หวยแพง!!...กลายเป็นเรื่องปกติของคนไทยไปแล้ว แม้ว่าราคาหน้าสลากฯจะพิมพ์ไว้ให้เห็นโท่ง ๆ ว่า ราคาฉบับละ 80 บาทก็ตาม แต่เอาเข้าจริง แทบหาไม่ได้สักใบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็น “เลขเด็ด” ยิ่งหาไม่เจอด้วยซ้ำไป แถมราคาก็พุ่งปรี๊ดทะลุเพดานไปฉบับละ 120 บาท แต่ถ้าเป็นเลขเด็ดสุด ๆ บางงวดพุ่งทะลุเพดานไปฉบับละ 150 บาทเลยก็มี
เป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า…ปัญหาหวยแพง เกิดจากอะไร?
สาเหตุใหญ่มาจากการ “รวมชุด” ซึ่งตรงนี้ไม่มีใครปฎิเสธได้ แม้ผู้เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเอง ได้พยายามแก้ไขปัญหามาสารพัดวิธี สุดท้ายก็แก้ไม่ได้!!
ไม่เพียงเท่านี้ จากพิษของโควิดที่เข้ามาแบบไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน จนทำให้คนตกงานเป็นล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยที่หันมาทำอาชีพขายล็อตเตอรี่ จากเดิมที่มีอยู่ราว ๆ 2 แสนคน ก็เพิ่มขึ้นเป็น 4 แสนคน เรียกว่าเพิ่มขึ้นเท่าตัว
แม้จำนวนล็อตเตอรี่ในแต่ละงวดที่พิมพ์ออกมาจะมากถึงงวดละ 100 ล้านฉบับ ซึ่งถือว่าเต็มแม็กเต็มอำนาจของคณะกรรมการสลากฯ ไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยจำนวนพ่อค้าแม่ค้าที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว จึงทำให้สลากไม่เพียงพอกับคนขาย
ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของหลักเศรษฐศาสตร์ ในเรื่องของซัพพลาย์ ดีมานด์ ของมีน้อย แต่ความต้องการมีเยอะ สุดท้ายสินค้าก็ราคาแพงขึ้นเป็นทอด ๆ
ราคาทอดแรกที่สำนักงานสลากฯขายให้กับผู้ที่มีโควต้าที่ถูกต้องอยู่ที่ฉบับละ 70.40 บาท ลองคิดดูว่าราคาขายปลีกที่อยู่ในท้องตลาด เฉลี่ยแบบเพล์เซฟ ก็ตกฉบับละประมาณ 100 บาท
คิดดูแล้วกันว่า…คนที่ได้กำไรที่แท้จริงน่ะคือใคร? และยิ่งซ้ำร้าย!! เพราะบรรดา “ผู้มีอำนาจ” ต่างก็มีเอี่ยว มีส่วนเป็นเจ้าของโควต้าสลากฯ เข้าให้อีกด้วย
จึงไม่ต้องแปลกใจ!! ว่าทำไมบรรดาคนที่ต้องการเสี่ยงโชค ต้องควักกระเป๋าซื้อล็อตเตอรี่ในราคาแพงแสนแพง ต่อให้เป็นการเต็มใจจ่ายก็เถอะ เพราะไม่มีใครบังคับให้ซื้อสักหน่อย
ล่าสุด!! คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เคาะโรดแมพแก้ไขปัญหาหวยแพง ใน 3 ระยะ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยหมายมั่นปั้นมือว่า…สลากใบละ 80 บาทจะต้องมีอยู่จริง รวมทั้งยังเกิดคนขาย “ตัวจริง” อย่างชัดเจน
เริ่มจาก…การเพิ่มจุดขายล็อตเตอรี่ 80 บาท ให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั่วถึงมากขึ้น โดยต้องมีอำเภอละ 1-2 จุด รวมแล้วทั้งประเทศก็มีไม่เกิน 1,000 จุด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับบรรดา “คนอยากรวย”
วิธีการก็ดูแล้วไม่ยาก เพราะคนที่มีรายชื่อสำรองอยู่แล้วก็เข้ามาร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.นี้ ไปจนถึง วันที่ 24 ม.ค. ปีหน้า ก็คือให้เวลา 1 เดือน ซึ่งจะได้รับล็อตเตอรี่ไปขายงวดละ 25 เล่ม
แต่…เงื่อนไขสำคัญ คือสำนักงานสลากฯขอบังคับซื้อ-ขายผ่านทางแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เท่านั้น ดีเดย์งวดแรกกันตั้งแต่งวดวันที่ 2 พ.ค.ปีหน้า เป็นต้นไป
ไม่เพียงเท่านี้!! สำนักงานสลากฯ “รื้อ” โควต้าสลากครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี สำหรับผู้ที่มีสิทธิเดิมอยู่ประมาณ 71% ของจำนวนสลากฯ 100 ล้านฉบับที่พิมพ์ออกมาในแต่ละงวด
โดยครั้งนี้ได้กำหนดจำนวนผู้ที่ต้องการขายล็อตเตอรี่ประมาณ 2 แสนราย และเพื่อความแฟร์ ก็เปิดให้คนที่ถูกตัดสิทธิเดิมเข้ามามีโอกาสได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค. 65 เป็นต้นไป
กฎเกณฑ์ก็เหมือนเดิม คือได้สิทธิคนละ 5 เล่ม ในราคาต้นทุนฉบับละ 70.40 บาท เพื่อไปขายในราคาฉบับละ 80 บาท โดยจองซื้อผ่านธนาคารกรุงไทย เหมือนเดิม เริ่มขายงวดแรก ในเดือนพ.ค.65
อีกแนวทาง…ที่น่าจับตามองไม่น้อย คือการที่สำนักงานสลากฯจะเปิดแพลตฟอร์ตออนไลน์เอง เพื่อให้ผู้ที่มีสิทธิล็อตเตอรี่ 5 เล่ม สามารถนำมาฝากขายได้ ถือเป็นแพลตฟอร์มกลาง ที่จะขายสลาก 80 บาท โดยสลากตัวจริง อยู่ที่สำนักงานสลากฯ ส่วนผู้ซื้อจะได้เฉพาะตัวเลขเท่านั้น
แนวทางทั้งหมด มีเงื่อนไขสำคัญ คือ บรรดาผู้ที่มีอาชีพประจำ ทั้งข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ไม่มีเอี่ยวใด ๆ ทั้งสิ้น
ต่อให้ ณ เวลานี้ ใครหลายคนจะปรามาศว่า เดี๋ยวก็เข้าอิหรอบเดิม แต่ก็ถือว่าดีกว่าไม่ทำอะไรเลย!! ก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กันต่อไป
……….
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo
สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)