วันศุกร์, มิถุนายน 6, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSซาก“แผงโซลาร์เซลล์”จะไปไหนต่อ?
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ซาก“แผงโซลาร์เซลล์”จะไปไหนต่อ?

เมื่อความนิยมในการใช้ “โซลาร์เซลล์” ผลิตไฟฟ้ามากขึ้นๆ ก็เริ่มมี “แผงโซลาร์เซลล์” ถูก “ปลดระวาง” เช่นกัน!!

ข้อมูลจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) คาดว่า ทั่วโลกจะมีจำนวนแผงโซลาร์เซลล์ทยอยหมดอายุมากถึง 78 ล้านตัน ภายในปี พ.ศ.2593 ส่วนประเทศไทยอาจมีมากถึง 4 แสนตัน สำหรับสหรัฐฯจะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่หมดอายุการใช้งานมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รวมประมาณ 10 ล้านตันในปีนั้น

ในหลายประเทศมีกฎระเบียบและการจัดการออกมาบังคับใช้อย่างจริงจังแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่า “แผงโซลาร์เซลล์” นั้นจะ “ถูกจัดการอย่างเหมาะสม” และได้รับการ “รีไซเคิล” หรือ “กําจัดอย่างปลอดภัย”

อย่างไรก็ตาม “แผงโซลาร์เซลล์” ก็ไม่ได้เป็น “ขยะ” ทั้งหมด สามารถนำมารีไซเคิลได้ แต่ต้องทำโดยกระบวนการที่ได้มาตรฐาน เพราะมีของเสียอันตราย ทั้งต่อคนและสิ่งแวดล้อมบนแผงโซลาร์เซลล์ เช่น ตะกั่วและแคดเมียม แผงโซลาร์เซลล์ที่ถูกทิ้งเป็นขยะมูลฝอย จึงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเคร่งครัด

ในสหรัฐฯมีกฎระเบียบภายใต้ พระราชบัญญัติการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากร (RCRA) เพื่อควบคุมการจัดการแผงโซลาร์เซลล์ให้รีไซเคิลหรือกําจัดอย่างปลอดภัย และเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2566 สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency : EPA) ได้ประกาศว่า จะออกกฎใหม่ เพื่อปรับปรุงการรีไซเคิลและการจัดการแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่ลิเธียมที่หมดอายุการใช้งาน โดย EPA กําลังพัฒนากฎเพื่อเพิ่มมาตรฐานการจัดขยะ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัย และลดไฟไหม้ จากแบตเตอรี่ลิเธียมที่หมดอายุการใช้งาน

ขณะเดียวกันในแต่ละรัฐในสหรัฐฯได้ออกกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อ “ขยะแผงโซลาร์เซลล์” แล้ว อาทิ ข้อบังคับการกำหนดให้แผงโซลาร์เซลล์เป็นขยะที่ถูกควบคุม ในฮาวาย (State Universal Waste Regulations for Solar Panels), การจัดตั้งคณะกรรมการรีไซเคิลแผงโซลาร์เซลล์ ของรัฐนิวเจอร์ซีย์ (State Universal Waste Regulations for Solar Panels) หรือโครงการดูแลและนำคืนโมดูลไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ของรัฐวอชิงตัน (Photovoltaic Module Stewardship and Takeback Program) เป็นต้น

สำหรับ บ้านเรา กรมโรงงานอุตสาหกรรม มีการควบคุมภายใต้ กฎหมาย 2 ฉบับคือ พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งได้รวมแผงโซลาร์เซลล์เป็นหนึ่งในของเสียอันตราย โดยกำหนด “โซลาร์ฟาร์ม” เข้าข่ายเป็นโรงงาน ลำดับที่ 88 (1) การจะนำแผงโซลาร์เซลล์ซึ่งหมดประสิทธิภาพ หรือประสิทธิภาพลดลง ออกไปภายนอกโรงงาน จะต้องเป็นไปตามขั้นตอนการขออนุญาต ต้องดําเนินการฝังกลบในหลุมฝังกลบของเสียอันตราย หรือเผาทําลายด้วยเตาเผาเฉพาะของเสียอันตราย หรือจัดการโดยวิธีอื่นโดยให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย

แล้วก็มีการเปิดโอกาสให้มีการนำไปใช้ต่อ โดยหากแผงยังมีประสิทธิภาพมากกว่า 70% ให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ หากจะนำไปบริจาคให้กับชุมชน โรงเรียน วัด หรือ พื้นที่ห่างไกล ก็ให้มีหนังสือยินยอมจากหน่วยงานภายในท้องถิ่นว่าพร้อมรับการบริจาคหรือไม่  แล้วกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะพิจารณาการขนย้าย แผงโซลาร์เซลล์นั้นจึงจะถูกนำไปใช้อีกครั้งในพื้นที่ที่รับบริจาค

ส่วน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ก็มีมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องผ่านคณะกรรมการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งกำหนดประเภทของซากขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยซากแผงโซลาร์เซลล์อยู่ในประเภทที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแล

แม้จะมีหลายหน่วยงานมาช่วยกันดู แต่ยังน่าห่วง เพราะดูเผินๆ ก็มีการเตรียมวางระบบการควบคุมไว้แล้ว แต่ตอนนี้บ้านเรือนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา หรือ “โซลาร์รูฟ” กันเยอะ เพราะใครๆ ก็อยากลดค่าไฟ แต่จำนวนมาก ติดกันเอง โดยช่างในชุมชน การจ้างบริษัทมาติดตั้งหลักแสน คงเป็นไปไม่ได้สำหรับบ้านเรือนคนทั่วไป แล้วหากแผงเหล่านั้นหมดอายุการใช้งาน หรือพัง เห็นอนาคตไม่ไกลว่า จะไปกองรวมกับขยะมูลฝอยชุมชนแน่นอน ซึ่งอย่างที่ทราบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบการคัดแยกและกำจัดขยะอย่างถูกวิธี

“มาดี” แต่ “เวลาพัง” เห็นภาพเลยว่า “แผงโซลาร์” อาจตกอยู่ในมือ “ซาเล้ง” หรือ “คนเก็บขยะยังชีพ” แล้วก็มีโอกาสเกิดเหตุอันตราย อย่างที่เราเคยเห็นกันในเคส “แกะแยกขยะ” ที่เก็บมาได้เพื่อเอาไปขาย

อีกอย่าง ตอนนี้ประเทศไทยยังไม่เห็นมี “โรงงานกำจัดซากแผงโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะ” อาจจะมีโรงงานรีไซเคิลแผงโซลาร์เซลล์แล้ว โดยนำแผงใช้แล้วมาเปลี่ยนเซลล์ เพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ ส่วนแผ่นโซลาร์เซลล์ที่หมดอายุ การส่งคืนผู้ผลิตต่างประเทศ คงจะได้เห็นกันน้อยในโรงงานมาตรฐานขนาดใหญ่ๆ เท่านั้น ที่จะได้เห็นการกำจัดอย่างดี ก็นำมาบดย่อยและฝังกลบในหลุมฝังกลบกากอุตสาหกรรม ที่จะเห็นมากกว่าคือ ทิ้งตามกองขยะ

ในส่วนของ กระทรวงพลังงาน ซึ่งออกโรงใหญ่ส่งเสริมให้ประชาชนติดโซลาร์เซลล์บนหลังคาอย่างเต็มที่ ก็กำลังออก ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. … เพิ่งผ่านการรับฟังความเห็นไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บทหนึ่งให้ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน วางบทการควบคุมซากโซลาร์เซลล์ไว้ว่า “ในส่วนของการจัดตั้งสถานรวบรวมซากอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือสถานกำจัดซากอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ต้องยื่นขออนุญาตต่ออธิบดีกรมฯ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจเข้าไปในสถานที่ติดตั้งเพื่อตรวจสอบการติดตั้งกรณีที่ทราบ หรือได้รับแจ้งว่าการติดตั้งไม่เป็นไปตามที่กำหนดหรืออาจก่อให้เกิดอันตราย”

ก็หวังว่า “หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” จะช่วยกันดูแลกันจริงจัง เพราะการปล่อยให้ “ซากแผงโซลาร์เซลล์ถูกทิ้งเป็นขยะชุมชน” ก็เหมือน “ประจานข้อผิดพลาด” ของ “หน่วยงานรัฐ” ที่ส่งเสริมประชาชนติดตั้งโซลาร์เซลล์ แต่ไร้ประสิทธิภาพการบริหารจัดการทั้งระบบ

ที่สำคัญขอให้ช่วยดูด้วยว่า การเปิดให้มีการทำโครงการ CSR บริจาคแผงโซลาร์เซลล์ของโรงงาน จะไม่เป็นการเปิดทางให้โละแผงโซลาร์ที่ใช้ได้บ้าง-ไม่ได้บ้าง ไปให้ชุมชน วัด โรงเรียน หรือเกษตรกร ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับ “ย้ายขยะพิษ” จาก “ผู้ประกอบการ” ไปให้ “ชุมชน”

งานนี้การเอากฎระเบียบไปควบคุมไม่น่าจะรอดเหมือนเรื่องอื่นๆ ต้องเล่นด้วย “มาตรการจูงใจผู้ประกอบการ” เพื่อส่งเสริมให้เข้าไปทำโครงการร่วมกับ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” น่าจะพอเห็นทางที่ “ซากแผงโซลาร์เซลล์” จะถูกดูแลอย่างแท้จริงมากกว่า

…………….

คอลัมน์ : เข็มทิศพลังงาน

โดย…“ศรัญญา ทองทับ”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img