“นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ได้ขึ้น “เวทีโชว์เดี่ยว” กว่า 1 ชั่วโมง เพื่อร่ายยาวผลงานรัฐบาลในช่วง 90 วัน
ขณะเดียวกันยังชู “วิชั่น” โชว์ทิศทางในปี 2568 ที่จะเดินหน้าสร้างโอกาสและสร้างความหวัง ให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการดำเนินงานในหลายๆ มาตรการ
แถมย้ำชัดว่า…ในช่วงที่เหลือของรัฐบาลอีก 2 ปีเศษนั้น ประเทศไทยจะถูกเติมเต็มด้วยโอกาสจากการทำงานร่วมกันของทุกองคาพยพ ตามสโลแกนติดตัวของ “นายกฯอิ๊งค์” ที่ว่า…“คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ที่ผ่านมา 3 เดือน หรือ 90 วัน รัฐบาลของนายกฯอิ๊งค์ ส่วนใหญ่เป็นนโยบายต่อเนื่องมาจากรัฐบาลสมัย “เศรษฐา ทวีสิน” โน่น
ส่วนผลงานแท้ๆ ของ “นายกฯอิ๊งค์” ในช่วง 90 วัน ยังไม่มีอะไรเป็นที่ประจักษ์ นอกเหนือไปจากการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อย่าง..น้ำท่วมภาคเหนือ หรือการเดินสายต่างประเทศ ในวาระที่ต้องไปตามปกติ
แต่ถ้าหมายรวมถึงนโยบายใหม่ล่าสุด อย่าง “คุณสู้ เราช่วย” ที่รัฐบาลโดย “กระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ-แบงก์พาณิชย์” เข้าไปช่วยกัน ปลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ ให้กับคนไทยกว่า 1.9 ล้านคน ก็เป็นอีกเรื่อง
เพราะ…โครงการแก้หนี้ “คุณสู้ เราช่วย” นี้ จะดำเนินการได้จริงก็ราวๆ ต้นปีหน้า เช่นเดียวกับ…การแจกเงินสด 10,000 บาท ให้กับผู้สูงอายุ 60 ปี ประมาณ 4 ล้านคน ที่นายกฯอิ๊งค์บอกว่าจะเริ่มแจกแน่ๆ ในช่วงตรุษจีน ปี 68 ซึ่งตามปฎิทินแล้วก็จะตรงกับวันพุธที่ 29 ม.ค.68 โน่น
ต่อให้การแจกเงินสด 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่แจกไปก่อนหน้านี้ให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้พิการจำนวน 14.5 ล้านคน จะดำเนินการเสร็จไปแล้วเหลือเพียงตกหล่นเล็กๆ น้อย ๆ 2-3 แสนคน ก็ตาม
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ก็ยังเป็นผลงานที่ต่อเนื่องมาจาก “รัฐบาลเศรษฐา” เช่นกัน เพียงแต่เปลี่ยนผ่าน จากการแจก “เงินดิจิทัล” เป็น “เงินสด” แทน เพื่อรักษาสัญญาหรือฐานเสียงไว้ก่อนส่วนหนึ่ง
ส่วนในเฟส 3 ที่ “นายกฯอิ๊งค์” บอกว่า จะแจกต่ออีกแน่นอน แต่ในรอบนี้ ซึ่งเป็นรอบที่เหลือหลังจากแจกให้กลุ่มแรก-กลุ่มที่สอง และกลุ่มที่สาม ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ไว้ก่อนหน้านี้ จะเป็นรูปแบบของเงินดิจิทัล ตามที่เริ่มโครงการไว้ตั้งแต่แรก
ก็เอาเป็นว่า!! เรื่องนี้…จะถือเป็นอีกหนึ่งในแผนงานตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ที่คนที่ลงทะเบียนแอป “ทางรัฐ” อีกกว่า 30 ล้านคน ยังรอคอยกันอยู่
ขณะเดียวกันยังมีเรื่องของ “บ้านเพื่อคนไทย” ที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศชัดเจนว่า จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้าอีกเช่นกัน โดยเป็นโครงการให้กับ “ผู้ที่มีรายได้น้อย” อย่างแท้จริง รวมไปถึง “ผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน” เป็นครั้งแรก
อย่างที่บอกว่า เป้าหมายของโครงการนี้ ก็เพื่อคนมีรายได้น้อย ดังนั้นแคมเปญ “ไม่มีเงินดาวน์ ผ่อนเพียงเดือนละ 4,000 บาท” จึงกลายเป็นแมกเน็ตหลัก เพื่อแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลต้องการช่วยเหลือคนไทยอย่างแท้จริง
ที่สำคัญ…“บ้านเพื่อคนไทย” ครั้งนี้ อยู่ในทำเลที่คนต้องการ เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ตัวเมือง ขนาดประมาณ 30 ตร.ม. โดยให้ผ่อนชำระนานถึง 25 ปี และยังให้สิทธิอยู่อาศัยถึง 99 ปี
พอๆ กับการเดินหน้าสานต่อ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ที่ “นายกฯอิ๊งค์” เหน็บแนมไปว่า ใครที่บอกว่าไม่รู้เรื่องนี้จะมา “กี่โมง” แต่เวลานี้ก็เห็นแล้วว่า ในสายสีแดง และสายสีม่วง ก็ 20 บาทตลอดสายได้แล้ว อีกหลายสายที่เหลือจะได้เห็นแน่ๆ
หรือแม้แต่การรื้อฟื้นโครงการ “หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน” เพื่อส่ง “เด็กเก่ง” ไปเติมศักยภาพในต่างประเทศ โดยใช้เงินสนับสนุนจาก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพิ่มเติม ด้วยโครงการ “หนึ่งอำเภอ หนึ่งซัมเมอร์แคมป์”
เช่นเดียวกับ “โครงการ SML” ที่รัฐบาลได้เดินหน้ารื้อฟื้นขึ้นมาอย่างจริงจังอีกครั้ง เพราะมั่นใจในเรื่องการกระจายอำนาจ ทั้งอำนาจเงิน และอำนาจการตัดสินใจโครงการ
“นายกฯอิ๊งค์” ทิ้งทายไว้ว่า ด้วยนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลได้ทำมาแล้ว และจะทำต่อไปในปีหน้า เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะในปี 2568 จะเป็นปีแห่งโอกาสและความหวังของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
มาถึงตรงนี้ ต้องยอมรับว่า การประกาศ “โอกาสของประเทศในปี 2568” ครั้งนี้ บรรดาภาควิชาการเชื่อว่า รัฐบาลของ “นายกฯอิ๊งค์” มีความตั้งใจสูง ในระดับเกรด A
แต่ใน “เชิงปฎิบัติ” แล้ว “ไม่ใช่เรื่องง่าย” เพราะปัญหามันซับซ้อนมากกว่าที่เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาที่เราไม่สามารถคาดเดาได้จากต่างประเทศ
ผลงานที่ออกมาให้เห็น จึงอยู่แค่ C+ เพราะไม่ได้เห็นผลที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ ก็อย่างที่บอกปัญหาซับซ้อนมากขึ้น ก็ต้องรอดูฝีมือนายกฯอิ๊งค์ กันต่อไปว่าอีก 2 ปีกว่าที่เหลือจะดึงดูดใจคนไทยได้แค่ไหน?
……………
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo
