วันศุกร์, พฤษภาคม 23, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSจับตาเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน “พลิกเกม”ดันเศรษฐกิจฟื้นตัวได้แค่ไหน?
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

จับตาเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน “พลิกเกม”ดันเศรษฐกิจฟื้นตัวได้แค่ไหน?

ณ วันนี้ กระทรวงการคลัง ออกมาการันตีชัดเจนว่า การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ที่ยึดมาจากการแจกงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และเฟส 4 จะไม่ได้นำมาใช้กับโครงการใหม่ๆ แน่นอน

ด้วยเหตุผลที่ว่า หากนำมาใช้กับโครงการใหม่ๆ จะต้องใช้เวลากว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโครงการนั้นๆ รวมไปจนถึงต้นสังกัด จะเห็นชอบ เผลอๆ ใช้เวลาเป็นเดือน

แต่ ณ เวลานี้ แผลทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลัง “พุพอง” หากมัวแต่รอเวลา ก็ไม่ทันการณ์ แผลพุพองแทนที่จะยุบ กลับกลายเป็นว่า ยิ่งลุกลามใหญ่โตไปเสียอีก

การใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่อีกเพียง 4 เดือนเศษ เท่านั้น!!

เนื่องจากเป็นงบประมาณรายจ่ายในส่วนของงบกลาง ประจำปี 68 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่กำลังจะหมดเวลาในวันที่ 30 ก.ย.68

จึงทำให้การเทงบประมาณก้อนนี้ลงไป จำเป็นต้องเป็นโครงการที่หน่วยงานมีแผนอยู่แล้ว ไม่ใช่โครงการใหม่ และจำเป็นต้องทำ แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ

ที่สำคัญ…โครงการที่รัฐเทงบลงไป จำเป็นที่สุดที่ต้องทำให้เกิดการจ้างงาน ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน 4 ด้านตามที่รัฐบาลไฟเขียวมาแล้ว

ทั้งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน โครงการท่องเที่ยว โครงการลดผลกระทบภาคการส่งออก และเศรษฐกิจชุมชนรวมไปถึงอื่นๆ

ในเมื่อกำหนดกรอบของประเภทโครงการที่ชัดเจน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเสนอรายละเอียดเข้ามาให้พิจารณา ซึ่งกระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายต้องทำให้เสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้

สาระสำคัญก็เพื่อให้ การเบิกจ่ายงบประมาณนั้นทำได้เร็วที่สุด แต่ใช่ว่า เมื่อเปิดช่องให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุดแล้ว จะเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการกระทำที่ไม่ถูกต้องหรือเปล่า

ขณะเดียวกันยังมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการต่างๆ ที่ใช้งบก้อนนี้อย่างเข้มข้นและถูกต้อง เพื่อให้เงินงบประมาณลงระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง

เรื่องนี้เชื่อเถอะ!! ไม่ว่าจะเป็นโครงการไหนของรัฐบาล “เงินทอน” ย่อมมีให้เห็นทั้งนั้น ไม่มีใครงการไหนที่จะขาวสะอาด ไม่มีนอกไม่มีในแบบ 100%

แต่! ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย หรือปล่อยให้ทุกอย่างละลายหายไปกับระบบ โดยไม่เกิดอะไรขึ้น เหมือนกับ “ฮอตมันนี่” ที่ผ่านมา ที่แทบไม่ได้ส่งผลอะไรกับ “จีดีพี” ด้วยซ้ำ

โดยที่ผ่านมา รัฐบาลหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการเทเงินหมื่นให้ประชาชนคนไทยไปแล้วกว่า 1.75 แสนล้านบาท ผ่านโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้สุงอายุ และกลุ่มเปราะบาง ในเฟส ที่ 1 และเฟส ที่ 2

ปรากฎว่า เงินก้อนนี้ ลงไปหมุนเศรษฐกิจได้เพียงแค่ 0.4% เท่านั้น แต่ถ้าถามว่า มี…ก็ยังดีกว่าไม่มี…เพราะอย่างน้อย ยังไปช่วยกระตุ้นจีดีพีได้บ้าง

แต่…ถ้าถามว่า คุ้มค่าหรือไม่ ตอบได้ทันที “ไม่คุ้มค่า” จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไม? รัฐบาลต้องเปลี่ยนแปลงโครงการกลางคัน โดยอาศัยเรื่องของผลกระทบจากสหรัฐฯ เข้ามาเป็นเหตุผลใหญ่

เอาเป็นว่า เมื่อตั้งหลักใหม่แล้ว โครงการที่จะเทเงินลงไปนั้น ก็ต้องคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่ใช้ป้องกันปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง การกระจายน้ำไปยังชุมชน พื้นที่เกษตร พัฒนาระบบประปา

หรือแม้แต่โครงการสร้างถนน พัฒนาถนน เพื่อแก้ปัญหาจราจร รวมไปถึงโครงการที่เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง การขนส่ง การแก้ไขจุดตัดระหว่างทางรถไฟและถนน การก่อสร้างจุดพักรถบรรทุก การพัฒนาถนนเชื่อมเมืองรอง

รวมไปถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การสร้างห้องน้ำ ห้องพัก ป้ายบอกทาง การอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว การติดตั้งกล้องซีซีทีวี หรือการสนับสนุนเงินงบประมาณให้กับกองทุนหมู่บ้าน เอสเอ็มแอล และอื่นๆ อีกหลายโครงการ

ก็ได้แต่หวังว่า เงินงบประมาณทั้ง 1.57 แสนล้านบาท ที่ส่วนหนึ่งก็เป็นเงินภาษีของคนไทยทั้งประเทศ จะไหลลงเข้าสู่ระบบ เพื่อหมุนให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้…อย่างแท้จริง !!

…………………………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img