การชุมนุมของกลุ่มราษฎรแม้จำนวนจะลดน้อยลง แต่สิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงกังวลก็คือผลข้างเคียงให้เกิดความขัดแย้งทางสังคมที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงกว่านี้บนถนน เตือนพวกอกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด ระวังเวรกรรมจะตามทัน
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ เดอะคีย์นิวส์ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 14 พ.ย. 63 เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับรัฐบาล เมื่อฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า จำนวนผู้ชุมนุมเริ่มลดน้อยลง นักเรียน นักศึกษาเริ่มที่จะเข้าใจและเห็นความจริงมากขึ้น และรัฐบาลได้เริ่มชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ไม่หลงเชื่อแต่อาตี๋นักการเมืองแม่รวยที่จ้างเด็กป้อนข้อมูลทางโซเชียล และเวลานี้ไปที้ไหนก็ถูกคนไทยที่รักสถาบันโห่ขับไล่จนอาตี๋เริ่มระเหี่ยใจ .. นายทุนใหญ่ ที่คุ้นเคยกับการกดขี่ชนชั้นกรรมาชีพ เชี่ยวชาญการทำนาบนหลังคน ออกมาไล่นายกรัฐมนตรี สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปสถาบัน โดยใช้รูปแบบการต่อสู้ชนชั้น ปลุกระดมผู้คนลงถนน ปากบอกไม่รุนแรง แต่พฤติกรรมเหมือนต้องการให้เกิดความรุนแรงในประเทศ สมคบคิดต่างชาติ ล้มล้างการปกครอง ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มล้างสถาบัน ….อกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด ระวังเวรกรรมจะตามทัน
@@@……การปลุกระดมทางการเมืองโดยใช้ความเคียดแค้นชิงชัง ใช้วาจาหยาบคายก้าวร้าวรุนแรง ส่งผลข้างเคียงให้เกิดความขัดแย้งทางสังคมที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงกว่านี้บนถนน เนื่องเพราะมีผู้คนอีกมากมายมิได้เห็นคล้อยไปตามข้อเรียกร้องที่ขาดสาระสำคัญที่อธิบายได้ ดังนี้ ประเด็นที่หนึ่ง รัฐบาลปัจุบันมิใช่รัฐบาลเผด็จการ รัฐบาลปัจจุบันมีผลงานการบริหารประเทศที่ยอดเยี่ยมในหลาย ๆ เรื่อง แม้จะไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ทั้งหมด แต่ภาพรวมก็ทำได้ดี การบริหานงานในระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องเพราะต้องการการสนับสนุนจากมติมหาชน
@@@……ความขัดแย้งทางการเมือง และทางสังคม เป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศ รวมทั้งไม่อาจชี้ชัดได้ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ เพราะนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกสรรของผู้แทนราษฎรในรัฐสภาฯ อันถือเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ในระบอบประชาธิปไตยนั้น หากไม่พอใจ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ระบบเปิดให้โอกาสเลือกคน และพรรคการเมืองที่ชอบให้เข้ามา บริหารประเทศ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งก็อีกไม่นานเกินรอ การขับไล่นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ด้วยม็อบบนถนน มิใช่วิถีทางของประชาธิปไตย
@@@……ประเด็นที่สอง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มิใช่รัฐธรรมนูญเผด็จการ แต่มีเนื้อหาสาระที่ถือเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดฉบับหนึ่งของประเทศ ยกร่างโดยกลุ่มคนที่มีความรู้ของชาติที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่มีใครจะไปสั่งได้ และได้แก้ไขข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมาในหลายประเด็น โดยเอาพลเมืองเป็นศูนย์กลาง และกำหนดบทบาทหน้าที่ สิทธิพลเมืองไว้ชัดเจนที่สุด และประเด็นที่สาม ได้แก่การที่บทบาท และสถานะของสถาบัน ถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญ อยู่นอกเหนือการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายนิติบัญญัติ จะมาปฏิรูปเปลี่ยนแปลงอะไรตามอำเภอใจ เป็นเรื่องภายในสถาบันที่ไม่ควรจาบจ้วงก้าวล่วง ฝ่ายความมั่นคงยังคงมุ่งมั่นที่จะปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต่อไป รวมทั้งยังคงเชื่อมั่นในความรักความสามัคคีของประชาชนคนในชาติ จะทำให้ไม่เกิดเหตุความรุนแรงมากไปกว่านี้ ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องต่อไป เชื่อข้อเรียกร้องของม็อบบนถนน ไม่มีทางสำเร็จ วิถีประชาธิปไตย ต้องอดทน รอเลือกตั้งครั้งต่อไป พาประเทศสู่ความสงบ
@@@……การวางตัวของกองทัพที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรงนั้น จึงเห็นว่าช่วงที่ม็อบลุยฝ่าด่านและทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทหารบางคนถูกก้อนหินขว้างปาใส่หน้าจนหน้าผากแตก ประชาชนหลายคนตำหนิผู้บังคับบัญชาว่า ไม่รักลูกน้อง ให้ทหารมือเปล่าไปปะทะกับม็อบ ก็ถูกม็อบทำร้ายได้นั้น เรื่องของการให้อาวุธหรืออุปกรณ์ป้องกันตัวกับทหาร ก็จะทำให้ภาพที่ออกมาดูว่าทหารมีอาวุธ และใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งที่ผ่านมาทหารก็ไม่มีอาวุธหรืออุปกรณ์ในการป้องกันตัว มีเพียงมือเปล่าเท่านั้น เพราะทหารต้องการที่จะให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นในประเทศ ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงอย่างที่ม็อบบางกลุ่มต้องการ
@@@…….ช่วงนี้งานเข้ากองทัพบก ตั้งแต่การเสียชีวิตของพลทหารในค่ายทหาร หรือเรื่องของอาหารในค่ายที่แทบจะกินไม่ได้เพราะไม่มีอะไรให้กินนั้น ทาง “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้กำชับหน่วยตรวจสอบข่าวที่เกิดขึ้น และดูว่าการวิพากษ์วิจารณ์มีการบิดเบือนเกินขอบเขตหรือไม่ หากบิดเบือนก็ต้องชี้แจง แต่ถ้าทำถูกต้องก็ต้องยืนยันในสิ่งที่ทำไปแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย กองทัพไม่ปกป้องคนกระทำความผิด กองทัพว่าไปตามกฎระเบียบ ใครที่ทำผิดก็รับผลของการกระทำนั้น และ มั่นใจว่าทหารยังคงเป็นองค์กรที่ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา เพราะเนื้องานของกองทัพดูแลช่วยเหลือประชาชน รวมถึงการวางตนเองดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองในช่วงที่มีปัญหาด้านการเมืองขณะนี้ก
@@@……เรื่องของการยกเลิกการเกณฑ์ทหารถูกกระตุ้นจากหลานชายอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งพรรคแม่พระธรณีบีบมวยผม เรื่องของการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หลานชายอดีตนายกรัฐมนตรี น่าจะกลับไปถามอาเพราะเคยเป็นถึง รมว.กลาโหม ย่อมจะรู้ดีว่า หากไม่ใช้ระบบการเกณฑ์ทหาร กระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ เพื่อจะรักษาขีดความสามารถของกำลังรบหลักไว้ อาจต้องคงทหารประจำการมากกว่าที่มีอยู่อีกหลายเท่า และอาจต้องบำรุงเลี้ยงไปจนแก่เฒ่า ซึ่งหมายถึง งบประมาณป้องกันประเทศ จะเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
@@@……กรณีเผชิญสถานการณ์วิกฤติ กองทัพสามารถระดมกำลังคนที่พร้อมได้มากกว่าที่ประจำการอยู่ได้อีก 3 เท่า ใน 1 เดือน และการเรียกเกณฑ์ มีคนสมัครใจมากกว่า 60% มันถือเป็นการรับใช้ชาติที่ตัวเองได้ประโยชน์จากการฝึก และการเรียนรู้ทักษะชีวิต ที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ต้องปลูกฝังลูกหลาน และการเกณฑ์ทหารยังคงเป็นระบบสากลของโลก ระบบของไทยก็เกือบจะเข้าสู่ระบบสมัครอยู่แล้ว การรับจำนวนคนฝึก รด. ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะให้งบประมาณมาเท่าไร การใช้กำลังพลทหารเพื่อปฏิบัติงานแก้ไขสถานการณ์วิกฤติ มีต้นทุนน้อยที่สุด และน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำเป็นอย่างมาก
@@@…….วันก่อน “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ได้ตรวจเยี่ยมทหารใหม่ ผลัดที่ 2/2563 สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ณ ลานอเนกประสงค์ กองพันทหารสื่อสาร กองบัญชาการกองทัพไทย กรมการสื่อสารทหาร เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวกับทหารใหม่ ว่าการที่ทุกคนได้รับการคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการนั้นถือว่าเป็นโอกาสดี ที่จะได้พัฒนาสมรรถภาพด้านร่างกายและจิตใจ ควบคู่กับการเสริมสร้างทักษะด้านการทหาร ซึ่งจะส่งผลให้เป็นพลเมืองที่มีวินัย เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม และเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า
@@@…….“ทหารมีไว้ทำไม” อยากรู้ต้องไปงาน “สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2584” ที่ทางกองทัพอากาศ ร่วมกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระทรวงการท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดงาน “สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2584” ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-12 ธ.ค.2563 ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5 โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อสดุดีวีรกรรมของเหล่าวีรชนทหารอากาศ ที่เสียสละชีวิตปกป้องเอกราชอธิป ไตยจากผู้รุกรานด้วยความกล้าหาญในคราวสงครามมหาเอเซียบูรพา เมื่อ 8 ธันวาคม 2484 ซึ่งสมควรได้รับการยกย่องสรรเสริญและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง
@@@……เรื่องของโควิด-19 ยังเป็นเรื่องสำคัญที่คนไทยต้องเฝ้าระวังการ์ดอย่าตก ตามที่ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงถึงกรณีทหารเกาหลีใต้ที่เข้าร่วมการประชุมวางแผนเตรียมการฝึกคอบร้าโกลด์ 21 จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 2-6 พ.ย.2563 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ระหว่างการเดินทางกลับประเทศเกาหลีใต้นั้น พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก แจ้งว่า กองทัพบกได้จัดกำลังพลร่วมการประชุมคราวเดียวกันนี้ จำนวน 19 นาย ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก ได้แจ้งให้ทุกนายเข้าสู่ขั้นตอนตามมาตรการควบคุมโรคของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แล้ว โดยทั้ง 19 นาย ได้เข้าสู่กระบวนการตรวจหาเชื้อในครั้งแรกเรียบร้อย ขณะนี้ได้เข้าสู่การกักตัวสังเกตอาการ ณ บ้านพัก ระยะเวลา 14 วัน ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
—————————————
คอลัมน์ “Military Key”
โดย “รหัสมอร์ส”