ประเดิมวันแรก!! ของการลงทะเบียนเพื่อขอรับเงิน ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เรียกได้ว่ารัฐบาล “เอาอยู่” กันทีเดียว !!
แม้ในช่วงก่อนหน้าและในช่วงต้นของการเปิดลงทะเบียน จะมีปัญหาขลุกขลัก หรือบางช่วงจังหวะเวลา ต้องใช้เวลานานในการลงทะเบียนก็ตาม
แต่!! ก็ถือว่าวันแรก วันเดีเดย์ ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แถมยังมีประชาชนคนไทยที่รอคอยมานานเกือบปี แห่แหน มาลงทะเบียนกันไปกว่า 16 ล้านคน เข้าไปแล้ว
อย่างว่าล่ะ…แจกเงิน!! ใครมีสิทธิ์ แล้วไม่ใช่สิทธิ์ ก็บ้าแล้ว!! แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ากว่าจะถึงวันที่ได้ใช้เงินจริงๆ จะเป็นวันไหนกันแน่ หลายคนฟันธงกันไปแล้วว่าได้ใช้แน่ๆ ในช่วงปีใหม่ และสงกรานต์ ปีหน้าโน่น
ก็เอาเถอะ รอมาได้เป็นปี กะอีแค่อีกไม่กี่เดือน ก็ไม่น่าจะหนักหนาอะไร? ขอให้ได้ใช้ก็โอเคแล้ว!!
แต่ความเป็นห่วง เป็นใย ในเวลานี้ ก็น่าจะหนีไม่พ้น เรื่องของ “ระบบชำระเงิน” ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA
เพราะจนถึงเวลานี้…ยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างผู้ที่จะเข้ามาพัฒนา “ระบบกลาง” เพื่อให้สถาบันการเงินต่างๆ เข้ามาเชื่อมต่อในรูปแบบของโอเพ่นลูป
ขณะเดียวกันความเป็นห่วงเป็นใย ในเรื่องของ “ความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์” ก็เป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องให้ความสำคัญ ที่ทาง “ผู้ว่าการแบงก์ชาติ” ได้เคยออกหนังสือแสดงความเห็นไปแล้ว
โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดทำและนำส่งพิมพ์เขียวที่แสดงให้เห็นว่าระบบปลอดภัย ให้กับสถาบันการเงินเตรียมความพร้อมในการพัฒนาและทดสอบการเชื่อมต่อระบบการชำระเงินให้ทันตามกำหนด
นอกจากนี้ยังต้องแจ้งให้แบงก์ชาติรับทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนเริ่มให้บริการ เพราะอย่าลืมว่า ระบบทั้งหมด เป็นการเชื่อมต่อกันระหว่างเพย์เม้นท์ แพลตฟอร์ม กับโมบาย แอปพลิเคชั่น
ทั้งหมด!! ถือว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบไอที อย่างมีนัยสำคัญ ที่มีผลกระทบต่อลูกค้าและการให้บริการเป็นวงกว้าง
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใดๆ ที่แบงก์ชาติเองต้องแสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้ เพราะหากเกิดปัญหา เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด หรือคิดไม่ถึงกันขึ้นมา อาจส่งผลต่อระบบการชำระเงินทั้งหมดได้
คิดเล่นๆ ว่า…หากบรรดา “โจรออนไลน์-โจรไซเบอร์” ที่มีความรู้ดีในเรื่องของ “การขโมยข้อมูล” หรือ “แฮกข้อมูล” เข้ามาได้ แล้วอะไร? จะเกิดขึ้นบ้าง อย่าลืมว่าปัจจุบัน ภัยออนไลน์ในบ้านเรา เกิดขึ้นหยุบหยับเป็นดอกเห็ด
ต่อให้ผู้มีความรู้ การศึกษาสูง มีหน้ามีตาในสังคม ป้องกันทุกทาง ระมัดระวังทุกอย่าง ยังหลงกล หลงเชื่อคำหว่านล้อม จนหมดตัวก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ
หลายคนบอกว่า การตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เป็นข่าวมากมาย มีคนเตือนมากมาย มีวิธีการป้องกันมากมาย หลากหลายวิธี สารพัดการป้องกัน หรือแก้ปัญหา
เอาเข้าจริง!! ถ้าคนที่ไม่อยู่ในสถานการณ์หรือไม่ตกเป็นเหยื่อเอง ก็พูดได้ แต่เมื่อเจอเองกับตัวโอกาสพลาดพลั้งก็มีไม่น้อยเช่นกัน หลายๆ คนทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ แต่สุดท้าย…ก็ยังตกเป็นเหยื่อจนได้
บรรดาภาคแบงก์ ภาคธนาคาร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ระบบการชำระเงิน ต่างแสดงความเป็นห่วงว่า ด้วยการเป็นระบบโอเพ่นลูป หากยังไม่สามารถหาผู้พัฒนาระบบเพย์เม้นท์กลางได้โดยเร็ว ระยะเวลาที่เหลืออยู่อาจไม่ทันการก็เป็นไปได้
เพราะนอกจากต้องมีผู้พัฒนาระบบกลางแล้ว บรรดาสถาบันการเงิน หรือ “นอนแบงก์” ทั้งหลาย ก็ต้องพัฒนาระบบเชื่อมต่อด้วยเช่นกัน จนถึง ณ วันนี้ ที่รัฐบาลบอกว่าจะได้ใช้เงินดิจิทัล วอลเล็ต ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
แต่…ก็ยังไม่มีการกำหนดสเป็ก ไม่มีการกำหนดคุณสมบัติ เงื่อนไขต่างๆ บรรดาภาคสถาบันการเงินจึงมองว่า ระบบอาจไม่แล้วเสร็จได้ภายในสิ้นปีนี้ตามที่รับบาลได้วาดแผนไว้
แม้เรื่องของการพัฒนาระบบจะเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ที่น่าห่วงมากกว่า คือเรื่องของการทดสอบระบบในทุกด้าน ว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์
ในยามที่ประชาชนคนไทยต่างห่วง ต่างกังวลว่าจะได้ใช้เงินหรือเปล่า ได้ใช้เงินเมื่อใด แต่บรรดาภาคสถาบันการเงินที่ต้องรับไม้การเชื่อมต่อระบบ ยิ่งเป็นกังวลมากกว่า
หาก…กระชั้นชิด หรือหละหลวม หรือมีช่องโหว่ ปล่อยให้เกิดการ “แฮก” ขึ้นได้ อันนั้นจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลมากกว่าการกำหนดวันใช้เงินด้วยซ้ำไป!!
……………………………..
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo