วันจันทร์, มีนาคม 31, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSรัฐบาล“อิ๊งค์”เร่งแก้หนี้ 1 ชิ้นงานใน 100 วัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รัฐบาล“อิ๊งค์”เร่งแก้หนี้ 1 ชิ้นงานใน 100 วัน

ข้อมูลจาก “เครดิตบูโร” หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา “หนี้ครัวเรือน” ภายใต้ระบบเครดิตบูโร มีมากถึง 13.6 ล้านล้านบาท ขณะที่หนี้ครัวเรือนไทยทั้งหมดมีอยู่ 16.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.5%

ขณะที่ “หนี้เน่า” ก็เป็นไปตามคาดที่ 1.2 ล้านล้านบาท หรือ 8.8% ของจำนวนหนี้ในระบบเครดิตบูโร เพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

“หนี้เน่า” หรือ “เอ็นพีแอล” ทั้ง 1.2 ล้านล้านบาทนี้ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ของปีที่แล้ว แม้เว้นวรรคไปบ้างในช่วงของไตรมาสสุดท้ายของปี 66 แต่ปรากฎว่า พอถึงไตรมาสแรกของปีนี้ ก็พลิกกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

การกลับมาของหนี้เน่าครั้งนี้!! ต้องยอมรับว่าที่น่ากังวลสุดๆ หนีไม่พ้น “เอ็นพีแอล” ของบรรดา “เอสเอ็มอี” ที่เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ส่วน “หนี้เน่า” จาก “สินเชื่อบ้าน-รถยนต์-บัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล” ดูจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก จากการกำกับดูแลที่เข้มงวด หรือเศรษฐกิจปากท้องดีขึ้น หรืออะไรก็แล้วแต่

แต่การที่แผลมาพุพองเอาที่ “เอสเอ็มอี” ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา!!

เพราะแสดงให้เห็นว่า…ขีดความสามารถในการแข่งขันของ “เอสเอ็มอี” กำลังมีปัญหา จากสารพัดปัจจัยที่ถาโถมเข้ามาเป็นจำนวนไม่น้อย จนทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ไม่พุ่งปรู๊ดปร๊าด!! อย่างที่ควรจะเป็น

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก!! ที่บรรดาภาคเอกชนต้องกรีฑา ยกทัพไปพูดให้แบงก์ชาติได้ยินกับหูว่า “กำลังเดือดร้อน” หาก “แบงก์ชาติ” ยอมโอนอ่อนผ่อนปรนลงมาสักหน่อย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รายเล็ก รายย่อย ก็จะมีลมหายใจต่อไปได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…การนำเงินของนายแบงก์ที่ต้องนำส่งเข้า “เอฟไอดีเอฟ” หรือ “กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน” 50% มาช่วยลดหนี้ให้กับเอสเอ็มอีและประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

การลดเงินนำส่งเข้า “เอฟไอดีเอฟ” ลงครึ่งหนึ่ง ก็คิดเป็นเงินรวมๆ กันแล้วถึง 1.4 ล้านล้านบาททีเดียว หากลดภาระให้กับ “นายแบงก์” แล้วผันเงินก้อนนี้มาต่อลมหายใจให้กับ “เอสเอ็มอี” และคนไทย ก็น่าจะเป็นการดีกว่าไม่น้อยทีเดียว

ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น “หอการค้าไทย” เดือน ต.ค.67 ที่สำรวจจากความคิดเห็นภาคธุรกิจสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ พบว่า ภาคธุรกิจกำลังมีปัญหารุมเร้ารอบด้าน

ขณะเดียวกันก็ขอส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี การแก้ปัญหาหนี้ การเข้าถึงสินเชื่อให้มากขึ้น

หรือแม้แต่!! การออกมาตรการควบคุมสินค้าจีนที่อาจทะลักเข้าไทย จนกระทบต่อ “เอสเอ็มอี” ทำให้แข่งขันได้ยาก เพราะเวลานี้สินค้าจีนที่นำเข้ามา กำลังสร้างความเสียหายให้เอสเอ็มอีเข้าใกล้ 1 แสนล้านบาทเต็มแก่

ต่อให้ในความเป็นจริงแล้ว การแก้ปัญหาของ “เอสเอ็มอี” ต้องหันมาดูตัวเองเป็นหลักก็ตาม แต่ก็ต้องดูถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่าไปรอด!! ได้มากน้อยเพียงใด

แม้เวลานี้รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน ตามคำบอกบอกเล่าของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่กล่าวไว้ในเวทีหาเสียงเลือกตั้งนายกฯอบจ. อุดรธานี เมื่อหลายวันก่อน

โดยย้ำว่า “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” ให้ความสำคัญกับเรื่องของ การแก้ไขปัญหาหนี้สิน อย่างมาก แถมยังเป็นกังวล-เป็นห่วง และต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

รัฐบาลได้ประกาศไว้ชัดเจนว่า…เกณฑ์ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครั้งนี้ นอกจากจะเป็นหนี้บ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท หนี้รถยนต์ไม่เกิน 8 แสนบาทแล้ว ยังมีหนี้สินของ “เอสเอ็มอี” ไม่เกินรายละ 3 ล้านบาทต่อราย โดยกลุ่มลูกหนี้ทั้ง 3 กลุ่มนี้ ต้องเป็นหนี้เสียไม่เกิน 1 ปี โดยขีดเส้นไว้ไม่เกิน 1 ต.ค. ที่ผ่านมา

รวมเบ็ดเสร็จก็คิดเป็นมูลหนี้ไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านล้านบาท รวมๆ แล้วลูกหนี้ที่จะได้รับประโยชน์จากการแก้หนี้นี้รวมๆ แล้วก็ราวๆ 2.3 ล้านรายทีเดียว

ที่ชัดเจนแล้วก็คือ “ลูกหนี้เหล่านี้” จะได้พักการจ่ายดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปีแน่นอน เบื้องต้น “สมาคมธนาคารไทย” ยืนยันชัดเจนว่า การปลดเปลื้องหนี้สินจะใช้วิธีการปรับโครงสร้างหนี้ โดยการลดการผ่อนชำระค่างวดเฉพาะเงินต้น และพักชำระดอกเบี้ยในช่วงเวลาหนึ่ง

ไม่เพียงเท่านี้!! หาก “ลูกหนี้” ทำได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด ก็จะได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยที่พักชำระไว้ทั้งหมดอีกด้วย

เวลานี้รัฐบาลได้กางแผนให้เห็นคร่าวๆ กันแล้ว อย่างน้อยก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานก่อนจะครบการทำงาน 100 วันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนความชัดเจน รายละเอียด วิธีการ ก็คงต้องรอให้แบงก์ชาติประกาศชัดๆ อีกที

แต่ท้ายสุดแล้ว อย่าลืมว่า “คนที่เป็นหนี้” ก็ต้อง “ใช้หนี้” เพราะหากรอแต่การ “ยกหนี้” เชื่อเถอะ อนาคตมีแต่ “เจ๊งกับเจ๊ง”!!

…………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img