การทำให้ปั๊มน้ำมัน PTT Station เป็น Living Community ของ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ถูกส่งไม้ต่อจากผู้บริหารมา 3 รุ่นเห็นจะได้ ตั้งแต่ยังอยู่ภายใต้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
แรกเริ่มเพียงเพื่อมาบาลานซ์ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่กำไรน้อย ทำไปทำมาก็กลายเป็นเรือธงที่สร้างโอกาสใหม่ๆ เป็นอำนาจละมุน (Soft Power) ให้กับปตท.แหวกแนวคนขายน้ำมันมาขายกาแฟในยุคโน่น ใครจะคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้กับธุรกิจน้ำมัน และใครจะคิดว่าจะต่อยอดมาได้ไกล
มาถึงวันนี้ “ดิษทัต ปันยารชุน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR คนปัจจุบันที่เดินหน้าทำภารกิจ กับแนวคิด “RISE OR” ของเขา ที่มุ่งความเป็นรูปธรรม บนพื้นฐานของข้อมูลข่าวสาร และการผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. และทำด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ หมายถึง ทำแล้วผลสัมฤทธิ์ต้องกลับมา
ชัดเจนว่า “ดิษทัต” เน้นแอคชั่นประสานธุรกิจพลังงานและไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภค ทั้งด้าน offline และ online แล้วก็ DIVERSIFIED เพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ
ความมุ่งมั่นที่จะไปในธุรกิจหลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคเกิดผลจับต้องได้ ขณะที่เศรษฐกิจไทยเรียกว่าซบเซา แต่จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 OR มีรายได้ขายและบริการ 183,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,055 ล้านบาท หรือ 3.4% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นการปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ กลุ่มธุรกิจ Mobility เพิ่มขึ้น 2.6% กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้น 1% จากทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ กลุ่มธุรกิจ Global ปรับเพิ่มขึ้น 23.2% ตามปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์และกัมพูชา
ที่บอก OR ลงมือทำชัดเจนเป็นอย่างนั้นเลย เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ตอนเปิด สถานี ‘พีทีที สเตชัน วิภาวดี 62’ ปั๊มน้ำมันแฟล็กชิป ที่ OR ทุ่มทุนไปกว่า 600 ล้านบาท บนพื้นที่ 10 ไร่เป็นปั๊มโชว์รูม ที่ทำให้เห็นว่ามีร้านรวงอัดแน่นกว่า 30 แบรนด์เป็นเช่นไร
“ดิษทัต” เคยบอกไว้ตอนนั้นว่า กำลังดีลกับญี่ปุ่น-เกาหลี เพื่อทะยานไปสู่ กลุ่มธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health and Beauty) จากการมองโอกาสที่ไทยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วก็จะเป็นอีกธุรกิจน้องใหม่ที่จะเอามาลงในปั๊ม
เห็นอีกที OR ก็เปิดตัวร้าน “found & found” แล้ว เป็นร้านค้าปลีกใหม่ที่ขายสินค้าด้านสุขภาพและความงามหลากหลาย ทั้งเครื่องสำอาง สกินแคร์ อาหารเสริม และวิตามิน จากในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยตั้ง บริษัท โออาร์ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส จำกัด (ORHW) มาเดินหน้าในธุรกิจนี้อย่างจริงจัง มีการจับมือกับ บริษัท SUGI Holdings หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจเครือข่ายร้านขายยาและผู้นำด้านแพลตฟอร์มนาโนเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดจากญี่ปุ่นนำเข้าแบรนด์คุณภาพ และร่วมมือกับ บริษัท Konvy ผู้นำด้านบิวตี้อีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ของไทยเข้ามาบริหารจัดการสินค้าระบบ Supply Chain, ระบบคลังสินค้า และนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพจากแบรนด์ดัง
หลายคนคงบอกว่า ท่ามกลางการแข่งขันของสุขภาพและความงามที่ดุเดือดขนาดนี้ “ร้าน found & found” จะสู้ได้หรือ? แต่ OR มั่นใจด้วยการจับมือกับพันธมิตร ที่ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาใกล้เคียงกับการช้อปที่ประเทศต้นทาง มีการนำระบบ CRM ที่เชื่อมต่อกับระบบสมาชิก blueplus+ ที่มีสมาชิกกว่า 8-9 ล้านราย ซึ่งปัจจุบันใช้งานบนแอปพลิเคชั่น xplORe มีการสะสมแต้มและแลกส่วนลดไปมาในทุกๆธุรกิจภายใต้แบรนด์ OR แบบเติมน้ำมันแล้วก็สะสมแต้มแลกส่วนลดไปมาตั้งแต่เครื่องดื่มใน Café Amazon, Texas Chicken, Jiffy, Pearly Tea และ FIT Auto รวมถึงร้านค้าอื่นๆ ที่อยู่ในปั๊มแล้วก็เอามาสะสมแต้มเป็นส่วนลดในร้าน found & found ได้ด้วย
ส่วนการขยายสาขาไม่ต้องห่วงพรึ่บพรั่บแน่นอน เพราะ “ร้าน found & found” มีพื้นที่ขยายแน่ๆในปั๊ม PTT Station ที่มีกว่า 2,256 แห่ง (ตัวเลข ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) ตอนนี้มีแล้ว 3 สาขา มีแผนจะเปิดให้บริการครบ 10 สาขาภายในปี 2567 และขยายเป็น 500 สาขาภายในปี 2573 เรียกได้ว่าใช้ Asset ของ OR ให้เกิดประโยชน์จริงๆ
อีกธุรกิจนอกจากความงามคือ ธุรกิจบริการ ที่ต้องลุ้นกันต่อยังไม่จบดีลกันง่ายๆ แต่อย่างที่บอกยุคนี้มีแอคชั่นให้เห็นแน่นอนในเร็ววัน คือ โรงแรมราคาประหยัด (Budget Hotel) ซึ่งอยู่ระหว่างคัดเลือกพันธมิตร “ดิษทัต” บอกปีนี้จะเป็นรูปร่างเสียที ที่ไม่ง่ายเพราะต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในการเดินทางในอนาคตซึ่งต้องมองให้ขาดว่ายุคนี้ยุคหน้าเขาจะใช้บริการที่พักโรงแรมกันอย่างไร
แน่นอนไม่ใช่แค่ทางกายภาพที่ต้องดีงามตามท้องเรื่องคนรุ่นใหม่ แต่ระบบเทคโนโลยีหลังบ้านก็ต้องแน่นด้วย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัลที่มาจากหลากหลายประเทศไม่ใช่คนไทยอย่างเดียว ที่สำคัญความเป็นสากลต้องมี หมายถึงต้องดีงามขนาดสามารถจับเป็นแฟรนไชส์ และขยายไปตั้งที่อื่นๆ ได้ด้วยทั้งในและนอกประเทศเหมือน Café Amazon หรือ ร้าน found & found
ก็คงพอจะเห็นแล้วว่าสิ่งที่ OR คิดและทำไปด้วยกัน “ไม่ได้โม้” ภาพวันนี้ของ PTT Station ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับเติมน้ำมัน หรือชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว คนเติมน้ำมันจะรู้ดีว่าตอนนี้เข้าปั๊ม PTT Station ไม่ได้ตั้งใจไปเติมน้ำมันบ่อยไป เพราะปั๊มรองรับไลฟ์สไตล์มากขึ้น
ไม่หยุดเท่านี้ อะไรที่เป็นเทรนด์หรือเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และสามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ OR ก็คงทำแน่นอน ซึ่งเร็วๆ นี้ OR มีแผนจะเปิดตัว ธุรกิจ Community Space เพื่อทลายข้อจำกัด ก็จะไม่ได้เป็นส่วนประกอบของสถานีบริการน้ำมัน แต่เอาความเชี่ยวชาญของ OR มาบริหารจัดพื้นที่ที่มีศักยภาพนอก PTT Station เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตามเป้าหมาย
ด้วย Community Space กำลังมาแรงแล้วก็หลากหลายคอนเซปต์ OR จะเอาอะไรมาดึงดูดก็ลุ้นกันหน้าดู แต่คร่าวๆ ต้องมีแน่ๆ คือ ทำเลลึกลับหน่อยหนึ่ง ตกแต่งด้วยโทนสีสันน่ารัก และทุกมุมถ่ายรูปได้ มีของกินอร่อยๆ สวยๆ ชิคๆ ตอบโจทย์ Gen ใหม่ มีลานกิจกรรมให้คนมาใช้บริการวนไปได้ทั้งวัน อาจเป็นที่พักด้วยในบางพื้นที่ก็เป็นได้ ต้องตามกันว่า OR จะผสมผสานอะไรเข้าไปบ้างที่ช่วยให้ความเป็น PTT เป็นเนื้อเดียวกับผู้บริโภคมากขึ้น ให้ OR เข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คนได้อย่างแท้จริง
…………………………
คอลัมน์ : เข็มทิศพลังงาน
โดย….“สัญญา สายัน”
สนับสนุนคอลัมน์ โดย : บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)