การที่ “ครม.บิ๊กตู่” ตีกลับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. คงทำให้พี่น้องคนไทย ที่ตั้งตารอคอยการเดินทางท่องเที่ยว คงเกิดอาการ “เซ็ง” กันเป็นแถว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่รัฐบาลกำลังชั่งน้ำหนักกับการเปิดให้จัดงานเทศกาล “สงกรานต์” เพราะชื่อได้ว่า หลาย ๆ คนคงตั้งตารอคอยที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลแห่งความรื่นเริงนี้เป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ด้วยเพราะรัฐบาลแขยงกับกระบวนการ “โกง” ครั้งประวัติศาสตร์กับโครงการนี้ในเฟสแรก ที่เรียกได้ว่า ร่วมมือร่วมใจกันโกงรัฐ แบบไม่น่าให้อภัย ทั้งผู้ประกอบการ ทั้งคนเที่ยวที่ใช้สิทธิ
อย่าว่าแต่…ภาครัฐ!! งานนี้ ใครหลายคนที่เห็นกระบวนการโกงแล้วก็ต้องอ้าปากหวอ ออกอาการเหวอ กันไปตาม ๆ กันด้วยซ้ำ เพราะไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดการโกงกันแบบหน้าด้าน ๆ กันขนาดนี้
ที่ไป…ที่มา…ของการผลักดันโครงการเที่ยวด้วยกันระยะที่ 3 ด้วยเพราะ…จำนวนสิทธิ์ห้องพัก และจำนวนตั๋วเครื่องบิน ยังคงเหลืออีกจำนวนมาก คิดเป็นวงเงินแล้วก็ราว ๆ 6,000 ล้านบาท จากวงเงินของโครงการทั้งหมด 15,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยยังต้องการแรงขับเคลื่อนจากภายในอีกเป็นจำนวนมาก และการท่องเที่ยวก็ถือเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ
ไม่เพียงเท่านี้!! รัฐบาลก็ประเคนวันหยุดราชการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้อีกรวมแล้วก็ 6 วัน แต่ถ้าใครเป็นข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจตัวจริง ลาอีก 1 วันติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็จะได้วันหยุดยาวถึง 9 วันทีเดียว
ถ้าไม่ใช้โอกาสดีงามเช่นนี้ กระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นให้ได้ ก็เท่ากับว่า...เสียเวลา เสียประโยชน์ หรือเสียเปล่าโดยใช่เหตุ!!
แต่ก็อย่างว่า…ในเมื่อประวัติศาสตร์มีให้เห็น หากผลีผลัน ไม่ดูแลให้รอบคอบรอบด้าน ก็อาจเพลี่ยงพล้ำ เหมือน “เฟส 2” ที่ถูกโกงกันสลอน
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ครม.ต้องการให้เจ้าของหน่วยงานทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท.ต้องปรับเงื่อนไขไม่ให้มีการ “โกง” เกิดขึ้นอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…การยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชั่นว่าเป็นเจ้าของสิทธิจริง ๆ เพื่อป้องกันการทุจริต เช่นเดียวกับกระบวนการแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”
แต่จะไปถึงนั่น…หรือเปล่า คงต้องรอดูผลของการหารือระหว่างสภาพัฒน์ ททท. และธนาคารกรุงไทย ให้ชัดอีกครั้งในวันที่ 15 มี.ค.นี้
ขณะเดียวกันที่ต้องดูคือเรื่องของสิทธิที่รัฐจะเข้าไปสนับสนุน ที่อาจลดเพดานของราคาห้องพักลง เพื่อขยายจำนวนผู้ที่จะได้รับสิทธิให้มากขึ้น
ที่สำคัญ!! เรื่องของคูปองหรืออี-เวาท์เชอร์ อาจต้องยกเลิกไป เพราะปัจจุบัน ก็มีทั้งเราชนะ-คนละครึ่งและม 33 เรารักกันอยู่แล้ว
หรืออีกทาง…โละทิ้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันไปเลย แล้วไปหาโครงการอื่น มาช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวแทน ส่วนจะเป็นโครงการอะไร ก็ต้องว่ากันอีกที
แต่ทั้งหลายทั้งปวง…งานนี้ทางฝั่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯเองต่างยืนกรานเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าต้องดำเนินโครงการนี้ต่อไปให้ได้ เพียงแต่ต้องหาช่องทางมาอุดรอยรั่วให้มิดเท่านั้น!!
เพียงแค่ ให้ห้องพักเพิ่มอีก 2 ล้านห้อง และขยายเวลาไปจนถึง 31 ก.ค.นี้ ก็น่าจะกระตุ้นน้ำย่อยในการเดินทางท่องเที่ยวได้ไม่น้อย เพราะแต่ละคนที่ได้สิทธิ ก็จะมีสิทธิจองที่พักได้อยู่แล้วถึง 15 ห้อง (คืน) แถมยังได้ค่าตั๋วเครื่องบินอีกไม่เกิน 3,000 บาท
อย่าลืมว่า ที่ผ่านมา คนไทยต่างอัดอั้นกับการไม่ได้เที่ยวมาเป็นเวลานาน ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯต่างตั้งความหวังว่าอย่างน้อยในปีนี้คนไทยต้องเดินทางท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 160 ล้านคน-ครั้ง
อย่างที่บอก…บรรดาคนที่รอโครงการท่องเที่ยวอยู่ คงต้องอดใจรอกันสักนิด โดยรอฟังผลการจับเข่าคุยของบรรดาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนก่อน
เพราะ!! อย่างน้อย ยังพอมีเวลา หากรีบเร่งมากเกินไปจนมีกระบวนการโกงกันเกิดขึ้นอีก ทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไปก็คือ “เงินภาษี” ของคนไทยทั้งประเทศนั่นแหล่ะ..
…………………………….
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo