“ม็อบไทยภักดี” ปะทะ “ม็อบราษฎร” เสียงปืนนัดแรกดังกึกก้องขึ้นบริเวณหน้ารัฐสภา ระหว่างที่ประชุมร่วมรัฐสภากำลังพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีผู้บาดเจ็บนับสิบราย ผมก็ขอแสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บ และขอสาบแซงผู้มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรง
ในที่สุดก็เป็นไปตามคาด ที่ประชุมร่วมรัฐสภารับหลักการฉบับพรรคร่วมรัฐบาล ที่เสนอตั้งส.ส.ร. 200 คน แบ่งเป็นมาจากการเลือกตั้ง 150 คนและแต่งตั้ง 50 คน ใช้เวลา 240 วัน และฉบับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เสนอตั้งส.ส.ร. 200 คน มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ใช้เวลา 120 วัน แต่ “ฉบับไอลอว์” ถูกตีตกแม่น้ำเจ้าพระยาไป
เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญ โดยใช้ฉบับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นร่างหลัก 45 อรหันต์ประชุมนัดแรกวันที่ 24 พ.ย.63 ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองร้อนระอุทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นดินไทย ทั้งกรณีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น
เมื่อ “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ผู้ถูกตีตราว่าล้มสถาบัน นำทัพลงพื้นที่ช่วย 41 จังหวัดช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปรากฏว่าถูกกลุ่มที่อ้างว่ารักสถาบันตามราวี มีโอกาสเกิดความรุนแรงได้ตลอดเวลา รวมถึงกรณีกลุ่มราษฎรเล่นเกมแรงปั่นหัวรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง ประกาศบิ๊กเซอร์ไพรส์ปักหลักชุมนุมใหญ่ 7 วันติด เริ่ม 25 พ.ย.ในพื้นที่เสียดใจฝ่ายอนุรักษ์นิยม
จบเฟสแรกวันที่ 2 ธ.ค.63 พอดี ได้ฤกษ์ศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นัดอ่านคำวินิจฉัยคดีพักอาศัยบ้านหลวง แม้เจ้าตัวยืนยันปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้าผิดคือผิด ถูกคือถูก พร้อมยอมรับกลไกทางกฎหมาย
บนกระแสข่าว “บิ๊กตู่” เตรียมลงจากหลังเสือมาตั้งแต่เดือนต.ค.63 ในที่สุดถึงกับปรารภกับคนใกล้ชิดอยากลาออกวันละสามเวลาหลังอาหาร แม้นายกฯย้อนถามนักข่าวว่า “ใคร…ผมปรารภเมื่อไหร่” มันบ่งบอกว่าไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับในเรื่องนี้
ปมนี้รัฐมนตรีบางคนที่มีบทบาทสำคัญในพรรคพลังประชารัฐเคยเปรยให้ทีมส.ส.มั่นใจว่า นายกฯลาออกไม่ได้ โดยให้เหตุผลหลายข้อ ข้อสุดท้ายเป็นมิติด้านความมั่นคงของชาติ เพื่อตอกย้ำให้ส.ส.ในค่ายอุ่นใจ
หากฟังคำตอบจากปากของนายกฯเมื่อถูกถามเรื่องนี้ว่าเคยปรารภอยากลาออก แต่ออกไม่ได้ “ทำไมมารู้ใจฉันได้อย่างไร วันนี้ไม่ต้องมาอ่านใจฉันหรอก ก็ยังทำงานอยู่นี้ไง ไม่มีคำว่าท้อแท้….ต้องทำจนกว่าจะไม่ได้ทำก็เท่านั้นเอง”
ถ้อยคำเหล่านี้บ่งบอกว่าไม่ได้ปฏิเสธเรื่องต้องการลาออก และการตัดสินใจลงจากหลังเสือถูกขีดเส้นเอาไว้ “ตัดสินใจคนเดียว”
เมื่อม็อบ 2 ขั้วร้อนแรงเกินพิกัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กลไกรัฐสภากำลังค่อยๆ รื้อแก้รัฐธรรมนูญ
กองทัพนิ่งสงบ การรัฐประหารเท่ากับเป็นศูนย์ ศาลรัฐธรรมนูญกำลังชี้ขาดคดีพักอาศัยบ้านหลวง
ประเด็นเหล่านี้เพิ่มดีกรีการเมืองเดือนธ.ค.ให้ร้อนฉ่าแน่นอน รับรองห้ามกระพริบตา
cr /FB เยาวชนปลดแอก
ลุ้นเปลี่ยนแปลงเล็ก แค่นายกรัฐมนตรีและครม.กลับไปเลี้ยงหลาน เหลน หรือรอลุ้นเปลี่ยนแปลงใหญ่ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ เปลี่ยนแปลงอย่างไร ขอให้เปลี่ยนผ่านโดยกองทัพอยู่ในกรมกอง
ไม่เช่นนั้นการเมืองไทยจะถอยหลังลงคลอง ไม่พัฒนาเป็นประชาธิปไตยเต็มใบเสียที
………………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย “ราษฎรเต็มขั้น”