แจก“เงินดิจิทัล”ยังติดหล่ม “หุ้นไทย”ผิดหวังวูบหนัก!!

ฮอต…ยิ่งกว่าฮอต!! ในสังคมไทย ในเวลานี้ คงหนีไม่พ้น นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเลต 10,000 บาท ของรัฐบาล “เศรษฐา 1” แน่นอน

ด้วยเพราะเป็นนโยบายที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ใช้เพียงครั้งเดียว รอบเดียว เพื่อหวังกระชากเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ให้เติบโตให้ได้ที่ 5%

ขณะที่ “กระเป๋าเงิน” ของรัฐบาล กลับมีเงินจำนวนไม่มากนัก ไม่มากพอกับรายจ่ายที่เกิดขึ้น จึงยังต้องทำงบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญ!! รัฐบาลชุดนี้ยังปรับเพิ่มการขาดดุลงบประมาณปี 67 เพิ่มอีก 1 แสนล้านบาท เพิ่มเป็น 6.93 แสนล้านบาท  เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลมีกรอบวงเงินเพิ่มเติม เพื่อเดินหน้า นโยบายใหม่ ๆตามที่หาเสียงไว้

เหตุนี้เอง… จึงทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ เสียงคัดค้าน เกิดขึ้นมาตั้งแต่รัฐบาลตัดสินใจจะเดินหน้าโครงการนี้อย่างชัดเจน

ส่วนเหตุผลจะมาจากการห่วงประเทศชาติอย่างแท้จริง หรือต้องการ “ขย่มซ้ำ” เพื่อหวังผลทางการเมือง ก็ว่ากันไป แล้วแต่จิตเสน่หา

แต่ที่สะท้อน ความไม่เชื่อมั่น ความไม่มั่นใจออกมาให้เห็นมากที่สุด ก็ตกไปอยู่ที่ตลาดหุ้นไทย นี่แหล่ะ ต่อให้เป็นเพียงแค่ปัจจัยลบเพียงส่วนหนึ่งก็ตาม!!

เรียกได้ว่า ความผิดหวังจาก นโยบายการแจกเงินดิจิทัล วอลเลต ครั้งนี้หุ้นไทยตกใจหนัก ต่างชาติเทขายทิ้ง ทำเอาดัชนีหุ้นเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา หล่นวูบไปมากถึง 30.48 จุดกันทีเดียว

โดยต่างชาติยังคงเทขายอย่างต่อเนื่อง อีก 1,557.66 ล้านบาท เช่นเดียวกับบรรดาหลักทรัพย์ทั้งหลาย ที่เทขายไป 268.52 ล้านบาท ขณะที่ บรรดาสถาบันทั้งหลาย เทขายไป 176.64 ล้านบาท

บรรดาหุ้นค้าปลีกดัง ๆ หลายเจ้า  ที่คาดหวังจะได้รับอานิสงส์ จากนโยบายการแจกเงินดิจิทัล วอลเลต ต่างกอดคอกันร่วงต่ำลง เพราะผิดหวัง

การหล่นวูบของดัชนีหุ้นไทย ครั้งนี้ เรียกได้ว่า เป็นการหล่นวูบ จำนวนมากเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ จากเมื่อวันที่ 14 มี.ค.66 ที่หุ้นไทยก็ตกใจหล่นวูบไปมากถึง 49.18 จุด

จนถึงวันนี้ นโยบายการแจกเงิน ดิจิทัล วอลเลต 10,000 บาท ก็ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ ที่ชัดเจน ขณะที่ตัวนายกฯเศรษฐา เอง ก็ยืนยันว่า เมื่อทุกอย่างสะเด็ดน้ำชัดเจน จะเป็นผู้ชี้แจงในภาพรวมทั้งหมดเอง

อย่างที่เจ้าตัว เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้วว่า…อะไร? ต้องปรับเพื่อความเหมาะสม ก็ต้องปรับ ไม่ใช่ว่าจะเดินหน้าดันทุรัง ในสิ่งที่หลายฝ่ายคัดค้านเพื่อเป้าหมายทางการเมือง

กรณีรัศมีการใช้เงิน ที่ต้องปรับเป็นรัศมีภายในเขตอำเภอ ที่เรื่องนี้ค่อนข้างชัดเจน หรือแม้แต่เรื่องของการรักษาวินัยการเงินการคลัง  หรือเรื่องของข้อกฎหมาย ที่ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดเช่นกัน

แต่ทั้งหมด ก็ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนจะเป็นวิธีไหน แบบไหน อย่างไร เมื่อใด ก็ต้อง รอให้คณะกรรมการชุดใหญ่ เคาะออกมาให้เรียบร้อยก่อน

แม้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน ที่มี รมช.คลัง “หนิม-จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” เป็นผู้ดำเนินการ จะมีหลากหลายความเห็น โดยเฉพาะในเรื่องของกลุ่มผู้ที่ควรได้รับเงิน รวมไปถึงวงเงินที่ต้องใช้ หรือเรื่องของแหล่งเงิน ก็ยังคงเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น!!

เพราะหากไม่ยืนยันตามเดิมที่จะแจกทุกคนที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป ก็ประหยัดงบประมาณ ไปเยอะไม่น้อย แต่ถ้าวงเงินน้อยเกินไป ก็ไม่ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการกระชากเศรษฐกิจ แม้มองว่าจะเกิดแรงเหวี่ยงทางเศรษฐกิจ แต่ในความเป็นจริง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปตามที่คาดหวัง

ส่วนคำกำจัดความที่ว่า “รวย” จะไปวัดกันตรงไหน จะวัดเงินเดือน บัญชีเงินฝาก แต่อย่าลืมทุกวันนี้ เงินเดือนก็ต่างจากรายได้ บัญชีเงินฝาก ก็ต่างจากเงินที่มี

ณ เวลานี้ คงต้องรอและรอ ว่าสุดท้ายแล้ว คณะกรรมการชุดใหญ่ ที่นายกฯเป็นประธานเอง จะเคาะรายละเอียดออกมาอย่างไร ที่สำคัญ ต้องเร็ว ชัดเจน และตอบคำถามสังคมให้ได้ ไม่เช่นนั้น!! หุ้นไทย คงตกใจต่อไป!!

………..

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)