน และงบประมาณอย่างเป็นระบบนั้น บ่งชี้ถึงบทบาทที่เป็นไปได้ และศักยภาพของไทยสำหรับข้อไขโซลูชันจากมหาสมุทร Potential Role for Ocean-Based Solutions ในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..

คาดการณ์ตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทรทั่วโลก Global Ocean Carbon Removal : OCR Market ..

อ้างถึงข้อมูลการสำรวจตลาดของ Maximize Market Research พบว่า ขนาดธุรกิจในตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทรทั่วโลก Global Ocean Carbon Removal : OCR Market มีมูลค่า 564.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 และคาดหมายว่า มูลค่าจะพุ่งขึ้นสูงขึ้นแตะระดับประมาณ 1,745.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี Compound Annual Growth Rate : CAGR  หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับการลงทุนในตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทรทั่วโลก Global Ocean Carbon Removal : OCR Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 17.5% ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2567-2573 ..

The Ocean Carbon Removal Market | Credit : Maximize Market Research

การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR หมายถึงกระบวนการลดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ Process of Mitigating Carbon Dioxide : CO2 ในชั้นบรรยากาศของโลกโดยใช้ประโยชน์จากความสามารถตามธรรมชาติของมหาสมุทรในการดูดซับคาร์บอน Natural Ability of the Oceans to Absorb Carbon ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคนิค และวิธีการต่างๆ ที่มุ่งเป้าไปที่การเพิ่มความสามารถของมหาสมุทร Ocean’s Capacity ในการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 Storage, ลดความเข้มข้นในชั้นบรรยากาศ Reducing Its Concentration in the Atmosphere และแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Addressing Climate Change ..

ตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR Market เติบโตขึ้น และได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากความกังวลทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบ .. ตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR Market ได้เห็นการลงทุนที่เพิ่มขึ้น และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในวิธีการต่าง ๆ ซึ่งเป็นแรงผลักดันการพัฒนากลยุทธ์ และแนวทางที่สร้างสรรค์ Development of Innovative Strategies สำหรับการกำจัดคาร์บอนจากมหาสมุทร Carbon Removal from Oceans อย่างมีประสิทธิภาพ ..

ผู้เล่นหลัก เช่น บริษัท Brilliant Planet, Captura, Ebb Carbon, Equatic, Ocean-Based Climate Solutions และ Planetary มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกโซลูชันข้อไขที่หลากหลายในโดเมนนี้ .. แรงผลักดันหลายประการสนับสนุนการเติบโตของตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร นโยบาย และความคิดริเริ่มจากนโยบายภาครัฐของนานาประเทศทั่วโลกที่สนับสนุนการกำจัดคาร์บอน ได้ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเติบโตของตลาด .. ความเร่งด่วนในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Combat Climate Change ได้กระตุ้นให้เกิดการวิจัย และพัฒนา ส่งผลให้เกิดเทคโนโลยีการกำจัดคาร์บอนที่เป็นนวัตกรรม และยั่งยืน Innovative & Sustainable Carbon Removal Technologies .. การตระหนักรู้ และการยอมรับโปรแกรมคาร์บอนเครดิต Acceptance of Carbon Credit Programs ที่เพิ่มมากขึ้น ยังส่งเสริมการลงทุนในโครงการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Investments in Ocean Carbon Removal : OCR Initiatives ซึ่งผลักดันให้ตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร OCR Market เติบโตขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ..

แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ บ่งชี้ถึงการมุ่งเน้นที่ความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาล Governments, ธุรกิจ Businesses และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม Environmental Organizations มากขึ้น เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Advancements in Ocean Carbon Removal : OCR .. ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงไปสู่โซลูชันข้อไขที่สร้างสรรค์ เช่น เทคโนโลยีดักจับจากอากาศโดยตรง Direct Air Capture : DAC และการสำรวจคำนวณมูลค่าคาร์บอนเครดิตสีน้ำเงิน Blue Carbon Credits จากโครงการกักเก็บคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean-Based Sequestration Projects ได้สร้างโอกาสใหม่ๆ ในตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร ..

นอกจากนี้ แนวโน้มยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นในการประยุกต์ใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การกักเก็บไบโอชาร์ Biochar Sequestration, การฟื้นฟูแนวปะการัง Reef Restoration, การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ Aquaculture และการใส่ปุ๋ยเหล็ก Iron Fertilization หรือขุนบำรุงเลี้ยงมหาสมุทร Ocean Fertilization เพื่อเพิ่มการกำจัดคาร์บอน Enhance Carbon Removal .. การที่ Microsoft เข้าร่วมสู่กระบวนการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร ได้ส่งสัญญาณถึงการพัฒนาที่สำคัญในตลาด ด้วยการนำการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอ Microsoft Portfolio ร่วมกับกลุ่มองค์กรต่างๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความคิดริเริ่มเหล่านี้ โดยมีส่วนสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้า และขยายขอบเขตความพยายามในการกำจัดคาร์บอน Scaling Up Carbon Removal Efforts .. การเคลื่อนไหวครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการลงทุน และความร่วมมือที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโต และนวัตกรรมของตลาดการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทรได้อย่างยั่งยืนต่อไป ..

สรุปส่งท้าย ..

ปัจจุบัน การกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR กำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะภูมิวิศวกรรมมหาสมุทร Geoengineering the Ocean ซึ่งหมายถึง การแทรกแซงขนานใหญ่โดยเจตนาในระบบธรรมชาติของโลก Large-Scale Intervention in the Earth’s Natural Systems เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์วิกฤตสภาพภูมิอากาศ Counteract Climate Crisis กลายเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ มิฉะนั้น การต่อสู้กับวิกฤตสภาพอากาศ Combat the Climate Crisis ที่จะยังคงพยายามทำให้อุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นนั้น ต่ำลงกว่าจุดเล็งที่ 1.5-2oC ในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะเป็นไม่ไปได้ ..

โดยทั่วไป มหาสมุทร The Oceans มีอิทธิพลต่อสภาพอากาศของโลกใบนี้อย่างมาก .. พวกมัน แสดงบทบาท และทำหน้าที่ในการดูดซับ และกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ Absorbing & Storing Carbon Dioxide : CO2 ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม .. ในอีกแง่มุม มหาสมุทร The Oceans ยังทำหน้าที่ผลิตออกซิเจน Oxygen : O2 Production รายใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้อีกด้วย .. นอกจากแพลงก์ตอน Plankton ในมหาสมุทร จะมีบทบาทในการแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ระหว่างชั้นบรรยากาศ และทะเลแล้ว พวกมันยังปล่อยคายออกซิเจน Oxygen : O2 ปริมาณมหาศาลขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศไปพร้อมด้วยนั่นเอง ..

ภูมิวิศวกรรมมหาสมุทร Geoengineering the Ocean และการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR นั้น เกี่ยวข้องกับการขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 Removal และการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล Marine Ecosystem Restoration เพื่อดูดซับ และกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ Absorb & Store Atmospheric CO2 ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Mitigating Climate Change ได้อย่างมั่นใจด้วยการใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทร Increasing Ocean Alkalinity, การส่งเสริมการเติบโตของแพลงก์ตอนพืช Encouraging Phytoplankton Growth และการดักจับ และกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรงจากน้ำทะเล Direct Capture of CO2 from Seawater รวมถึงแพลงก์ตอนพืช Phytoplankton ซึ่งเป็นแพลงก์ตอนชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ล่องลอยไปมาที่ใช้การสังเคราะห์แสง Photosynthesis เพื่อแปลงแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงาน และปล่อยคายออกซิเจนเป็นผลพลอยได้ Release Oxygen : O2 as a Byproduct .. ในความเป็นจริง แพลงก์ตอนพืช Phytoplankton คือตัวสำคัญที่รับผิดชอบต่อออกซิเจนที่ผลิตขึ้นบนโลกใบนี้ อยู่ที่ประมาณ 50% อีกต่างหากมาพร้อมด้วย ..

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว Rapidly Reducing Greenhouse Gas Emissions คือสิ่งสำคัญที่สุดของโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Combatting Climate Change แต่บรรดานักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่า มนุษยชาติ จะต้องเร่งกำจัดคาร์บอนออกไปจากชั้นบรรยากาศในปริมาณมาก Remove Significant Amounts of Carbon from the Atmosphere โดยเร็ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของโลก และรักษาระดับอุณหภูมิให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide Removal : CDR นี้ สามารถกระทำได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ มากมาย รวมถึงวิธีการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในมหาสมุทร ซึ่งนั่นหมายถึง กระบวนการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR Process ..

Blue Carbon / Their Importance in Climate Change Mitigation, Biodiversity Value, Key Role Play in Coastal Livelihoods | Credit : WCS

มหาสมุทร Oceans ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 70% ของโลก และกักเก็บคาร์บอนมากกว่าชั้นบรรยากาศถึง 42 เท่า .. แนวทาง Carbon Dioxide : CO2 Removal or CDR ในมหาสมุทรที่เสนอขึ้นนั้น มุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากศักยภาพนี้ เพื่อจัดเก็บคาร์บอนได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น วิธีการดังกล่าวได้รับการคาดหมายว่าจะสามารถกำจัด CO2 ออกไปจากชั้นบรรยากาศได้มากถึงพันล้านตันต่อปี .. หากแต่ศักยภาพเหล่านี้ มาพร้อมกับความไม่แน่นอนจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับการวิจัย และการทดสอบในทะเล เพื่อทำความเข้าใจว่า แนวทาง CDR ในมหาสมุทรด้วยกระบวนการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR Process มีประสิทธิภาพเพียงใดในการกำจัด และจัดเก็บคาร์บอนในระยะยาว และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คน และสิ่งแวดล้อม ..

เช่นเดียวกับบนแผ่นดิน มีวิธีมากมายที่มหาสมุทร Oceans สามารถใช้เพื่อเพิ่มการกำจัดคาร์บอนได้ โดยทั่วไปแล้ว วิธีการเหล่านี้ สามารถจัดกลุ่มได้เป็นวิธีการที่ใช้ประโยชน์จากกระบวนการทางชีวภาพ Biological Processes และวิธีการที่ใช้ประโยชน์จากกระบวนการที่ไม่ใช่ทางชีวภาพ Non-Biological Processes ..

ตัวอย่างหนึ่งของการกำจัดคาร์บอนทางชีวภาพจากมหาสมุทร Biological Ocean-Based Carbon Removal คือ การเพาะปลูก และการจมสาหร่ายโดยตั้งใจ Cultivation & Intentional Sinking of Seaweed ซึ่งสาหร่าย Seaweed เหล่านี้ จะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ที่ละลายอยู่ในน้ำ และจากผิวน้ำในขณะที่พวกมันเจริญเติบโต และเปลี่ยน CO2 ให้เป็นเนื้อเยื่อคาร์บอน Carbon Tissues .. คาร์บอนที่รวมอยู่ในน้ำ จะถูกกักเก็บไว้ถาวรเมื่อสาหร่ายจมลงไป ขณะที่น้ำทะเลที่ขาด CO2 จะปรับสมดุลใหม่กับบรรยากาศโดยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 บางส่วน ส่งผลให้คาร์บอนในชั้นบรรยากาศ Atmospheric Carbon จะถูกกำจัดออกไป ..

สำหรับกระบวนการที่ไม่ใช่ทางชีวภาพ Non-Biological Processes นั้น มีเทคนิคต่างๆ มากมายเช่นกัน เช่น การเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทร Ocean Alkalinity Enhancement ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้หินด่างบดละเอียดกับน้ำทะเล .. วัสดุที่บดละเอียด Ground Material Reacts จะทำปฏิกิริยากับ CO2 ที่ละลายอยู่ในน้ำผิวดินเพื่อสร้างไบคาร์บอเนต และคาร์บอเนตที่เป็นของแข็ง Solid Bicarbonates & Carbonates ซึ่งจะกักเก็บคาร์บอนไว้ เช่นเดียวกับการเพาะเลี้ยงสาหร่าย Seaweed Cultivation การเพิ่มความเป็นด่างของมหาสมุทร Ocean Alkalinity Enhancement มุ่งหวังที่จะลดปริมาณ CO2 ที่ละลายอยู่ในน้ำผิวดิน Surface Waters เพื่อให้สามารถกำจัด CO2 ออกจากอากาศได้มากขึ้นไปพร้อมด้วย ..

ในแง่มุมทางวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคทางภูมิวิศวกรรมมหาสมุทร Geoengineering the Ocean และการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR นั้น การทำให้โลกเย็นลง มิใช่เรื่องยากเย็นแต่อย่างไร หากแต่การตัดสินตกลงใจที่จะใช้พวกมันจริง ๆ เพื่อลดอุณหภูมิโลกของฝ่ายการเมือง กลับดูยากเย็นแสนเข็ญอย่างยิ่ง เนื่องจากยังมีผู้คนที่ไม่เข้าใจ และกังวลไม่เห็นด้วยที่จะใช้พวกมันอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ..

มนุษยชาติ ได้ใช้มาตรการมากมาย เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Combat the Climate Change ที่ไม่พึงประสงค์ และมุ่งมั่นสู่การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Emissions รวมทั้งหยุดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไว้ที่จุดเล็ง 1.5oC ให้ได้ ภายในปี 2593 ซึ่งดูเสมือนว่า มาตรการระดับนานาชาติเหล่านี้ จะไม่ได้ผลเท่าที่ควรตามที่คาดหวังไว้ ..

การยกเลิกการบริโภคพลังงานจากแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuel-Based Energy Sources เป็นหลัก ด้วยการเปลี่ยนผ่านไปใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน Transition to Renewable Energy Sources เป็นแหล่งพลังงานหลักทดแทนในระบบเศรษฐกิจ และสังคมของมนุษยชาตินั้น ยังไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในทันทีทันใด .. ดังนั้น บางทีการตัดสินตกลงใจของนานาประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยที่จะประยุกต์ใช้โครงการบลูคาร์บอน Blue Carbon Projects ด้วยกระบวนการกำจัดคาร์บอนในมหาสมุทร Ocean Carbon Removal : OCR เป็นเครื่องมือหลักโดยการเร่งฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง Coastal Ecosystems หรือการขุนบำรุงเลี้ยงมหาสมุทร Ocean Fertilization เป็นต้น เพื่อให้มหาสมุทร Oceans, ทะเลชายฝั่ง Coastal Seas, สาหร่าย Algae, แพลงตอน Plankton, พืชทะเล และหญ้าทะเล Marine Plants & Seagrass ทำหน้าที่เป็นอ่างกักเก็บคาร์บอน Carbon Sinks และปล่อยคายออกซิเจน Oxygen : O2 ปริมาณมหาศาลออกสู่ธรรมชาติ ให้สัดส่วนของก๊าซในชั้นบรรยากาศเข้าสู่สมดุลธรรมชาติในตัวของมันเอง และกระจายออกไปในวงกว้างทั่วโลกจากนี้ไปนั้น กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในความสำคัญจำเป็นยิ่งยวดที่ขาดไม่ได้ ทั้งนี้ เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์วิกฤตสภาพอากาศ Counteract Climate Crisis และหยุดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไว้ที่จุดเล็ง 1.5oC ภายในปี 2593 ให้สำเร็จได้ในที่สุด ..

…………………………………….

คอลัมน์ : Energy Key

By โลกสีฟ้า ..

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-

Marine Carbon Dioxide Removal | Ocean Visions :-

https://oceanvisions.org/ocean-based-carbon-dioxide-removal

Review on CO2 Removal from Ocean with an Emphasis on Direct Ocean Capture: DOC Technologies | ScienceDirect :-

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S1383586624023372

Chula Joins Global Initiative for Ocean Negative Carbon | Chula :-

https://www.chula.ac.th/en/news/197142

Carbon Sequestration in Artificial Reefs: Thailand’s | Bangkok Post :-

https://www.bangkokpost.com/thailand/pr/2645845/carbon-sequestration-in-artificial-reefs-thailands-environmental-initiative

Thailand Makes an Effort to Protect Marine Environment | UN :-

https://sdgs.un.org/partnerships/thailand-makes-effort-protect-marine-environment-marine-debris-and-land-based

The Ocean Carbon Removal Market | Maximize Market Research :-

Ocean Carbon Removal Market Size, Share, Trends And Forecast Analysis (2025-2032)

Energy Transition : A Significant Structural Change in an Energy System :-

https://photos.app.goo.gl/Qnj3eGJobkzRHx7a9

Carbon Balance in Corals : Coral Bleaching & How We Can Stop It :-

https://photos.app.goo.gl/vFwgUom1VERNFqmR7

The Ocean : A Driving Force for Weather & Climate :-

https://photos.app.goo.gl/hgm6iigbiRKS6c6t7

Blue Carbon : Plants & Trees in Coastal Ecosystems Absorb Carbon Dioxide through Photosynthesis :-

https://photos.app.goo.gl/NaLGY61t5CEnocBC8
- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisement -spot_imgspot_img

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img