วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSเผยใช้ ‘ทฤษฎีสมคบคิด’ มุ่งให้ร้ายบุคคลอื่น
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เผยใช้ ‘ทฤษฎีสมคบคิด’ มุ่งให้ร้ายบุคคลอื่น

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติผ่านฉลุยชี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ผิด อยู่บ้านหลวงต่อได้ “ฝ่ายความมั่นคง” เผยมีการใช้ทฤษฎีสมคบคิดในการมุ่งหมายให้ร้ายบุคคลอื่น หรือบิดเบือนข้อมูลที่เกิดขึ้น

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ TheKeyNews  ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค. 63 ในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9:0 เป็นเอกฉันท์แล้วว่า “บิ๊กตู่” ไม่ผิด ไม่ต้องพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีสิทธิเข้าพักได้ตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรอง 2548 

@@@……คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เนื้อความรัฐธรรมนูญ เพียงชี้ให้เห็นว่ากรณีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ทางกองทัพบอกแล้วว่า เป็นระบบสวัสดิการที่มีระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ ครอบคลุม และอำนาจอนุมัติให้ใช้อาคารรับรองอยู่กับกองทัพบก ให้เฉพาะ 5 เสือ ทบ.เท่านั้น ซึ่งเป็นสิทธิตามระบบสวัสดิการ แต่ต้องเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูง และมีเฉพาะกองทัพบกซึ่งมีมานานแล้ว ส่วน กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ ไม่มี 

@@@……ทั้งนี้ เงินเดือน ค่าตอบแทนของทหารน้อย ระบบจึงทดแทนด้วยการจัดสวัสดิการ ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ จึงมีคนมาสมัครเข้าเป็นทหารจำนวนมาก แต่รับได้จำกัดเนื่องจากกรอบงบประมาณ แต่จะเป็นทหารได้ ต้องผ่านการฝึก และต้องเสียสละ กับรู้จักปกป้องผู้อ่อนแอด้อยโอกาสกว่า ให้เป็นนิสัย โดยยึดระเบียบวินัย จึงจะแต่งเครื่องแบบได้อย่างมีเกียรติ

@@@……ปัจจุบันมีคนบางกลุ่มไม่ชอบกษัตริย์ เพราะรับวิธีคิดต่างชาติมา และเชื่อว่าเป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย โดยหลงไม่รู้ว่าจริง ๆ มันคือความต้องการเทียม ทั้งนี้ ระบบกษัตริย์ของไทย แตกต่างจากในยุโรปสิ้นเชิง เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติให้มีพลังเพื่ออยู่รอดได้ในสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศที่ไม่เคยปรานีชาติใด เราจึงอยู่รอดจนปัจจุบัน รอดพ้นการสิ้นชาติได้สำเร็จ ไม่เหมือนอีกหลาย ๆ ชาติที่ล่มสลายไปแล้วตามกาลเวลา

@@@……ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือสามเสาหลักที่แข็งแกร่งคำ้ยันและแบก เผ่าพันธุ์ของเราที่เป็นคนไทย หรือ คนไท ให้ดำรงความเป็นเสรีชนบนโลกใบนี้ไว้ได้กว่าพันปี ผู้ใดคิดทำลายเสาหลักทั้งสามนี้ให้หักโค่นลง คือผู้ทรยศต่อชาติบ้านเมือง มุ่งหวังบั่นทอนพลังอำนาจของชาติ เพื่อให้อำนาจจากภายนอกเข้ามาครอบงำทำลายเผ่าพันธุ์ของเรา ซึ่งพวกเราเหล่าเสรีชน ย่อมยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้

@@@……ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากจะฝ่าฝืน และละเมิด พรบ.การชุมนุมสาธารณะฯแล้ว ยังมีการใช้วาทะกรรมที่สร้างขึ้นมาจากทฤษฎีสมคบคิด หรือ ลัทธิการกบฏ (Conspiracy Theory) ซึ่งหมายถึงเรื่องเล่า บทความที่สร้างขึ้นมาจากความคิดของคน หรือกลุ่มคน โดยนำเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นอื่น ๆ เพื่อให้ประโยชน์ หรือมุ่งหมายให้โทษต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรืออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ลักษณะของทฤษฎีสมคบคิดโดยทั่วไปจะมีข้อเท็จจริงที่เป็นความจริงประกอบอยู่เพียงเล็กน้อย หรือส่วนหนึ่ง เพียงเพื่อเสริมให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีหลักฐานสนับ สนุนที่ดูเหมือนเกี่ยวข้องกันเท่านั้น และส่วนใหญ่อ้างข้อเท็จจริงที่บิดเบือน หรือสมมุติฐานที่ดูเสมือนจริง รวมทั้งนิยมใช้บุคคลที่สาม เป็นแหล่งปล่อยข้อมูลออกไปสู่สาธารณะ 

@@@…….เรื่องของการชุมนุม ฝ่ายความมั่นคง เชื่อคนชี้นำและแกนนำม็อบพยายามที่จะปรับการชุมนุมให้น่าสนใจ และกลับมาสู่สาระการเรียกร้องมากขึ้น เพื่อเรียกระดมผู้ชุมนุมที่เป็นคนหนุ่มสาว เยาวชน สร้างความชอบธรรม แทนที่จะเพิ่มมวลชนแดงจัดตั้งในการรักษาสถานะจำนวนผู้ชุมนุมมิให้น้อยไปกว่าที่ผ่านมา ม็อบพยายามที่จะให้เกิดการจราจลให้ได้ ยิ่งยืดเวลาออกไปนานเท่าไหร่ จำนวนคนยิ่งจะน้อยลง

แต่การยกระดับการชุมนุม ก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้เกิดการจราจล ทุกอย่างทำตามหลักสากล ขนาดทำตามกฎหมาย ม็อบถูกน้ำฉีดยังร้องโวยวายและเอาไปปั่นกระแสโซเชียลให้ดูว่าถูกเจ้าหน้าที่รังแก แต่ทหาร ตำรวจ ไม่ตอบโต้ ฝ่ายความมั่นคงทำตามหลักสากล จะเห็นว่าม็อบเกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทย แม้แต่จีนที่เป็นประเทศมหาอำนาจสามารถที่จะจัดการม็อบที่ฮ่องกงได้ แต่จีนยังไม่ทำ แล้วฝ่ายความมั่นคงจะทำไปทำไม ก็ดำเนินการตามกฎ หมายที่มีอยู่ก็เพียงพอแล้ว

@@@…….หลังจากที่มีการลักลอบเข้าเมืองทางธรรมชาติ พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย ผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นการหารือร่วมกันระหว่างส่วนราชการใน ศปม. และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมหาแนวทางในการสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทางผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงสถานการณ์และแนวโน้มของผู้ติดเชื้อโควิด – 19 โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้ลัก ลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 

@@@…….สำหรับฝ่ายยุทธการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ฝยก.ศปม.) ได้เสนอแนวทาง การสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 อย่างเคร่งครัด….ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดของไทยปัจจุบัน และด้วยสัจธรรม ความเสี่ยงการระบาดระลอก 2 สูงมาก และถือว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ง่าย ๆ

เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่มีอาการ เดินทางด้วยรถโดยสารขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบ ไปผับไปบาร์ ไปดูคอนเสิร์ต อยู่ใกล้ชิดกับเพื่อน…..ฝ่ายความมั่นคงได้รับการแจ้งเตือนจาก ศคบ.ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์เต็มที่ แต่ยังหวังว่าจะทำสถานการณ์ให้อยู่ในความควบคุมได้ ซึ่งต้องการความร่วมมือจากคนไทยทุกคน

@@@……วันก่อน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ติดตามการปฏิบัติงานของกองกำลังสุรนารี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจกับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลพื้นที่ชายแดน พร้อมรับทราบความคืบหน้าการทำงานในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่าน การคัดกรอง และได้เดินทางไปยังจังหวัดศรีสะเกษ ตรวจเยี่ยม และฟังบรรยายสรุป พร้อมดูการปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำและได้กำชับให้กำลังพลในพื้นที่ดำรงความต่อเนื่องภารกิจป้องกันประเทศ 

โดยเฉพาะการเฝ้าตรวจและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ไม่ให้มีการลัก ลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการคัดกรอง ทั้งการลาดตระเวน การเฝ้าตรวจ มาตรการด้านการข่าว และการประ สานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด -19 เข้าสู่ประเทศ 

@@@……จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนเป็นจำนวนมาก พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้กำชับหน่วยของกองทัพอากาศ โดยเฉพาะหน่วยในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกองบิน 56 จังหวัดสงขลา นำกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ 

@@@……พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม ผอ.สนภ.4 นทพ.เดินทางไปตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทุกภัย น้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 12 นาย เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ 2 ลำ, รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก 2 คัน และรถบรรทุกขนาดใหญ่ 1 คัน เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน เด็ก ผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ป่วยติดเตียง โดยได้แจกจ่ายอาหารและน้ำดื่ม, มอบถุงยังชีพ และยาสามัญประจำบ้าน  

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับราษฎรผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 159 ครัวเรือน ปัจจุบันฝนยังคงตกต่อเนื่อง หน่วยเฝ้าติดตามสถานการณ์โดยประสานกับส่วนราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อดำรงความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ในส่วนของราษฎรผู้ได้รับผลกระทบยังคงมีขวัญและกำลังใจดี มีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่า รัฐไม่ทอดทิ้งประชาชน.

—————————————
คอลัมน์ “Military Key”
โดย “รหัสมอร์ส”



- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img