สถานการณ์การเมืองยังคงร้อนแรง ไม่รู้ม็อบจะจบลงอย่างไร แต่ “บิ๊กบี้” ลั่นจะแชร์อะไรคิดวิเคราะห์ให้ดี หากสงสัยให้ถาม อย่าคิดเอง เออเอง
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ TheKeyNews ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 28 พ.ย. 63 สถานการณ์การเมืองยังร้อนแรง ไม่รู้ว่าม็อบจะจบลงอย่าง ไร แต่ที่น่าดีใจก็คือ เรื่องของสถานการณ์โควิดของประเทศสามารถแก้ไขได้ในระดับดีมาก ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีประกาศผลรางวัลพระราชทาน SMEs Excellence Awards 2020 และรางวัลพระราชทาน Thailand Corpo rate Excellence Awards 2020
@@@……อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย…….พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวยอมรับว่า ประเทศไทยมีปัญหาสะสมหมักหมมมายาวนาน ต้องยอมรับอีกส่วนหนึ่งว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที แต่ขณะนี้ก็มีแนวทางว่าควรแก้ไขอะไรก่อนหรือหลัง จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าผม ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตราบใดที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐ มนตรี ปัญหามีไว้ให้แก้ไข ส่วนอุปสรรคมีไว้ให้เดินผ่าน ผมคิดแค่นี้ไม่เคยคิดถึงอย่างอื่น ซึ่งทุกคนคงเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างที่ทุกคนเห็น เราทุกคนจะต้องช่วยกัน หลายอย่างเป็นความท้าทายของประเทศ ไทย ว่าจะเดินหน้าประเทศได้อย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้ ผมขอฝากกับทุกคนเอาไว้
@@@……กลัวรัฐประหารจึงมโน…….พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียแชร์ภาพเฮลิคอปเตอร์บินใน กทม. พร้อมกับเชื่อมโยงกับการทำรัฐประหารว่า ตามที่ผมเคยพูดว่าเราชอบนั่งคิด นอนคิด จินตนาการไปต่างๆ นานา เชื่อข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ เราต้องเข้าใจว่าเฮลิคอปเตอร์ที่จะบินใจกลาง กทม.ได้ส่วนหนึ่งเป็นของขบวนเสด็จฯ ซึ่งกองทัพบกได้ทำหน้าที่สนองถวายงานอยู่แล้ว
เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกที่มีการร้องขอจากสำนักพระราชวังผ่านกรมยุทธ การทหารบก เพียงแต่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องภายในของหน่วยงานราชการที่อยู่ดีๆ จะไปออกข่าวคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นต้องวิเคราะห์และพิจารณาว่าอยู่ดีๆเฮลิคอปเตอร์จะมาบินแบบนี้ได้มีสาเหตุมาจากอะไร ไม่ใช่ไปตีเรื่องโน้นเรื่องนี้ หรือตีความไปต่างๆ นานาแล้วแชร์กันออกไป โดยที่ไม่ได้คิดวิเคราะห์ และไม่ได้มีการสอบถามจากหน่วยงานราชการ ซึ่งขอให้มาสอบถามก่อนที่จะลงข่าว เช่น ถามกองทัพบกว่าเรื่องนี้คืออะไรทางกรมยุทธการทหารบกจะได้ตอบคำถาม
@@@……งานเข้า ทบ……มีการเผยแพร่เอกสารว่า ทหารจ้างบริษัทเอกชนทำไอโอผ่านทวิตเตอร์จำนวนนับหมื่นบัญชี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.บอกกับน้อง ๆ นักข่าวว่า “ไม่มี” เดี๋ยวให้หน่วยเกี่ยวข้องรายงานขึ้นมาว่าอะไรจริง อะไรถูก และอย่างที่ผมเคยบอกไปในเรื่องเฟคนิวส์มาแล้ว อย่างไรก็ตามจะให้ทีมโฆษกกองทัพบกชี้แจงต่อไป
…..เวลานี้สังคมคงสับสนกันไปแล้ว IO คือ Information Operation … ไม่ใช่ Fake News คนละเรื่อง ว่าไปแล้วการจ้างเอกชนก็ทำได้ หากพัฒนากองทัพบก ต้องใช้งบมากกว่านี้ ระดมความร่วมมือเอกชนมากกว่านี้ เรียนรู้มากกว่านี้ และทั้งหมดดำเนินการเพื่อประโยชน์ของชาติ และความมั่นคง บนจรรยาบรรณทหารอาชีพ ไม่เหมือนทำ Fake ของการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล มองแบบเดียว กันไม่ได้
@@@……การหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องการเมืองโดยใช้ Fake News เป็นอาวุธ ใช้ความเคียดแค้นชิงชัง ใช้แนว ทางจงใจละเมิดกฏหมาย ไม่ใช่วิถีทางที่ถูกต้อง การติดตามแก้ข่าวให้ความจริงปรากฏ หลังจากความเชื่อข้อ มูลบิดเบือนได้เกิดขึ้นแล้ว ยากแสนเข็นและใช้เวลานาน นอกจากนี้ยังถือว่าผิดกฏหมาย การประพฤติตนอย่างมีระเบียบแบบแผน มีวินัย สุภาพอ่อนโยน เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาต่างๆ อย่างสมเหตุสมผล ด้วยความสงบเรียบร้อย แสวงความร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เสียสละเพื่อส่วนรวม
น่าจะเป็นวิถีทางที่เหมาะสมในสังคมไทย มากกว่าการปลุกระดมม็อบเรียกร้องทางการเมืองที่ไม่รู้ว่าใครได้ประโยชน์…..ฝ่ายความมั่นคง ยังคงกังวล จับปล่อย จับปล่อย ไปเรื่อยๆ ถึงเมื่อไรบ้านเมืองจึงจะพบความสงบเสียที ขณะที่การฝ่าฝืนละเมิด พรบ.ชุมนุมสาธารณะฯ กลายเป็นเรื่องตลกสนุกสนานไปแล้ว
@@@……เมืองหลวงที่สวยงาม……..หลังการชุมนุมที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำสีมาสาดเทและเขียนข้อความตรงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เล็งเห็นถึงความยากลำบากของการลบข้อความดังกล่าว เนื่องจากข้อความถูกพ่นด้วยสารเคมีลงบนพื้นยางมะตอยและกำแพง จึงมอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก (วศ.ทบ.) ไปจัดเตรียมหรือหาวิธีการที่จะทำให้ลบข้อความที่ไม่เหมาะสมออกอย่างรวดเร็ว และสามารถสนับสนุนการทำความสะอาดในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดภาระของของส่วนต่างๆ
ทั้งนี้ เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ได้จัดชุดปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ออกไปดำเนินการภารกิจดังกล่าว และยังช่วยลบข้อความที่ไม่เหมาะสม ซึ่งถูกพ่นอยู่ตามกำแพงและพื้นถนนบริเวณอุโมงค์สะพานข้ามแยกรัชโยธิน รวมถึงข้อความ Hate speech ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สวยสดงดงาม บรรยากาศน่าท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เพื่อประชาชนได้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ และไม่พบข้อความที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ
@@@……เหล่าทัพช่วยเหลือประชาชน…..กองทัพไทย โดย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย จึงได้นำกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ กองบัญชาการกองทัพไทย
โดยสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ดำเนินการขุดเจาะบ่อน้ำตื้นกับประชาชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่บริเวณ ม.8 บ.แม่ขนาด ต.ทากาศ อ.แม่ทาจ.ลำพูน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 80 ซึ่งจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย
@@@……หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 43 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจัดเจ้าหน้าที่ชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากเหตุการณ์อุทกภัย กรณีน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาน้ำค้าง เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ หมู่บ้านน้ำลัดฯ จังหวัดสงขลา โดยได้จัดกำลังร่วมกับ อบต.สำนักแต้ว และเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน ณ บ้านน้ำลัด ม.2 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา
@@@…….กองทัพบก โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 42 จัดกำลังเข้าช่วยเหลือพี่น้องประ ชาชนร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ในการเฝ้าระวัง ติดตามและประกาศแจ้งเตือนเสียงตามสาย เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้นและไหลบ่าเข้าท่วมถนนสะพาน พร้อมกันนี้ ยังจัดกำลังพลช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมทั้งจัดรถครัวสนามพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและติดตามสถานการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเข้าสู่สถาน การณ์ปกติ
@@@……กองร้อยทหารพราน 4107 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานเฉพาะกิจที่ 41 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนที่ 3 ช่วยสร้างที่พักอาศัยให้กับประชาชนผู้มีฐานะยากจน แต่มีจิตสาธารณะชอบช่วยส่วนรวม เพื่อให้การช่วยเหลือ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ตามโครงการ “หน่วยเฉพาะกิจยะลาไม่ทิ้งท่าน” ณ บ้านเลขที่ 88/1 ม.2 บ.บือมัง ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 โดยกองร้อยเฉพาะกิจถวายความปลอดภัยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดชุดหมอเดินเท้าเข้าพบปะประชาชน พร้อมทั้งแจกจ่ายข้าวกล่อง และมอบเสื้อกันหนาวประชาชนผู้ยากไร้ได้สวมใส่เพื่อคลายความหนาวในช่วงฤดูหนาว ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลพัฒนาที่ 2 จัดกำลังพลช่วยชาวบ้านเกี่ยวข้าวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พื้นที่-บ.ตะบอง ม.2 ต.รังกาใหญ่อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
@@@…….กองทัพเรือ จัดโครงการ “กองทัพเรือรวมใจ สู้ภัยหนาว ร่วมต่อต้านยาเสพติด” ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2564 ในพื้นที่ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกการมีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ปัญหายาเสพติด และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ประสบภัยหนาว รวมทั้งให้ความรู้การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และมอบอุปกรณ์กีฬา ในพื้นที่ต.แม่เงิน อ.เชียงแสนจ.เชียงราย โดยได้มอบผ้าห่มกันหนาวและอุปกรณ์กีฬา และให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติด รวมทั้งการให้บริการทางการแพทย์ อีกด้วย
@@@…….ทั้งนี้ กองทัพไทย มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนในทุกรูปแบบ โดยได้จัดชุดกำลังพลเคลื่อนที่เร็วเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่โดยไม่ต้องรอการร้องขอ เพราะกองทัพตระหนักเสมอว่า ทหารพร้อมเป็นที่พึ่งและจะเคียงข้างพี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์ โดยหากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทย และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเหล่าทัพ ในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
@@@……เยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพล……พล.ร.อ. ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และคณะ ได้เดินทางไปยังทัพเรือภาคที่ 3 อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ในโอกาสตรวจเยี่ยมหน่วยของกองทัพเรือในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยมี พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ ผบ.ทร. ได้ให้โอวาทแก่กำลังพลความว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ถือเป็นหน่วยกำลังรบที่สำคัญของกองทัพเรือที่มีภารกิจสำคัญ ในการรักษาอธิปไตยทางทะเลโดยมีพื้นที่รับผิดชอบทางภาคใต้ฝั่งอันดามัน
อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ทั้งนี้ การปฏิบัติต่างๆโดยส่วนใหญ่จึงต้องมีรูปแบบการปฏิบัติงานที่ต้องมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆหลายภาคส่วนที่ต้องทำให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
@@@……ส่งมอบรถ…..พล.อ.ท. ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน – ทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ส่งมอบ “รถพยาบาลอเนกประ สงค์ช่วยเหลือภัยพิบัติ” ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศได้รับมอบจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) ให้แก่ พล.อ.ท. ธนวิตต สกุลแสงประภา เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ เพื่อนำไปใช้ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ทุรกันดาร และเพิ่มขีดความสามารถการปฏิบัติการทางการแพทย์ของกรมแพทย์ทหารอากาศ
@@@……สำหรับรถพยาบาลอเนกประสงค์ดังกล่าว มีขีดความสามารถที่สำคัญคือการเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ทุรกันดารที่มีความลาดชันและน้ำท่วมขัง ทำให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที อีกทั้งยังสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 หรือ C-130 เพื่อลดระยะเวลาในการเดินทางเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ภายในรถยังได้ติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับการรักษาเบื้องต้นและการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบติดต่อสื่อสารแบบไร้สาย ได้แก่ ชุดวิทยุรับ-ส่งแบบดิจิตอลเพื่อให้สามารถดำรงขีดความสามารถในการสื่อสารได้ อย่างต่อเนื่องแม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย
—————————————
คอลัมน์ “Military Key”
โดย “รหัสมอร์ส”