วันศุกร์, พฤษภาคม 9, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS‘ตลาดหุ้นไทย-ภาคการผลิต’สาหัส! สัญญาณอันตราย...‘เศรษฐกิจไทย’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ตลาดหุ้นไทย-ภาคการผลิต’สาหัส! สัญญาณอันตราย…‘เศรษฐกิจไทย’

ไม่ว่ารัฐบาลจะออกมาชี้แจง ออกมาแก้ต่างอะไร? แต่จนถึงทุกวันนี้ “ความเชื่อมั่น” ในตลาดทุนไทยก็ยังไม่หวนกลับคืนมา…เหมือนดั่งเก่าก่อน

ต่อให้สภาพตลาดหุ้นไทยจะเด้งกลับมาบ้าง จนทำให้ดัชนีโผล่พ้นน้ำ ทะลุ 1,200 จุดมาได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความเชื่อมั่นจะกลับมา

การแก้ต่างของ “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง หลังจากให้ความเห็นเรื่องตลาดหุ้นไทยที่ซบเซาอย่างหนักจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยอย่างหนัก โดยพยายามอธิบายความเป็นจริงว่า เวลานี้ เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วง “ขาขึ้น” และชี้ให้เห็นว่า จีดีพีไทย ในปี 67 ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส

โดยไตรมาสแรก จีดีพีเติบโต จากปีก่อนหน้า ที่ 1.7% ขณะที่ไตรมาส 2 ก็เติบโตขึ้นอีก 2.3% ส่วนไตรมาส 3 ก็ปรับเพิ่มขึ้น 3% และไตรมาส 4 ก็เพิ่มขึ้นถึง 3.2% และยังเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส หรือสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา

ตัวเลขจีดีพี ที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่ามาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการนั้นกำลังออกดอกออกผล!

และไม่ใช่เพียงเท่านี้ ในปี 68 นี้ รัฐบาลยังเตรียมมาตรการอีกสารพัด เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตให้ได้ที่ระดับ 3.5%

รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละไตรมาส เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทย

โดยใน ไตรมาสแรก มีทั้งมาตรการลดหย่อนภาษี การแจกเงินหมื่นให้กับกลุ่มผู้สูงวัย และการค้ำประกันสินเชื่อรถกระบะ

ขณะที่ใน ไตรมาส 2 ยังคงมีการอัดฉีดเงินหมื่นบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อรักษาโมเมนตัมการเติบโต

ไตรมาสที่ 3 จะออกมาตรการปล่อยสินเชื่อชุดใหญ่ในวงกว้าง รวมถึงมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมยานยนต์

ส่วน ไตรมาสที่ 4 ก็มีแผนออกตราสารหนี้ดิจิทัลแอสเซ็ต เพื่อเพิ่มช่องทางการลงทุนและระดมทุนใหม่ๆ ให้กับเศรษฐกิจไทย

ขณะที่สภาพของตลาดหุ้นไทยที่ผันผวน แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นข้อมูลจริง ที่นักลงทุนนำไปใช้ในการตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้นต่อไป

ภาพเศรษฐกิจที่สวยหรู ที่รัฐบาลพยายามชี้แจง พยายามอธิบาย ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามของสังคมได้ว่า ในเมื่อเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้นเช่นนี้ แล้วทำไม…ตลาดหุ้นไทยถึงมีแต่ “เตี้ยลง”

อย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับ คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ความเชื่อมั่น” ที่ความพยายามของรัฐบาลในทุกทาง คงไม่เป็นผล ทั้งที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้นก็ตาม

ด้วยสารพัดปัจจัยที่ถาโถมเข้ามากระหน่ำ แม้ปัจจัยหลักจะมาจากเรื่องของ “ทรัมป์ เอฟเฟ็กต์” ก็ตาม แต่ปัจจัยในประเทศโดยเฉพาะในเรื่องของ “การเมือง” ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ยิ่งทำให้ “ความเชื่อมั่น” ยิ่งดิ่งเหวลงเช่นกัน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ปัญหาในเรื่องของ “ธรรมาภิบาล” ของ ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

เช่นเดียวกับ การเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักต่อดัชนีหุ้น ที่ตราบใด อำนาจในการชี้นำตลาดยังอยู่ในหุ้นไม่กี่ตัว ทำอย่างไร? ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็ไม่ดีดกลับมา

เมื่อผสมปนเปไปกับ ภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะใน ภาคการผลิต สำคัญที่มีสัดส่วนในจีดีพีจำนวนไม่น้อย ที่กำลังเหือดหายจากแรงกระแทกโดยตรงจากปัจจัยต่างประเทศ

ทั้งภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ เคมีภัณฑ์ ยางและพลาสติก ไอซีและเซมิคอนดักเตอร์ วัสดุก่อสร้าง สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ที่หดตัวติดลบอย่างต่อเนื่องมานานถึง 3 ปี และยังไม่มีวี่แววว่าจะผงกหัวขึ้นได้

เรื่องของ “ความเชื่อมั่น” ใน “ตลาดหุ้นไทย” ก็เรื่องหนึ่ง ขณะที่ในเรื่องของ “ภาคการผลิต” ที่กำลังวิกฤติก็กำลังกลายเป็น “ระเบิดเวลา” อีกลูก ที่รัฐบาลต้องเร่งโชว์ฝีมือ ก่อนทุกอย่างจะ…กู่ไม่กลับ!!

…………………………….

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img