“แผนลับ”โค่น นรม.แตก ผู้เกี่ยวข้องโทษหนักเป็นกฏ

การเมืองร้อนแรง เตรียมนับถอยหลังเลือกตั้งใหม่ หรือรอรอบหน้าเมื่อครบวาระ ด้านทหารเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมฉับพลัน

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https: //thekey.news  ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่  11 ก.ย.64 ข่าวที่สร้างกระแสร้อนแรงทางการเมืองเห็นจะเป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งปลดฟ้าผ่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ออกจากตำแหน่ง และมีโปรดเกล้าฯประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาทันที 

@@@…….อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านถล่มรัฐบาลและกองทัพอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ IO ที่กลุ่มฝ่ายค้านบางคนพูดถึงด้วยความไม่รู้เรื่องนั้น มันคือ การโฆษณาชวนเชื่อ การสร้างข่าวปลอม การบิดเบือนข่าวสาร ซึ่งไม่ใช่การปฏิบัติการข่าวสารของทหารแต่อย่างไร ในตำราพิชัยสงครามของซุนวู่ เขียนไว้  “ผู้มีมนุษยธรรมมาก มีความยุติธรรมมากใช้งานสายลับไม่ได้ ผู้ไม่ละเอียด ไม่มีไหวพริบ ย่อมเอาความจริงจากสายลับไม่ได้ ..ในกรณีแผนลับแตกผู้เกี่ยวข้องทุกคนย่อมต้องโทษประหารสิ้น” การรู้เท่าทันของผู้นำต่อ “คนทุรยศสองหน้า” ส่งผลให้มีการลดทอนอำนาจหน้าที่ให้ ลูก้า บราแป้ง พ้นตำแหน่ง .. มีแต่ผู้คนแซ่ซ้องสรรเสริญ .. ก่อนหน้านี้หยิบคนอย่างนี้มาเป็นรัฐมนตรี มีแต่เสียงด่าถ้วนหน้า ความนิยมถดถอย .. หอกข้างแคร่ย่อมเป็นอันตรายได้ตลอดเวลาอยู่ดี .. อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง และเหล่าทัพ ยังคงสนับสนุนการตัดสินตกลงใจ และการบริหารงานภาครัฐของรัฐบาลปัจจุบันอยู่ต่อไป เพื่อให้ประเทศคงเดินหน้าต่อไปได้ และความมั่นคงได้รับการประกัน

@@@……เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านมติสภา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 เป็นที่เรียบร้อย ที่ผ่านมากลุ่มเห็นต่างจะใช้เป็นเงื่อนไขในการสร้างกระแสการชุมนุม แต่เมื่อมติผ่านสภากลุ่มเห็นต่างคงต้องหาข้ออ้างในการขับไล่รัฐบาล และ นายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง มองว่า เงื่อนไขในการขับไล่นายกรัฐมนตรี และการทํากิจกรรมของกลุ่มเห็นต่าง ยังไม่สามารถปลุกกระแสให้มวลชนเข้าร่วมชุมนุมได้เท่าที่ควร ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเวลาต่อไปกลุ่มเห็นต่าง น่าจะมีการปรับยุทธวิธีใหม่ในการจุดกระแส โดยประเมินจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมในช่วงที่ผ่านมา หรืออาจนัดชุมนุมบริเวณสถานที่สําคัญเชิงสัญลักษณ์ เช่น ทําเนียบรัฐบาล หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 

@@@……สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุแก๊ส มีความพยายามปลุกเร้าให้มวลชนทำการยั่วยุเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ให้บังคับใช้กฎหมายควบคุมฝูงชน เพื่อสร้างภาพเหตุการณ์ความรุนแรง ทั้งยังมีการข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนมิให้นำเสนอข่าวด้านลบของฝ่ายตน และยังสังเกตได้ว่า กลุ่มทะลุแก๊ส มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนเสื้อแดงหัวรุนแรงบางกลุ่ม จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการนำมวลชนจัดตั้งร่วมชุมนุมก่อเหตุรุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างที่ผ่านมา มวลชนเริ่มถดถอยลง รวมทั้งพฤติกรรมการจัดกิจกรรมชุมนุมที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับสังคม ทำให้กลุ่มเห็นต่างขาดความชอบธรรม ประกอบกับมีกระแสเรียกร้องทางสังคมให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุมและผู้อยู่เบื้องหลังอย่างเด็ดขาด หากเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเชื่อว่าจะสามารถลดจำนวนมวลชน โดยเฉพาะกลุ่มทะลุแก๊สลงได้ และถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนใหญ่ควบคู่ไปด้วย 

@@@……วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในการแถลงแนวทางการพัฒนาประเทศ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในหัวข้อ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และข้อมูล เพื่อขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล โดยให้ความสำคัญใน 2 มิติ ได้แก่ มิติความมั่นคง มุ่งเน้นด้านการบริหารจัดการความมั่นคง และด้านประเด็นความมั่นคงเพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และมิติการพัฒนาประเทศ มุ่งเน้นการปรับตัวให้มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนประเทศในด้านต่าง ๆ 

@@@……การแถลงแนวทางการพัฒนาประเทศเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของ นัก ศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 63 วิทยาลัยเสนาธิการทหารวิทยาลัยการทัพของทั้งสามเหล่าทัพ  ประจำปีการศึกษา 2564 ถือเป็นการเสนอแนะความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์แก่รัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ อันจะส่งผลต่อการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และข้อมูล เพื่อขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป โดยมีปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรต่าง ๆ ส่วนราชการและภาคเอกชน เข้าร่วมรับฟังผ่านทางระบบออนไลน์

@@@……พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการทรัพยา กรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 3/2564  ผ่านระบบ Video Conference โดย พล.อ.ประวิตร  ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงาน ที่รับผิดชอบ เร่งรัดโครงการ ควบคู่การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ และแจ้งเตือนเพื่อเตรียมพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งได้กำชับ สทนช.,กอนช.,จังหวัด และกองทัพ ให้เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม/น้ำหลาก และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่กำลังได้รับผลกระทบทั่วทุกภาคของประเทศ อยู่ในขณะนี้ พร้อมให้การสนับสนุนเครื่องมือ เครื่องจักร และยานพาหนะ เพื่อบรรเทาความเดือด ร้อนประชาชน อย่างเต็มที่ รวมทั้งให้เตรียมการเยียวยาช่วยเหลือ เมื่อน้ำลดแล้ว อย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันจะต้องดำเนินการ กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า ไว้ด้วยเช่นกัน

@@@……กองทัพบก โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยทหารดูแลประชาชนในสถานการณ์น้ำตลอดฤดูฝนนี้ เนื่องจากหากมีฝนตกมากผิดปกติ อาจทำให้ประชาชนเดือนร้อนหรือเกิดอุทกภัย การเข้าช่วยเหลือทันทีจึงมีความจำเป็นและเร่งด่วน โดยให้นำศักยภาพของหน่วยทหารทั้งในด้านกำลังพล เครื่องมือ เตรียมแผนการช่วยเหลือ เข้าสนับสนุนหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ในขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการบรรเทาสาธารณภัย คือ การป้องกันตนเองและป้องกันประชาชนไม่ให้มีการติดเชื้อโควิด-19 สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักในช่วงนี้ ขอรับความช่วยเหลือได้จากหน่วยทหารใกล้บ้านหรือติดต่อศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก โทร. 02-2977648, กองทัพภาคที่ 1 (กลาง) โทร. 02-2815443, กองทัพภาคที่ 2 (อีสาน) โทร. 04-4245946, กองทัพภาคที่ 3 (เหนือ) โทร. 055242859, และกองทัพภาคที่ 4 (ใต้) โทร. 07-5383405

@@@……กองทัพเรือ โดย พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผอ.ศรชล.ภาค2 / ผบ.ทรภ.2 ได้สั่งการให้ดำเนินการเก็บกู้อวนและซ่อมแซมแนวปะการังที่เสียหาย โดยรวบรวมนักดำน้ำอาสามัครรักษ์ทะเลไทย ประกอบด้วย ทีมพิทักษ์ทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช Laytrang Diving Lotus Diving Phangan Sea Guardian  ร่วมกับส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง พร้อมด้วยนักวิชา การจากสถาบันทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหา วิทยาลัยสงขลานครินทร์ กับศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยทัพเรือภาคที่ 2 จัดเรือหลวงราวีเป็นเรือฐานดำน้ำ และจัดทีมดำน้ำ ทรภ.2 จำนวน 12 นาย เข้าร่วมการเก็บกู้ในครั้งนี้ด้วย   

@@@……กองทัพอากาศ โดย พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มีนโยบายให้กองทัพอากาศ ต้องมีความพร้อมในทุกมิติ ทั้ง กำลังพล อากาศยาน เทคโนโลยี และทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อร่วมแก้ปัญหาวิกฤตและช่วยเหลือประชาชน ตามขีดความสามารถของกองทัพอากาศที่มีอยู่ อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยนำขีดความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่ มาบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเต็มที่ ดังนั้น เพื่อเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกัน กองทัพอากาศ จึงได้จัดโครงการ “ทัพฟ้าส่งเวชภัณฑ์ทั่วไทย ร่วมใจฝ่าวิกฤตโควิด-19” สนับสนุนอากาศยานนำส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้โรงพยา บาลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ร่วมกับ มูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย และโครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วย กัน” ร่วมปฏิบัติภารกิจ “เติมน้ำใจต่อ…ลมหายใจ” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด-19 

 ………………………

 คอลัมน์ “Military Key”

โดย “รหัสมอร์ส”