โลกออน์ไลน์!! ร้อนเป็นไฟกันทันที หลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. ออกมาโยนไอเดียเตรียมดึง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” หรือ ลลิษา มโนบาล มาร่วมงานเคาท์ดาวน์ 2021 ที่จังหวัดภูเก็ต แถมยังเชิญ “อันเดรอา โบเซลลี” นักร้องโอเปร่าอันดับหนึ่งของโลกชาวอิตาลี มาเป็นแขกคนสำคัญในงานเคาท์ดาวน์ ที่กรุงเทพ
กระแสฮือฮาที่เกิดขึ้น ได้มุ่งความสนใจไปที่ “ค่าตัว” ของศิลปินระดับโลก ทั้ง 2 คน ว่า การใช้งบประมาณถึง 200 ล้านบาท เพื่อดึงดูดชาวโลก ครั้งนี้ คุ้มหรือไม่?
ท่ามกลาง…ความเดือดร้อนของประชาชนคนทั้งประเทศ ที่ยังอดอยากปากแห้ง จากพิษของไวรัส “เดลต้า” การใช้เงินงบประมาณก้อนใหญ่ จึงกลายเป็นคำถามสำหรับคนไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต เอง ต่างมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนมองว่าเงินงบประมาณที่ต้องเสียไป ควรนำมาก่อประโยชน์ให้กับคนไทยจะดีกว่าหรือไม่ ขณะที่บางคนก็มองว่า เป็นเรื่องดีที่กระตุ้นการท่องเที่ยวไทยอีกครั้ง
อย่าลืมว่า…ภูเก็ต คือเมือง “ไข่มุกแห่งอันดามัน” ซบเซามานานถึง 2 ปีด้วยพิษโควิด ทั้งที่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวอยู่แล้ว
เหตุใหญ่ใจความ ของ “ไอเดีย” ก็เพราะด้วยความดัง ของ “ลิซ่า” ในช่วงที่ผ่านมา จนเกิด “ลิซ่า ฟีเวอร์” แถมกินเนสส์บุ๊ก ยังประกาศเป็นทางการยกให้ “ลิซ่า” ทุบสถิติศิลปินหญิงเดี่ยว ยอดวิวยูทูบสูงสุดใน 24 ชม.
ในฐานะที่เป็นหน่วยงานต้องโปรโมทประเทศ มองว่า หากต้องการให้การท่องเที่ยวกลับมา และให้ประเทศไทยกลับไปอยู่ในจุดหมายปลายทางในการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์โลกให้ได้ ก็ต้อง “ทุ่มทุน” และ ฉวยจังหวะ ฉวยโอกาสนี้ ให้เกิดขึ้นให้ได้
ขณะที่รมว.ท่องเที่ยว อย่าง “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ได้ตอกย้ำและยืนยันว่า เรื่องนี้รัฐบาลเดินหน้าทำจริงจัง โดยติดต่อกับทางผู้ประสานงานกันแล้ว แม้ดูเหมือนว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้าง “แพง” ก็ตาม
แต่หากมาดูผลลัพธ์ ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยแล้ว… ถือว่าคุ้มค่า!! อย่างยิ่ง ทั้งในเชิงสังคม ในเชิงเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ในเชิงของการท่องเที่ยว
รมว.ท่องเที่ยว ชี้ให้เห็นถึงเหตุผล ว่า ต้องการเชิญ “ลิซ่า” มาให้เห็นเป็นตัวอย่างของ “ไอดอล” ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทย
ส่วน “อันเดรอา” ก็มีความพิเศษที่สร้างแรงบันดาลใจว่า… เป็นนักดนตรีที่มีความพิการ แต่ก็สู้จนมีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี โดยส่วนตัวมองในมิติที่ว่าทำอย่างไร? ให้เยาวชนไทยมีไอดอลที่ดี ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา นักแสดง นักร้อง เรื่องนี้ถือว่าคุ้ม
ที่สำคัญ…ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวของไทย!!
จะว่าไปแล้ว…การเชิญคนดังมาประเทศไทย ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เกิดขึ้นมาหลายครั้งหลายครา ไม่ว่าจะเป็นศิลปินเกาหลีดังจากวง 2PM ทั้งนิชคุณ และจุนเค ที่มาถ่ายทำรายการในไทย เพื่อโปรโมทท่องเที่ยว เมื่อปี 60
อย่าลืมว่า… รายได้จากการท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้สำคัญของประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนมากถึงเกือบ 20% ของจีดีพีของประเทศ โดยในปี 62 ที่เป็นช่วงก่อนโควิดระบาด ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 39.7 ล้านคน ซึ่งสร้างรายได้ให้มากกว่า 1.93 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 10% ของจีดีพีไทย และคิดเป็น 61% จากรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมด 2.99 ล้านล้านบาท
หรือ!! การดึงนักฟุตบอลทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์ เอฟ เอคัพ ทั้งเจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วีย์ บาร์นส และเคลิซี่ อิเฮียนาโซ่ มาร่วมบอกเล่าเรื่องราวแห่งความประทับใจในรอยยิ้มของคนไทย เพื่อโปรโมท “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”
ขณะที่ในปี 63 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สรุปตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน ลดลงจากปี 62 ถึง 83% และมีรายได้เพียง 3.32 แสนล้านบาท ลดลงจากปี 62 ถึง 82% โดยส่วนใหญ่เป็นยอดนักท่องเที่ยวที่สะสมตั้งแต่ช่วงต้นปีก่อนจะหายไปช่วงเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนในช่วงปลายปี
ส่วนปี 64 ททท.ออกมาประเมินว่า รายได้รวมจากการท่องเที่ยวเพียง 3.2 แสนล้านบาทเท่านั้น และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียงแค่ 1 แสนคน ซึ่งเป็นการประเมินที่ยังไม่ได้รวมนโยบายการเปิดประเทศ
เอาเป็นว่า ณ เวลานี้ ต่างฝ่ายต่างพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อให้ประเทศไทย “พลิกฟื้น” ขึ้นมาให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะนั่นหมายความ เมื่อประเทศมีรายได้ คนทั้งประเทศก็มี “รายได้” เพิ่มขึ้นไปด้วย
ส่วนจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า? ก็ต้องมารอดูกันว่า รัฐบาลจะไฟเขียวกับไอเดียนี้หรือไม่ก็เท่านั้น!!
……………
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo
