วันจันทร์, กันยายน 16, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSเอกชนถามหา''หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ''หวังเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เอกชนถามหา”หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”หวังเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน

ในที่สุด!! รัฐบาล “แพทองธาร” ก็ชัดเจนในทุกมิติ โดยเฉพาะบรรดาครม. ที่แม้ไม่ได้แตกต่างจากเดิมไปสักเท่าใดนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่ากว่าทุกตำแหน่งจะ “นิ่ง” ก็ซวนซัดซวนเซไปไม่น้อย


สุดท้ายก็ลงตัว…เพราะทุกอย่าง “สมประโยชน์” และหากอ้างอิงจากคำพูดล่าสุดของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นายกฯและรมต.ทุกคน จะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.นี้เป็นต้นไป
แม้นายกฯแพทองธาร จะมีครม.มีทีมงาน ที่ตัวนายกฯเองออกมาการันตีต่อสื่อว่าเป็นทีมงานที่มีฝีมือ ที่มีคุณภาพ แต่ในมุมมองของภาคเอกชนแล้วต่างเรียกร้องถามหา “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ตัวจริงเสียงจริง


หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ “ทักษิณ ชินวัตร” เคยประกาศไว้ชัดเจนว่า เรื่องความมั่นคงในเวลานี้อาจมีความสำคัญน้อยกว่าเรื่องของ“เศรษฐกิจ”ที่กำลังไหลลึก หากไม่เร่งกู้ อาจดำดิ่งลงไปมากกว่านี้


ดังนั้น…จำเป็นอย่างยิ่งที่นายกฯคนใหม่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของเศรษฐกิจอย่างยิ่งยวด !!
แต่ในความเป็นจริงแล้ว!! ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ต้องบริหารประเทศในทุกทิศทุกทาง โดยเฉพาะในเรื่องของการเมือง การจะมาพุ่งเป้าเพียงแต่เรื่องของเศรษฐกิจอาจไม่เหมาะนัก


ด้วยเหตุที่ว่า…งานของนายกฯ มีมากมายสารพัด !!การตัดสินใจในบางเรื่องอาจล่าช้า ไม่ทันต่อสถานการณ์!!
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ภาคเอกชนเรียกร้องให้มีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ชัดเจน เพื่อให้เป็นตัวกลาง สามารถประสานเชื่อมโยง ตัดสินใจ และ ผลักดันนโยบาย แผนกระตุ้นเศรษฐกิจได้


ภาคเอกชนมองว่าการไม่มีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะส่งผลต่อการพิจารณาและตัดสินใจการแก้ปัญหา รวมไปถึงการจัดทำแผนผลักดันเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อให้รองรับสารพัดปัจจัยลบที่เกิดขึ้นได้


บรรดาโบรกเกอร์!! ต่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ในช่วงที่ผ่านมา…ที่ตลาดหุ้นไทยดีดขึ้นได้ก็เพราะการเมืองในประเทศ เพราะมีนายกฯที่ชัดเจน และไม่ได้เปลี่ยนแปลงรมว.คลัง


แม้ว่าเมื่อมีพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาลแพทองธาร รวม 35 คน ที่ดัชนีหุ้นไทยก็เขียวเด้งรับทันทีก่อนปรับขึ้นปรับลง จนปิดตลาดเป็นลบไป 0.89 จุด ก่อนมาดีดแรงในวันรุ่งขึ้น


ไทม์ไลน์ของรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะประชุมครม.นัดแรกในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เพื่อเร่งเครื่องในเรื่องของการแจกเงินในโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านวอลเล็ต


ด้วยเพราะเงินงบประมาณที่จัดมา 1.22 แสนล้านบาท ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 67 หรือภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ รวมกับงบกลางที่เจียดมาอีกราว 2 หมื่นล้านบาทเศษ เพื่อแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ รวมกว่า 14 ล้านคน


ทั้งหลายทั้งปวง…ก็เป็นไปตามคำมั่นสัญญา ที่ให้ไว้กับประชาชนคนไทย!!


แม้โครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต แต่เดิมจะขลุกขลักทำไม่ได้อย่างใจหวัง ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศ ก็ต้องกระตุกให้ฟื้นโดยเร็ว


แถมยังมีปัญหาเฉพาะหน้าอย่างสถานการณ์อุทกภัย ที่ภาคเอกชนประเมินไว้ว่าได้ทำความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจประมาณ 6,000-8,000 ล้านบาท ที่ต้องเร่งแก้ไขควบคู่กันไปด้วย


ในเวลานี้ ต้องยอมรับว่า เรื่องของแหล่งที่มาของเงินในการเดินหน้าเร่งเครื่องเศรษฐกิจ ก็ไม่มีปัญหา เพราะอย่างน้อยรัฐบาลของแพทองธาร ก็มีเงินงบประมาณในปี 67 อยู่ในมือแล้ว 1.22 แสนล้านบาท


ขณะเดียวกันงบประมาณปี 68 ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของรัฐสภา  ก็คงผ่านฉลุย และเดินหน้าเบิกจ่ายได้ในไม่ช้านี้


รวม ๆ แล้ว 2 ปีงบประมาณ เงินงบประมาณเพื่อนำมาใช้กระตุกกระเตื้องเศรษฐกิจก็มีไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านบาทเข้าไปแล้ว

นั่นก็หมายความว่า…เมื่อรัฐบาลแพทองธาร เข้ามาบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ อย่างเต็มรูปแบบแล้ว จะโชว์ฝีมือได้มากน้อยเพียงใด


โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!! นายกฯแพทองธาร จะมอบภาระอันหนักอึ้งเช่นนี้ให้ใครเป็นผู้ออกหน้า เพื่อให้วาระของรัฐบาลที่เหลืออีก 3 ปี สร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศ!!

……………….

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img