Energy Transition & Tracking World Energy 2023
“…..ภาคพลังงาน Energy Sector ยังคงเป็นสาเหตุหลักของอากาศเสียที่ประชากรโลกมากกว่า 90 % ถูกบังคับให้ต้องหายใจเข้าไป ซึ่งเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี ..”
ภาพรวมสถานการณ์เปลี่ยนผ่านพลังงานโลก Global Energy Transition เพื่อไปสู่การบริโภคพลังงานสะอาด Clean Energy เป็นหลักแทนที่แหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuel Sources สำหรับระบบเศรษฐกิจ และสังคมของมนุษยชาติทั่วโลก ในปี 2566 นั้น พบว่า แรงกดดันที่เกิดขึ้นทันทีบางส่วนจากวิกฤติพลังงานโลก Global Energy Crisis ได้ผ่อนคลายลงแล้ว แต่ตลาดพลังงาน Energy Markets, ภูมิศาสตร์รัฐศาสตร์ Geopolitics และเศรษฐกิจโลก Global Economy ยังคงไม่สงบเสถียร และมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชะงักงันเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา ..
ราคาเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuel Prices ลดลงจากจุดสูงสุดในปี 2565 แต่ตลาดยังมีความตึงเครียด และผันผวน .. การสู้รบอย่างต่อเนื่องในยูเครน นานกว่าหนึ่งปีหลังจากการบุกของรัสเซีย ขณะนี้ การสู้รบ และความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลางก็ตามมาพร้อมด้วย .. บรรยากาศสำหรับเศรษฐกิจมหภาค Macro – Economic Mood มีแนวโน้มตกต่ำ โดยมีอัตราเงินเฟ้อที่ตึงตัว Stubborn Inflation, ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น Higher Borrowing Costs และระดับหนี้ที่สูงขึ้น Elevated Debt Levels คือ ประเด็นของความไม่แน่นอน ..
ปัจจุบัน อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 1.2oC เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ทำให้เกิดคลื่นความร้อน และเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วอื่นๆ รวมทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้น ยังสูงขึ้นไปไม่ถึงจุดสูงสุด .. ภาคพลังงาน Energy Sector ยังคงเป็นสาเหตุหลักของอากาศเสียที่ประชากรโลกมากกว่า 90% ถูกบังคับให้ต้องหายใจเข้าไป ซึ่งเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี .. แนวโน้มเชิงบวกในการปรับปรุงการเข้าถึงกำลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Renewable Electricity และการปรุงอาหารที่สะอาด Clean Cooking ได้ชะลอตัวลงในบางประเทศ หมายถึง มาตรการ และแผนงานต่าง ๆ ของนานาชาติสำหรับการเปลี่ยนผ่านพลังงานโลก Global Energy Transition ยังเดินหน้าไปไม่ถึงจุดเล็งเป้าหมายเป็นศูนย์สุทธิ Net Zero Goals ตามที่พวกมันควรจะเป็น ..
ท่ามกลางสถานการณ์ความมั่นคงทางพลังงานโลกที่ซับซ้อนนี้ การปรากฏตัวที่เกิดขึ้นของเศรษฐกิจพลังงานสะอาด Clean Energy Economy รูปแบบใหม่ ซึ่งนำโดยพลังงานแสงอาทิตย์ Solar PV และยานพาหนะไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs ทำให้เกิดความหวังสำหรับหนทางข้างหน้า .. การลงทุนในพลังงานสะอาด Investment in Clean Energy เพิ่มขึ้น 40% ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา .. การผลักดันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คือ เหตุผลสำคัญ แต่ไม่ใช่เหตุผลเดียวเท่านั้น .. ในกรณีประเด็นทางทางเศรษฐกิจสำหรับเทคโนโลยีพลังงานสะอาด Clean Energy Technologies ที่เติบโตเต็มที่นั้น พวกมันมีความแข็งแกร่งในระดับสูงยิ่งเพื่อค้ำยันโครงการสำคัญๆ ต่างๆ ทั้งของภาครัฐ เอกชน และชุมชนในกระบวนการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด Clean Energy Transition นี้ ขณะที่ความมั่นคงด้านพลังงาน Energy Security ก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศผู้นำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ เช่นเดียวกับกลยุทธ์ทางอุตสาหกรรม และความปรารถนาที่จะสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ อีกมากมายหลายล้านตำแหน่งทั่วโลกในด้านพลังงานสะอาด Clean Energy Jobs หรือที่เรียกว่า งานสีเขียว Green Jobs รวมถึงการพัฒนาแหล่งเงินทุนสีเขียว Green Finance มาพร้อมด้วย ..
อย่างไรก็ตาม มิใช่เทคโนโลยีสะอาด Clean Technologies จะเจริญเติบโตรุ่งเรืองไปเสียทั้งหมด ห่วงโซ่อุปทานบางส่วนโดยเฉพาะด้านพลังงานลม Wind Energy ยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน แต่ก็มีตัวอย่างที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วขึ้นมาก เช่น ในปี 2563 รถยนต์เพียง 1 ใน 25 คันที่ขายได้นั้น เป็นรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs แต่ในปี 2566 ซึ่งหมายถึง สัดส่วนขณะนี้ ได้กลายเป็น 1 ใน 5 ไปเรียบร้อยแล้ว ผนวกกับการเพิ่มกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียน Renewables Generation ให้เป็นมากกว่า 500 GW ในปี 2566 นี้ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ที่ยอดเยี่ยม ..
ทั่วโลก มีการใช้จ่ายเงินมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อวันสำหรับการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ Solar PV Deployment ในสถานที่ต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย .. กำลังการผลิตส่วนประกอบสำคัญของระบบพลังงานสะอาดสีเขียว Green & Clean Energy System รวมถึงโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ Solar PV Modules และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า EV Batteries กำลังขยายตัวรวดเร็วอย่างมีนัยสำคัญ .. แรงผลักดันนี้ คือ สาเหตุที่สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ International Energy Agency : IEA ได้สรุปเมื่อเร็ว ๆ นี้ในแผนงาน Net Zero Roadmap ที่ปรับปรุงล่าสุดว่า เส้นทางในการจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5oC นั้น ยากมากก็จริงอยู่ แต่โอกาสก็ยังคงเปิดกว้างอยู่อย่างมากมายเช่นกัน ..
ความก้าวหน้าด้านพลังงานสะอาด Clean Energy Progress ปี 2566 ..
การติดตามความก้าวหน้าของการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด Tracking Clean Energy Progress : TCEP หมายถึง การประเมินพัฒนาการล่าสุดสำหรับส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องมากกว่า 50 ส่วนในระบบพลังงาน Energy System ที่มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด Clean Energy Transitions .. ส่วนประกอบที่ได้รับการประเมิน ได้แก่ ภาคส่วน Sectors, ภาคส่วนย่อย Subsectors, เทคโนโลยี Technologies, โครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure, ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน Energy Efficiency และกลยุทธ์แบบตัดขวาง Cross-Cutting Strategies เป็นต้น ..
สถานการณ์จำลองการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ International Energy Agency : IEA ภายในปี 2593 หรือ Net Zero Emissions by 2050 Scenario คือ แนวทางสำหรับภาคพลังงานทั่วโลก Global Energy Sector ที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์สุทธิ Net Zero CO2 Emissions ภายในปี 2593 ในขณะเดียวกันก็บรรลุการเข้าถึงแหล่งพลังงานสะอาดสีเขียว Green & Clean Energy Sources อย่างทั่วถึงได้ ภายในปี 2573 และรวมถึงการปรับปรุงคุณภาพอากาศเป็นสำคัญ Major Improvements in Air Quality ไปพร้อมด้วย ..
ความคืบหน้าได้รับการประเมินในระดับโลกเทียบกับเส้นทางศูนย์สุทธิ Net Zero Pathway ภายในปี 2593 เพื่อให้ไปถึงหลักเล็งในสถานการณ์จำลองสำหรับปี 2573 มีคำแนะนำ และข้อเสนอการดำเนินมาตรการต่างๆ ว่า ประชาคมโลก จะสามารถ “อยู่บนเส้นทาง On Track” ตามเส้นทาง Pathway นี้ได้อย่างไร .. ส่วนที่ได้รับการประเมิน ได้แก่ เทคโนโลยี Technologies, โครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure, ภาคส่วน Sectors, ภาคส่วนย่อย Subsectors และกลยุทธ์แบบตัดขวาง Cross-Cutting Strategies นั่นเอง ..
การติดตามความก้าวหน้า ในปี 2566 นี้นั้น ได้รับการประเมินผลการดำเนินงานโดยสมบูรณ์ด้วยเกณฑ์สถานการณ์จำลอง Net Zero Scenario Trajectory ภายในปี 2593 ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ Solar PV, ยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs และระบบไฟส่องสว่าง Lighting .. ตัวอย่างพัฒนาการในส่วนของพลังงานแสงอาทิตย์ Solar PV นั้น พบว่า การเติบโตต่อปีในปี 2565 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 26% สอดคล้องกับอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่จำเป็นตั้งแต่วันนี้จนถึงปี 2573 ตามสถานการณ์จำลอง Net Zero Scenario ..
อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าในการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด Clean Energy Technology Deployment ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว ในปี 2565 ต่อเนื่องมาถึงปี 2566 .. แม้ว่าองค์ประกอบหลายอย่างจะยังไม่เป็นไปตามแนวทางอย่างสมบูรณ์ในระดับโลกก็ตาม แต่แนวโน้มโมเมนตัม และแรงผลักสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาด Clean Energy Economy กำลังเร่งตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ..
ทั้งนี้ ประเด็นตัวอย่างความก้าวหน้าที่สำคัญบางส่วน ในปี 2565 จนถึงปี 2566 นั้น มีให้เห็นได้ชัดเจนเชิงประจักษ์ ดังนี้ :-
– ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle: EV Sales เติบโตอยู่ที่ 55% ทำสถิติสูงสุดทะลุ 10 ล้านคัน และเป็นครั้งแรกที่ศักยภาพกำลังการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า Manufacturing Capacity for Electric Vehicle : EV Batteries นั้น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการที่คาดหวัง ในปี 2573 บนเส้นทาง On Track ตามสถานการณ์ Net Zero Scenario ..
– กำลังการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ Nuclear Capacity เพิ่มขึ้น 40% โดยการติดตั้งใหม่ 8 GW แม้ว่าจะต้องมีการใช้งานที่สูงขึ้นในสถานการณ์ Net Zero Scenario แต่การเติบโตในปี 2565 ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าที่ชัดเจน หลังจากที่การเพิ่มกำลังการผลิตยังคงมีเสถียรภาพ ตั้งแต่ปี 2562-2564 เป็นต้นมา ด้วยปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นหลังที่ปลอดภัยกว่าในอดีต ..
– ปั๊มความร้อน Heat Pumps สร้างสถิติใหม่ต่อปีด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 11% ซึ่งใกล้เคียงกับการเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปีที่จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ Net Zero Scenario อย่างเต็มที่ ..
– ศักยภาพกำลังการผลิต ความจุ และการติดตั้งอุปกรณ์แยกน้ำเพื่อผลิตไฮโดรเจน Hydrogen: H2 ด้วยกำลังไฟฟ้า หรือ Electrolyser Installed Capacity เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในขณะที่กำลังการผลิต Electrolyser Manufacturing Capacity เพิ่มขึ้นมากกว่า 25% .. เรื่องราวพัฒนาการเกี่ยวกับเศรษฐกิจไฮโดรเจน Hydrogen Economy ที่ใหญ่กว่านั้น มีแนวโน้มว่าจะยังมาไม่ถึงเร็วนัก เมื่อพิจารณาจากโครงการปัจจุบันที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และวันดำเนินการตามแผนงานที่คาดหวัง อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตพลังงานจากอิเล็กโทรไลเซอร์ Electrolyser Capacity อาจสูงถึงเกือบ 3 GW ได้ภายในสิ้นปี 2566 นี้ ซึ่งหมายถึง ศักยภาพของพวกมันจะเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าของกำลังการผลิตพลังงานไฮโดรเจน Hydrogen Energy โดยรวม เมื่อเทียบกับปี 2565 ..
– ผลการติดตามความความก้าวหน้าที่สำคัญสำหรับประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเศรษฐกิจโดยรวม Energy Efficiency of the Economy Overall เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าของปีที่ผ่านมา และนี่คือก้าวสำคัญเชิงบวก หลังจากขั้นตอนความพยายามในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน Energy Efficiency Improvements ที่ค่อนข้างอ่อนแอมานานก่อนหน้านี้หลายปี ..
อย่างไรก็ตาม สรุปในภาพรวมได้ว่า ความก้าวหน้าเกิดเร็วขึ้นในส่วนของระบบพลังงาน Energy System ซึ่งมีการใช้งานเทคโนโลยีสะอาด Clean Technologies อยู่แล้ว และต้นทุนก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เช่น การผลิตกำลังไฟฟ้า Electricity Generation และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล Passenger Cars .. แต่การเปลี่ยนแปลงไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์สุทธิ Net Zero Emissions โดยสมบูรณ์จะต้องมีการลดคาร์บอนสำหรับการผลิต และการใช้พลังงานในทุกด้าน จำเป็นต้องมีนวัตกรรมที่รวดเร็วเพื่อนำเทคโนโลยีสะอาดออกสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะในส่วนของระบบพลังงานที่จัดการกับการปล่อยคายมลพิษได้ยาก เช่น อุตสาหกรรมหนัก Heavy Industry และการขนส่งทางไกลสำหรับงานหนัก Heavy-Duty Long-Distance Transport .. ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการก้าวไปข้างหน้าในด้านนวัตกรรมในเชิงบวก แต่จำเป็นต้องมีการเร่งดำเนินการเพื่อก้าวไปสู่การปรับใช้เทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ Low Emission Technologies รูปแบบใหม่ ๆ ในพื้นที่เหล่านี้ ..
การเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition ยังเกิดขึ้นด้วยความเร็วที่แตกต่างกันไปตามภูมิภาค และภาคส่วนต่างๆ ตัวอย่างเช่น ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเกือบ 95% ในปี 2565 เกิดขึ้นในประเทศจีน สหรัฐฯ และยุโรป ในขณะเดียวกัน เกือบ 75% ของความสามารถในการดักจับคาร์บอน Carbon Capture Capacity ทั้งที่ดำเนินงาน และตามแผน ส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาเหนือ และยุโรป ด้วยเหตุนี้ การประเมินทั่วโลกว่า เทคโนโลยี “อยู่บนเส้นทาง On Track” หรือไม่นั้น อาจไม่ได้หมายความว่า เทคโนโลยีนั้น เดินหน้าเป็นไปตามแผนในทุกประเทศเสมอไป และในทางกลับกัน เทคโนโลยีที่ “ยังไม่อยู่บนเส้นทาง Not on Track” ทั่วโลก อาจมีความก้าวหน้าเร็วขึ้นในบางประเทศโดยเฉพาะ ความร่วมมือระหว่างประเทศที่ดียิ่งขึ้น และการพัฒนานโยบายภาครัฐของแต่ละชาติที่แข็งแกร่ง คือ สิ่งจำเป็นยิ่งยวดที่ขาดไม่ได้ เพื่อเผยแพร่ให้เป็นตัวอย่างความก้าวหน้าไปยังทุกๆ ภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งต้องการแรงผลักมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ..
โลกของพลังงานยังคงเปราะบาง แต่มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงความมั่นคงด้านพลังงาน Energy Security และจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Tackle GHGs Emissions ..
การเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition ยังคงอยู่นอกเส้นทาง Off-Track .. ผลพวงของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และผลกระทบจากวิกฤติการณ์ในยูเครน ยิ่งทวีความท้าทายที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนี้ .. เดิมพันไม่อาจสูงไปกว่านี้ได้ ทุกๆ เสี้ยวหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นนั้น สามารถก่อให้เกิดผลกระทบที่สำคัญ และถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อระบบธรรมชาติ Natural Systems, สังคมมนุษย์ Human Societies และระบบเศรษฐกิจ Economies ในอนาคต ..
เส้นทางสู่อุณหภูมิโลกเฉลี่ยที่จุดเล็ง 1.5oC ด้วยมาตรการในปัจจุบันนั้น ได้รับการคาดหมายว่าจะยังส่งผลให้เกิดช่องว่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Greenhouse Gas Emission อยู่ที่ปริมาณอย่างน้อย 16 GT ในปี 2593 .. การมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนงานระดับประเทศ Nationally Determined Contributions : NDC, กลยุทธ์การพัฒนาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับต่ำในระยะยาว Long-Term Low Greenhouse Gas Emission Development Strategies : LT-LEDS และเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ Net-Zero Targets นั้น หากดำเนินการอย่างเต็มที่ จะสามารถลดการปล่อย CO2 ได้ 6% ภายในปี 2573 และ 56% ภายในปี 2593 เทียบกับระดับปี 2565 ..
อย่างไรก็ตาม คำมั่นสัญญาด้านสภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่ของแต่ละประเทศ ยังไม่ได้รับการแปลงไปสู่ยุทธศาสตร์ และแผนงานระดับชาติโดยละเอียด ซึ่งดำเนินการผ่านนโยบายภาครัฐ และข้อบังคับ หรือได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนที่เพียงพอ .. อ้างถึงข้อมูลแผนงาน Planned Energy Scenario ของ IRENA คาดว่า ช่องว่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน Energy-Related Emissions Gap อาจจะสูงถึง 34 GT ภายในปี 2593 ด้วยซ้ำไป ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการดำเนินมาตรการที่ครอบคลุมกว่าที่เป็นอยู่นี้ เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition ให้บรรลุความสำเร็จได้ ..
การปรับเปลี่ยนไปใช้กำลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Renewable Power ประมาณ 1,000 GW ต่อปี เพื่อให้คงอุณหภูมิไว้ที่ 1.5oC คือ ความจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้ .. ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีการเพิ่มกำลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Renewable Electricity ประมาณ 300 GW ทั่วโลก คิดเป็น 83% ของกำลังการผลิตใหม่ เทียบกับส่วนแบ่ง 17% สำหรับการผนวกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuels และนิวเคลียร์ Nuclear รวมกัน .. หมายถึง ทั้งปริมาณ และส่วนแบ่งของพลังงานหมุนเวียน Renewables จำเป็นต้องเติบโตขึ้นอีกอย่างมาก ซึ่งมีความเป็นไปได้ในทางเทคนิค และในเชิงเศรษฐกิจ ..
อย่างไรก็ตาม มนุษยชาติ ยังสามารถกลับเข้าสู่เส้นทาง On Track ที่จะเห็นเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมดไปถึงจุดสูงสุด และลดลงไปได้ ก่อนปี 2573 ได้อย่างแน่นอน หากนานาชาติยังคงดำรงความมุ่งมั่นต่อไป .. ผลพวงมรดกจากวิกฤติพลังงานโลก Legacy of the Global Energy Crisis อาจนำไปสู่การเริ่มต้นของการสิ้นสุดยุคเชื้อเพลิงฟอสซิล Beginning of the End of the Fossil Fuels Era .. แรงผลัก และโมเมนตัมที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสะอาด Clean Energy Transitions ในขณะนี้เพียงพอสำหรับทั่วโลก .. ความต้องการถ่านหิน Coal, น้ำมัน Oil และก๊าซธรรมชาติ Natural Gas จะถึงจุดสูงสุดก่อนปี 2573 ..
ส่วนแบ่งในระบบพลังงานโลก World Energy System ของถ่านหิน Coal, น้ำมัน Oil และก๊าซธรรมชาติ Natural Gas ในการจัดหาพลังงานทั่วโลก ซึ่งติดอยู่ประมาณ 80% มานานหลายทศวรรษ เริ่มลดลง และแตะ 73% ภายในปี 2573 และนี่คือ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ .. อย่างไรก็ตาม หากความต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิลเหล่านี้ ยังคงอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับความต้องการถ่านหิน Demand for Coal ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเช่นเดียวกับกรณีในการคาดการณ์สำหรับน้ำมัน Oil และก๊าซ Natural Gas ยังห่างไกลจากความเพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศโลก Global Climate Goals ..
นโยบายภาครัฐในแต่ละประเทศที่สนับสนุนพลังงานสะอาด Policies Supporting Clean Energy กำลังเกิดขึ้นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ไว้ในตลาดสำคัญ ๆ ทั่วโลก .. ต้องขอบคุณมาตรการทางกฎหมายในการลดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และในยุโรปเป็นอย่างมาก ขณะนี้ คาดการณ์ว่า 50% ของการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในสหรัฐฯ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2573 โดยสถานการณ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตัวเลขที่สอดคล้องกันในข้อมูลปี 2564 ของ IEA’s World Energy Outlook : WEO-2021 คือ 12% เท่านั้น .. สหภาพยุโรป ในปี 2573 การติดตั้งปั๊มความร้อน Heat Pumps จะสูงถึง 2 ใน 3 ของระดับที่จำเป็นในสถานการณ์ Net Zero Scenario เมื่อเทียบกับ 1 ใน 3 ที่คาดการณ์ไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว .. ในประเทศจีน การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของพลังงานแสงอาทิตย์ Solar PV และพลังงานลมนอกชายฝั่ง Offshore Wind Power ภายในปี 2573 นั้น ปัจจุบันสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 3 เท่า .. แนวโน้มสำหรับพลังงานนิวเคลียร์ Nuclear Power ได้รับการปรับปรุงในตลาดชั้นนำด้วยการสนับสนุนการขยายอายุการใช้งานของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีอยู่ในประเทศต่างๆ รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลี และสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการสร้างปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่รุ่นล่าสุดที่ปลอดภัยกว่าในอีกหลายประเทศ ..
แม้ว่าความต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิล Demand for Fossil Fuels จะเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงทิศทาง นอกเหนือจากการใช้พลังงานทางเลือกที่ปล่อยก๊าซมลพิษระดับต่ำ Low-Emissions Alternatives แล้ว อัตราการเพิ่มสินทรัพย์ใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเข้าสู่ระบบพลังงาน ยังชะลอตัวลงอีกด้วย .. ยอดขายรถยนต์ และรถ 2 หรือ 3 ล้อที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines : ICEs นั้น ต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอย่างมาก ..
ในภาคการผลิตกำลังไฟฟ้า Electricity Sector นั้น การเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ Coal & Natural Gas-Fired Power Plants ทั่วโลก ได้ลดลงครึ่งหนึ่งจากจุดสูงสุดก่อนหน้านี้เป็นอย่างน้อย .. ยอดขายหม้อต้มน้ำด้วยก๊าซสำหรับที่อยู่อาศัย Residential Gas Boilers มีแนวโน้มลดลง และจำนวนยอดขายปั๊มความร้อน Heat Pumps ในตลาดของหลายประเทศในยุโรป และสหรัฐฯ นั้น มีมากกว่า และแซงหน้าขึ้นมาได้อย่างมีนัยสำคัญ ..
การสิ้นสุดยุคการเติบโตของเชื้อเพลิงฟอสซิล End of the Growth Era for Fossil Fuels ไม่ได้หมายถึง การยุติการลงทุนด้านเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuel Investment เสมอไป แต่เป็นการบั่นทอนเหตุผลในการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จนถึงปี 2566 นี้ .. การตอบสนองความต้องการที่คาดการณ์ไว้ บ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของการลงทุนด้านน้ำมัน และก๊าซในช่วงทศวรรษนี้ก็จริงอยู่ แต่จากนี้ไป แนวโน้มพลังงานสะอาดที่แข็งแกร่งขึ้น Stronger Clean Energy Outlook และความต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิล Demand for Fossil Fuels ที่ลดลง หมายความว่า มันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้านน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ Investment in Oil & Gas ในปัจจุบันมีขนาดเกือบ 2 เท่าของระดับที่กำหนดในสถานการณ์จำลอง Net Zero Scenario ในปี 2573 ซึ่งส่งสัญญาณถึงความเสี่ยงที่ชัดเจนของการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ยืดเยื้อ ซึ่งจะทำให้เป้าหมายที่จุดเล็ง 1.5oC อาจไปถึงได้ไม่ง่ายนัก หากนานาชาติ และประชาคมโลก ไม่ร่วมมือกันให้มากกว่านี้ ..
ทั้งนี้ การลดการใช้จ่ายด้านน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ Cutting Spending on Oil & Gas เพียงอย่างเดียวจะไม่ทำให้โลกเป็นไปตามสถานการณ์ของ Net Zero Scenario ได้ .. กุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ คือ การขยายการลงทุนในทุกด้านของระบบพลังงานสะอาด Investment in All Aspects of a Clean Energy System .. การพัฒนาระบบพลังงานสะอาด Development of a Clean Energy System และผลกระทบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถเสริมได้ด้วยนโยบายภาครัฐที่ช่วยให้การหยุดยั้งการลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดมลพิษ Effect on Emissions เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหิน Coal-Fired Power Plants ที่เก่าแก่ หรือมาตรการจำกัดการเข้ามาของโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลใหม่ New Fossil Fuel-Based Power Plants เข้าสู่ระบบ แต่ความท้าทายเร่งด่วน คือ การเพิ่มความรวดเร็วของโครงการพลังงานสะอาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งการลงทุนในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานจำเป็นต้องเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าภายในปี 2573 เพื่อให้ถึงระดับที่กำหนดในสถานการณ์ Net Zero Scenario ..
ความพยายามครั้งใหม่ รวมถึงการสนับสนุนระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จะมีความสำคัญในการรับมือกับอุปสรรคต่างๆ เช่น ต้นทุน และเงินลงทุนที่สูง Costs of Capital, พื้นที่ทางการเงินที่จำกัดสำหรับการสนับสนุนจากภาครัฐ Limited Fiscal Space for Government Support และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ท้าทาย Challenging Business Environments เป็นต้นนั้น คือ ประเด็นสำคัญที่จะต้องก้าวข้ามไปพร้อมกันให้ได้ ทั้งนี้ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านพลังงานโลก Global Energy Transition ไปสู่การบริโภคพลังงานสะอาด Clean Energy เป็นหลักแทนที่แหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuel Sources สำหรับระบบเศรษฐกิจ และสังคมของมนุษยชาติทั่วโลกนั้น เป็นไปได้จากนี้ไปในที่สุด ..
คาดการณ์ตลาดการเปลี่ยนผ่านพลังงานทั่วโลก Global Energy Transition Market ..
อ้างถึงข้อมูลการตรวจสอบตลาดระบบพลังงานของ Allied Market Research พบว่า ขนาดธุรกิจในตลาดการเปลี่ยนผ่านพลังงานทั่วโลก Global Energy Transition Market มีมูลค่า 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2564 และคาดว่าจะสูงถึง 5.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2574 .. ทั้งนี้ อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี Compound Annual Growth Rate : CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับตลาดการเปลี่ยนผ่านพลังงานทั่วโลก Global Energy Transition Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 9.3% ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2565-2574 ..
การเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition คือ กระบวนการเปลี่ยนรูปซึ่งเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuels เช่น น้ำมัน Oil, ก๊าซธรรมชาติ Natural Gas และถ่านหิน Coal จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy เช่น พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ Wind & Solar Energy รวมถึงระบบจัดเก็บพลังงงาน เช่น แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน Lithium-Ion Batteries เป็นต้น .. การเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition แบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ แหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Sources, การปรับไปใช้พลังงานไฟฟ้า Electrification, ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน Energy Efficiency, ไฮโดรเจน Hydrogen : H2 และพลังงานอื่น ๆ .. แหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Sources มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในแง่ของรายได้ เนื่องจากมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในภาคที่อยู่อาศัย และระบบสาธารณูปโภค Residential & Utility Sector .. ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของตลาดโลก คือ การรุกตลาดของพลังงานทดแทนในภาคที่อยู่อาศัย Renewable Energy in Residential Sector ที่เพิ่มขึ้น และความก้าวหน้าในระบบจัดเก็บพลังงาน Advancements in Energy Storage ..
นอกจากนี้ การจัดหาพลังงานอย่างต่อเนื่อง Continuous Supply of Energy, การพัฒนาโมเดลธุรกิจผู้บริโภค Development of Prosumer Business Models และการเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียน Transforming Human Behavior toward Renewable Sources คาดว่าจะสร้างโอกาสที่ร่ำรวยสำหรับการเติบโตของตลาดในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ นอกจากนี้ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากการจ้างงานในการผลิตกำลังไฟฟ้า เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าสำหรับอาคารที่อยู่อาศัยด้วยต้นทุนที่ต่ำ คาดว่าจะขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน Energy Transition Market ได้เป็นอย่างดีจากนี้ไป ..
ทั้งนี้ ในประเด็นเฉพาะตลาดเทคโนโลยีสะอาดสีเขียว Green & Clean Technology Market นั้น พบว่า ขนาดธุรกิจในตลาดเทคโนโลยีสีเขียว และความยั่งยืนทั่วโลก Global Green Technology & Sustainability Market มีมูลค่า 10.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563 และคาดว่าจะสูงถึง 74.64 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2573 .. ทั้งนี้ อัตราการเติบโตต่อปี Compound Annual Growth Rate : CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับการลงทุนในตลาดเทคโนโลยีสีเขียว และความยั่งยืนทั่วโลก Global Green Technology & Sustainability Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 21.9% ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2564-2573 ..
คาดหมายได้ว่า เทคโนโลยีสีเขียว Green Technologies ซึ่งรวมไปถึงโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Eco-Friendly Solutions และงานสีเขียว Green Jobs ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายหลากหลาย จะส่งผลทางเศรษฐกิจที่เหนือชั้นกว่า และความยั่งยืนทางสังคม Economic & Social Sustainability ที่มั่นคง .. เป็นที่เข้าใจอย่างกว้างขวางแล้วว่า กระบวนการผลิตในระบบเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีสะอาด Clean Technology Production โดยใช้แหล่งพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน และพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Sources เป็นฐานการบริโภคหลักนั้น ปลอดภัยกว่า และสร้างอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuels เป็นอย่างมาก ..
ตัวอย่างเศรษฐกิจหมุนเวียนพลังงานสะอาด Clean Energy Circular Economy ที่ยั่งยืน Sustainability สำหรับกระบวนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition Process ในภาคการเกษตร การขนส่ง และเพียงส่วนหนึ่งในภาคพลังงานเท่านั้น เช่น การแปลงอินทรีย์สารในชีวมวล Biomass ที่เป็นน้ำเสีย ของเหลือทิ้งภาคการเกษตร เศษไม้ ขยะอินทรีย์ และขยะพลาสติก ให้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels, ก๊าซชีวภาพ Biogas และมีเทนหมุนเวียน Renewable Methane รวมทั้งการผลิตไฮโดรเจนหมุนเวียนสีเขียว Green Renewable Hydrogen ด้วยเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพ Bioenergy Technology นั้น มีศักยภาพที่จะทำให้เกิดงานใหม่ที่เรียกว่า งานสีเขียว Green Jobs ได้มากกว่า 39,000 ตำแหน่ง และผลผลิตทางเศรษฐกิจแตะระดับ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปีทั่วโลก ..
ข้อมูลตลาดแรงงานในปีที่ผ่านมา พบว่า ภาคพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Sector มีการจ้างงานถึงมากกว่า 12 ล้านตำแหน่ง ในปี 2564 เทียบกับ 11.5 ล้านตำแหน่ง ในปี 2562 ตามรายงานฉบับที่ 8 ของพลังงานทดแทน และการจ้างงาน ประจำปี 2564 หรือ Renewable Energy & Employment Report : Annual Review 2021 ..
สำหรับประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว แผนงาน และนโยบายภาครัฐที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เศรษฐกิจอยู่บนเส้นทางที่ปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ Net Zero Emissions ภายในปี 2593 จะทำให้เกิดการเปลี่ยนงานประมาณ 1% ของการจ้างงานจากงานที่ปล่อยมลพิษสูงไปสู่งานที่ปล่อยมลพิษน้อยลงในทศวรรษหน้า .. การวิเคราะห์ตลาดแรงงาน แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นสำหรับตลาดเกิดใหม่ อยู่ที่ประมาณ 2.5% ถึงกระนั้น ตัวเลขเหล่านี้ ก็ยังเล็กกว่าการเปลี่ยนจากภาคการผลิตไปเป็นภาคการบริการในประเทศที่พัฒนาแล้ว ตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1980 นั่นหมายถึง Green Technology อาจทำให้ตำแหน่งงานในภาพรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 4% ของงานในแต่ละทศวรรษที่กำลังจะมาถึงจากนี้ไป ..
สรุปส่งท้าย ..
มนุษยชาติ จำเป็นต้องเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition ไปสู่เศรษฐกิจที่ลดคาร์บอน Transition Toward a Decarbonised Economy หรือเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ Low Carbon Economy ซึ่งเคารพต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นโดยเร็ว ..
การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำ Low Carbon Economy & Society หรือการลดคาร์บอนในระบบเศรษฐกิจ Transition to a Decarbonised Economy ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อการหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Climate Change และการต่อสู้กับวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยศักยภาพอันมหาศาลในการสร้างงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้อีกหลายล้านตำแหน่งงานทั่วโลก หมายถึง กลุ่มงานอีกมากมายที่มีเป้าหมายโดยตรงต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม Protecting the Environment หรืองานที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการลดผลกระทบต่อสุขภาพของโลก Minimize Impact on the Health of the Planet ในภาคส่วนต่างๆ ..
การเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition ไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ Low Carbon Economy หรือการลดคาร์บอนในระบบเศรษฐกิจ Transition to a Decarbonised Economy กำลังเปิดตัวแผนงานใหม่ โครงการใหม่ และตำแหน่งงานใหม่ๆ ที่เรียกว่า งานสีเขียว Green Jobs อย่างมากมาย และหลากหลาย รวมทั้งข้อไขที่เป็นผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมในภาคพลังงาน ภาคส่วนต่างๆ และเทคโนโลยีด้านสภาพอากาศรุ่นต่อไปออกสู่ตลาดให้ได้ทันเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ .. พวกมัน คือ เส้นทางสู่ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ ความสำเร็จในการเติบโตของตลาดแรงงาน ลดการปล่อยมลพิษ และกระตุ้น GDP ในระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น และสร้างตำแหน่งงานใหม่ที่มีรายได้สูงกว่าอย่างมั่นคงไปพร้อมด้วยในทศวรรษหน้าได้อย่างแน่นอนปราศจากข้อสงสัย ..
คาดหมายได้ว่า ด้วยกระบวนการเปลี่ยนแปลงในภาคพลังงานอย่างเดียว จะสามารถขับเคลื่อนอัตราการเติบโตของ GDP ทั่วโลกให้เพิ่มขึ้นได้อย่างน้อย 0.4% ต่อปี .. ทั้งนี้ ภาพรวมการสร้างงานสีเขียว Green Jobs ที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดอย่างน้อย 30 ล้านตำแหน่งงานสำหรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition โดยหากผนวกรวมผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การขนส่ง และผลผลิตอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องทางเศรษฐกิจ และสังคมด้วยแล้ว GDP ทั่วโลกจะถูกผลักให้สูงขึ้นมากกว่า 4% ต่อปี อย่างน้อยภายในปี 2573 ซึ่งมากกว่าที่จะไปถึงได้ด้วยแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลตามแนวโน้มในปัจจุบัน ..
อย่างไรก็ตาม แม้จะสรุปภาพรวมได้ว่า การเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition ของมนุษยชาติในปัจจุบันยังคงไม่อยู่บนเส้นทาง Off-Track ก็ตาม แต่การเติบโตของสัดส่วนการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Sources ที่เพิ่มขึ้น, การปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า Electrification ที่มากขึ้น, ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน Energy Efficiency ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังการผลิตส่วนประกอบสำคัญของระบบพลังงานสะอาดสีเขียว Green & Clean Energy System รวมถึงโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ Solar PV Modules และแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า EV Batteries กำลังขยายตัวรวดเร็วอย่างมีนัยสำคัญ .. แรงผลักดันเหล่านี้ คือ สาเหตุที่สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ International Energy Agency : IEA ได้สรุปเมื่อเร็ว ๆ นี้ในแผนงาน Net Zero Roadmap ที่ปรับปรุงล่าสุดว่า เส้นทางในการจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5oC นั้น ยากมากก็จริงอยู่ แต่โอกาสก็ยังคงเปิดกว้างอยู่อย่างมากมายเช่นกัน ..
ปัจจุบัน ราคาพลังงานสีเขียว Green Energy Cost นั้น แม้จะมีต้นทุนที่ลดลงเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ด้วยข้อเท็จจริงแล้ว ถือว่า ราคายังคงเป็นประเด็นปัญหาสำคัญในปัจจุบัน ซึ่งพวกมันจะแพงเกินไปนั้นไม่ได้ .. อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสีเขียว Green & Clean Energy Transition นั้น จะสามารถช่วยให้เกิดโอกาสทางธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมที่ยั่งยืน และรูปแบบใหม่ของ Valued Chain, การกระจายทางเศรษฐกิจ Redistribute Economic Power และการบริหารจัดการรูปแบบใหม่ ๆ ที่มีผู้คนเป็นศูนย์กลาง People-Centered Ways มากขึ้น ..
ทั้งนี้ สำหรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition นั้น ด้วยการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสม แหล่งพลังงานสะอาดสีเขียว Green & Clean Energy Sources คือ แหล่งพลังงานเพียงแหล่งเดียวที่เปิดโอกาสให้ทุกประเทศในโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ได้รับอิสระภาพทางพลังงาน และไม่ตกเป็นทาสการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuels ที่เป็นน้ำมันดิบ Crude Oil, ก๊าซธรรมชาติ Natural Gas และถ่านหิน Coal ลึกลงไปใต้เปลือกโลก หรือ Shale Gas & Shale Oil จากต่างประเทศที่ผูกขาดโดยเพียงบางชาติยักษ์ใหญ่เท่านั้นอีกต่อไป ซึ่งส่งผลให้ระบบพลังงานของแต่ละประเทศทั่วโลกจากนี้ไป จะได้ถูกปลดล็อคให้เป็นอิสระอย่างแท้จริง หมายถึง ความมั่นคงทางพลังงาน Energy Security จะได้รับการประกันเพื่อไปสู่ความมั่งคั่ง และยั่งยืนให้สำเร็จได้ในที่สุด ..
………………………………..
คอลัมน์ : Energy Key
By โลกสีฟ้า ..
สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-
Energy Transition | United Nations Development Programme: UNDP :-
https://www.undp.org/energy/our-work-areas/energy-transition
Energy Transition | World Economic Forum :-
https://www.weforum.org/communities/gfc-on-energy-transition/
World Energy Outlook 2023 / Executive Summary | IEA :-
https://www.iea.org/reports/world-energy-outlook-2023/executive-summary
Tracking Clean Energy Progress 2023 | IEA :-
https://www.iea.org/reports/tracking-clean-energy-progress-2023
Energy Transition Market | Allied Market Research :-
https://www.alliedmarketresearch.com/energy-transition-market-A31819
Net Zero Emissions Electricity :-
https://photos.app.goo.gl/EEjMKeZqJegVMpb16
Energy Transition : A Significant Structural Change in an Energy System :-
