ม็อบเด็กเปลี่ยนชื่อไปเป็น “ราษฎร 2563” หวังจะขยายแนวร่วมเพื่อยกระดับ แต่ดูคล้ายจะไม่ได้ผล จึงปรับกลยุทธ์ด้วยการจัดกิจกรรมสร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ล่าสุดตั้งตู้ไปรษณีย์ที่หน้าวัดพระแก้ว หวังจะให้เกิดการปะทะ แต่รัฐบาลยังตั้งรับโดยใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวเหมือนเดิม
สภาพการณ์เช่นนี้จะทำให้เส้นทางของ “ราษฎร 2563” แคบและตีบตันลงเรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลดังนี้
1.ยกระดับการต่อสู้ไม่สำเร็จ ไม่สามารถขยายแนวร่วมจากม็อบเด็กให้ไปสู่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะประชาชนที่ยังมีแนวคิดอนุรักษ์อ่อน ๆ เมื่อไม่มีแนวร่วมเข้ามาเติมพลัง ก็จะทำให้ม็อบเด็กอ่อนแรงไปเรื่อย ๆ ไม่สามารถชี้ขาดเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตามเป้าหมาย
2.รัฐบาลจัดเต็มทุกคดีให้กับแกนนำม็อบเด็ก โดยเว้นการดำเนินคดีมาตรา 112 เพราะไม่ต้องการให้ไปเกี่ยวพันกับสถาบันฯ และเปิดช่องทางไม่ให้แกนนำเอาไปอ้างเป็นคดีทางการเมืองเพื่อขอลี้ภัยในต่างประเทศ ฉะนั้นยิ่งลากยาวก็ยิ่งทำให้แกนนำเหน็ดเหนื่อย คิดแค่ง่าย ๆ แค่หาค่าประกันตัวก็เหนื่อยแล้ว มิหนำซ้ำอาจจะช่วยโยงให้เห็นตัวจริงของผู้ที่แอบอยู่หลังม่านอีกต่างหาก
3.ชวน หลีกภัย ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ดึงทุกฝ่ายเข้าร่วม หวังแก้ปัญหาด้วยความสันติด้วยระบบรัฐสภา แต่ “ราษฎร 2563” มองว่าเป็นการลดทอนความชอบธรรมให้กับการเมืองข้างถนน จึงปฏิเสธการเข้าร่วม ภาพฉายที่ปรากฏให้เห็นก็คือ “ราษฎร 2563” ไม่คิดแก้ปัญหาด้วยระบบรัฐสภา แต่เลือกวิธีการจัดม็อบป่วนเมืองไปเรื่อย ๆ หากสถานการณ์ย่ำแย่งและส่งผลต่อเศรษฐกิจเหมือนกับฮ่องกง ท้ายสุดประชาชนจะเกิดความเบื่อหน่าย
4.ความเบื่อหน่ายของประชาชนจะทำให้ม็อบแพ้ทางการเมืองและเปิดทางให้ฝ่ายอนุรักษ์เรียกร้องให้รัฐบาลจัดการม็อบด้วยความเด็ดขาด หรือฝ่ายอนุรักษ์อาจจะเข้าเผชิญหน้าจนเกิดการปะทะและบาดเจ็บล้มตาย หรือรัฐบาลอาจชิงจังหวะเข้าล้อมปราบ เหมือนกับเหตุการณ์สลายม็อบเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ 2553 เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจเนื่องจากการประท้วงสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ
5.“ราษฎร 2563” ผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะการตั้งข้อเรียกร้อง 3 ประการ คือ 1.ให้ “บิ๊กตู่” ลาออก 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.ปฏิรูปสถาบัน มีคำถามอยู่ว่า หาก “บิ๊กตู่” ตัดสินใจลาออกแล้ว “ราษฎร 2563” จะยุติการชุมนุมหรือไม่
คำตอบมีด้วยกัน 3 แนวทางคือ 1.ส.ส.และ ส.ว.จะโหวตเอา “บิ๊กตู่” กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก ก็จะวุ่นเหมือนเดิม 2.เลือกเอาคนอื่นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแต่เป็นขั้วการเมืองเดิม ก็ไม่ยุติเช่นกัน 3.โหวตเอานักการเมืองขั้วเดียวกับม็อบมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด เพราะม็อบจะยกระดับขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปสถาบัน
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ “บิ๊กตู่” จึงต้องถูกดันหลังให้ยืนสู้ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะปล่อยให้แตกตั้งแต่ด่านแรก ก็จะทะลุไปถึงสถาบันนั่นเอง
ความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ของ “ราษฎร 2563” เป็นสาเหตุสำคัญของความล้มเหลวนั่นเอง.
…………………………
#ดินสอโดม
