ตีฆ้องร้องป่าวกันยกใหญ่!! กับการจัด งานมหาสงกรานต์ 2567 ที่จัดหนักจัดเต็ม 21 วัน ตั้งแต่ 1-21 เม.ย.67 นี้…ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายใหญ่ที่ต้องการให้เทศกาลสงกรานต์ไทยติด 1 ใน 10 เฟสติวัลของโลกกันทีเดียว
ด้วยเพราะประเพณีสงกรานต์ของไทย ได้รับการประกาศจากองค์การ UNESCO ให้ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ ยิ่งสำทับให้เห็นถึงคุณค่า ความสำคัญและอัตลักษณ์ของประเพณีสงกรานต์ไทย ที่เชื่อว่า ณ เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวเทศ ต่างต้องการเข้ามาร่วมสนุกในงานสงกรานต์ของไทย เป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว
จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า…ในช่วงที่จัดเทศกาลสงกรานต์ 12-16 เม.ย.นี้ ถึงมีการคาดการณ์กันว่า จะมีเงินสะพัดมากถึง 24,420 ล้านบาท จากบรรยากาศที่เชื่อว่าจะเดินทางกันอย่างคึกคัก
ที่สำคัญ!! ยังมีการคาดการณ์กันด้วยว่า…เศรษฐกิจไทยจะเริ่มผงกหัวดีขึ้น หลังมีงานมหาสงกรานต์ 21 วันในเดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป
โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจรวมเบ็ดเสร็จแล้วประมาณ 1.8-1.9 แสนล้านบาท
เงินสะพัดดั่งว่า…มาจากเงินการใช้จ่ายของคนไทยประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวสงกรานต์ประมาณ 1-1.5 ล้านคน อีก 40,000 ล้านบาท รวมกับเงินสะพัดเฉลี่ยแต่ละปีที่มีอยู่ประมาณ 1.3-1.4 แสนล้านบาท
เห็นตัวเลขเงินสะพัดอย่างนี้แล้ว ก็เชื่อได้ว่ารัฐบาลคงใจชื้นขึ้นมาไม่น้อย!! เพราะเท่ากับว่า ณ เวลานี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมา โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ภาครัฐที่หลุดเป้าไปถึง 8,800 ล้านบาท รวมไปถึงฐานะการคลังที่ดูแล้วอาจไม่แข็งแรงอย่างใจคิด
หาก!! มีการใช้จ่าย มีเงินสะพัดขนาดนี้ ก็จะสามารถหมุนเวียนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้แบบไม่ยักแย่ยักยันเท่าใดนัก หรืออย่างน้อยเมื่อถึงสิ้นปีเศรษฐกิจก็ยังเติบโตได้ในระดับ 3.2%
เอาเป็นว่า หากนับตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป ก็ยังเหลือเวลาอีก 8 เดือน ที่จะกอบกู้ ที่จะบำรุงดูแลให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ที่สำคัญในเดือนนี้นอกจากบิ๊กอีเว้นท์ ที่รัฐบาลตั้งใจสาดความเย็น ความสนุกให้ถึง 21 วันแล้ว ยังมีเรื่องของงบประมาณปี 67 ที่เชื่อว่าจะผลักดันกันออกมาได้สำเร็จ
เมื่อขับเคลื่อนงบประมาณฯได้ ทุกฝ่ายก็ใจชื้น ก็สามารถเดินหน้านโยบายที่ต้องการจะทำต่อไปได้ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณมาเป็นก้างตำคอเข้าให้อีก
เช่นเดียวกับเรื่องราวในเชิงการเมือง ที่ว่ากันว่า การปรับครม.เศรษฐา 2 จะเกิดขึ้นหลังสงกรานต์ เป็นต้นไป ก็ต้องมาดูกันชัดๆ โดยเฉพาะตำแหน่ง “ขุนคลัง” ที่ “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” นั่งควบอยู่
เพราะเพียงลำพังแค่ปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีก็ย่ำแย่แล้ว การจะมากุมบังเหียนในเรื่องของงบประมาณ ให้รอบคอบให้รอบด้านให้ตรงใจทุกฝ่าย ก็อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้
ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า “รายชื่อ” ที่ถูกโยนหินถามทางออกมานั้น จะใช่ของแท้ของจริงหรือไม่!!
แต่ก่อนจะไปถึงเวลานั้น ยังมีเวลาแห่งความสนุกสนานรอประชาชนคนไทยให้เสพย์สุขกันแบบชนิดที่เรียกว่าต้อง “สำลัก” เพราะภาครัฐเค้าจัดเต็มกับงานมหาสงกรานต์ในปีนี้
อย่างที่บอก…ในเมื่อรัฐบาลมีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการผลักดันให้ประเพณีสงกรานต์ของไทยติดท็อปเทนเฟสติวัลของโลก ก็ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
อย่างแรก!! ก็แต่งตั้งให้ รองนางงามจักรอาลอันดับ 1 อย่าง “แอนโทเนีย โพซิ้ว” เป็น “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ประจำปี 2567 ตามมาด้วยการจัดทำบทเพลงสงกรานต์เป็น 4 ภาษา ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีนและฝรั่งเศส
ไม่เพียงเท่านี้กิจกรรมที่จัดในงานก็ยังชูไฮไลต์ด้วยขบวนพาเหรด 20 ขบวน จาก 16 จังหวัด และซอฟต์พาวเวอร์ 4 สาขา ที่จะเดินผ่านถนนราชดำเนินกลางเข้าสู่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 11-15 เม.ย.นี้
และก็ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯเท่านั้น ที่มีการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ ยังมีพื้นที่อัตลักษณ์ 5 ภูมิภาคทั่วไทยด้วย ที่มีการจัดงานไม่ได้น้อยหน้ากันเลย เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ประเพณีสงกรานต์ไทยที่โดดเด่นในแต่ละภูมิภาค
อย่าลืมว่างานมหาสงกรานต์ครั้งนี้จะประเดิมขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ เป็นต้นไป ที่ จ.เชียงใหม่ ในงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ วันที่ 1-15 เม.ย. 2567 สถานที่จัดงานทั่วเมืองเชียงใหม่
ส่วนวันสุดท้ายคือวันที่ 21 เม.ย.67 จะเป็นงานที่จัดขึ้นใน 2 สถานที่ที่ปิดท้ายด้วยงานวันไหล ที่จ.ชลบุรี และที่พระประแดง จ.สมุทราปราการ
สุดท้าย!! ก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ฝันไว้ จะกระหึ่มเวทีโลกได้แค่ไหน พอๆ กับการเดินหน้าเศรษฐกิจในเมื่องบประมาณ ปี 67 ใช้ได้แล้ว แต่การใช้ครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้แค่ไหน!!
…………………………
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo
