วันจันทร์, สิงหาคม 26, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSCarbon-Free Cement อยู่ใกล้ไปอีกขั้นหนึ่ง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

Carbon-Free Cement อยู่ใกล้ไปอีกขั้นหนึ่ง

Carbon-Free Cement Is Now A Step Closer

“…การผลิตซีเมนต์ปลอดคาร์บอน ในปัจจุบัน แสดงให้เห็นชัดเจนว่า นักวิจัยพบวิธีกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญระดับโลกได้อย่างมั่นใจแล้ว …”

คอนกรีต Concrete คือวัสดุที่ใช้มากเป็นอันดับ 2 ของโลก ขณะที่ น้ำ Water : H2O ครองอันดับหนึ่ง .. ไม่ว่ามนุษย์จะอยู่ที่ไหน ก็มักจะพบสสารสีเทาหม่นๆ อยู่ทั่วไป .. คอนกรีต Concrete ใช้สร้างทุกอย่างตั้งแต่บ้าน Homes และโรงพยาบาล Hospitals ไปจนถึงสนามบิน Airports และเขื่อน Dams ขนาดใหญ่ยักษ์ .. เหนือสิ่งอื่นใด พวกมันได้ทำให้ให้มนุษยชาติ ผลิตสิ่งก่อสร้าง พิชิตใต้ดิน บนดิน โดยจัดให้มีถนน และทางเดินที่ปลอดภัยสำหรับรถไฟ และเส้นทางสำหรับบริการน้ำ ขยะ ไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้คงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงโลกสมัยใหม่ที่ปราศจากคอนกรีต Concrete ..

Green Cement-Right Ingredient For Sustainable Construction | Credited : Leo MarCom/World Construction Today

นอกจากนี้ ในอีกแง่มุม พวกมันยังถือเป็นวัสดุที่ทำลายล้างมากที่สุดในโลกอีกด้วย ความเสียหายที่เกิดจากคอนกรีตไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับประเด็นที่ นักข่าว Guardian, Jonathan Watts เคยเขียนไว้ว่า ความสามารถของคอนกรีตในการ “ฝังผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ที่กว้างใหญ่ แม่น้ำท้องผูก ถิ่นที่อยู่อาศัยที่ทำให้หายใจไม่ออก และคอนกรีต Concrete ยังทำหน้าที่เป็นผิวหนังชั้นที่สองที่แข็งเป็นหิน ทำให้เราหมดความรู้สึกจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนอกป้อมปราการในเมืองของเรา” แต่ยังรวมไปถึงประเด็นที่เกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นปริมาณมากระหว่างกระบวนการผลิตอีกด้วย ..

ส่วนผสมอีก 2-3 อย่างของคอนกรีต Concrete ก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน .. ปริมาตรส่วนใหญ่เป็นมวลรวมของทราย และกรวด หรือหินบดที่ขุดขึ้นมาจากเหมือง และประมาณ 7% เป็นน้ำ Water : H2O สามารถใส่สารเติมแต่งอื่นๆ ในปริมาณเล็กน้อย เพื่อปรับแต่งส่วนผสมได้อย่างละเอียด ผ่านกระบวนการที่เรียกว่าไฮเดรชั่น Hydration ซึ่งผงซีเมนต์ และน้ำ Cement Powder & Water จะทำปฏิกิริยา แข็งตัว และยึดเกาะมวลรวม และสารเติมแต่งให้กลายเป็นมวลแข็งคล้ายหินที่เราทุกคนคุ้นเคย ตามที่กล่าวไว้นี้ กระบวนการชุบแข็งนี้ ดำเนินต่อไปหลายปีหลังจากการเทคอนกรีต Concrete has been Poured ซึ่งหมายความว่า คอนกรีต Concrete จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น อย่างน้อยก็สักพักหนึ่ง ..

ปัจจุบันภาคอาคาร และสิ่งก่อสร้าง Buildings & Construction Sector รับผิดชอบ 39% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก และในส่วนนี้ 28% จากการปล่อยมลพิษจากการดำเนินงาน จากพลังงานที่จำเป็นในการให้ความร้อน ความเย็น และกำลังไฟฟ้า และส่วนที่เหลืออีก 11% คือส่วนความรับผิดชอบที่มาจากวัสดุ และการก่อสร้าง ..

การจัดเก็บคาร์บอน Carbon Storage ในรูปแบบของวัสดุก่อสร้าง Building & Construction Materials อย่างถาวร และซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement กำลังอยู่ใกล้ความจริงยิ่งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งรวมถึงการใช้วัสดุก่อสร้างที่ผลิตขึ้นจากขยะของเสีย Building Materials from Waste เพื่อให้อาคารใหม่ๆ เหล่านี้ รักษ์โลกมากขึ้น ปล่อยคายคาร์บอนในกระบวนผลิตซีเมนต์ Cement และคอนกรีต Concrete น้อยลง รวมทั้งกลายเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนปัญญาประดิษฐ์ Artificial Carbon Sinks ระยะทนยาวได้ต่อไปพร้อมด้วยนั้น คือ แนวคิดตามเทคโนโลยีการปล่อยมลพิษเป็นลบสุทธิ Negative Emissions Technologies : NETs ที่ยอดเยี่ยม และกำลังจะเป็นที่นิยมอย่างมากจากนี้ไป ..

คาดหมายได้ว่า ด้วยซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement หรือที่เรียกกันว่า คอนกรีต และซีเมนต์สีเขียว Green Cement & Concrete จะผลักดันให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ Cement Industry ในภาพรวม สามารถแสดงบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่สะอาด และยั่งยืน Transition to a Clean & Sustainable Future และเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอน Carbon Capture Technologies จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อความอยู่รอดในภาคอุตสาหกรรม Key Factor in the Industry’s Survival ไปพร้อมด้วยจากนี้ไป ..

อนาคตความยั่งยืนของซีเมนต์ Future Sustainability of Cement ..

การผลิตปูนซีเมนต์ Production of Cement ที่เก่าแก่ที่สุดถูกบันทึกไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อนหน้านี้ .. อย่างไรก็ตาม การผลิตทางอุตสาหกรรมครั้งแรกของผลิตภัณฑ์สิ่งก่อสร้าง Construction Products ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายนี้ เริ่มขึ้นในกลางศตวรรษที่ 19 .. ตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นมา ได้ทำให้มีการผลิตปูนซีเมนต์ทั่วโลกมากถึง 2.8 พันล้านตันในแต่ละปี ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 4 พันล้านตันต่อปี .. ทั้งนี้ ด้วยอัตราการผลิตปริมาณมหาศาลนี้ อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ Cement Industry ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Sustainable & Environmentally Friendly ตลอดทุกขั้นตอนการผลิต Manufacturing Procedures เช่น การจำกัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Limiting their Carbon Dioxide : CO2 Emissions ในกระบวนผลิต และทำหน้าที่เป็นอ่างกักเก็บคาร์บอน Carbon Sinks ไปพร้อมด้วย เป็นต้น ..

เพื่อจัดการกับข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมที่ล้อมรอบอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ Cement Production Industry ที่ผ่านมา พบว่า การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน Enhancements in the Energy Efficiency, การลดความสิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิง Fuel Consumption และการใช้วัตถุดิบทางเลือก Alternative Raw Materials เป็นต้นนั้น ได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ..

ตัวอย่างเช่น เนื่องจากกลางทศวรรษ 1980 อุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ Cement Production Industry ได้เปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงทางเลือก Alternative Fuels เกือบ 100% ซึ่งประกอบด้วยยางรถยนต์ใช้แล้ว Used Tires, ซากสัตว์เหลือทิ้ง Animal Residues, กากตะกอนน้ำเสีย Sewage Sludges, น้ำมันเสีย Waste Oil และวัสดุเหลือทิ้ง เช่น กระดาษฝอย พลาสติก ฟอยล์ สิ่งทอ และยาง ในสายการผลิตพรีแคลซิเนอร์ Precalciner Lines .. ในทำนองเดียวกัน อุตสาหกรรมนี้ ยังพบอีกด้วยว่า วัตถุดิบที่มีพื้นฐานมาจากหินปูน ทราย ดินเหนียว แร่เหล็ก และส่วนผสมจากธรรมชาติอื่น ๆ มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์มากมาย รวมถึงแคลเซียม Calcium : 20Ca, ซิลิคอน Silicon : 14Si, เหล็ก Iron : 26Fe, อะลูมิเนียม Aluminium : 13Al และซัลเฟอร์ Sulfur : 16S ที่สามารถนำไปใช้ในกระบวนการผลิตปรับปรุงคุณภาพวัสดุอีกด้วย ..

จนถึงปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ทั่วโลก อย่างน้อย 24 รายที่จัดหาปูนซีเมนต์ประมาณ 30% ของความต้องการปูนซีเมนต์โลกในกว่า 100 ประเทศ มารวมตัวกันเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เพื่อก่อตั้งโครงงานริเริ่มความยั่งยืนของซีเมนต์ Cement Sustainability Initiative : CSI ภายใต้การสนับสนุนจากสภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน World Business Council for Sustainable Development : WBCSD โดยมีภารกิจเดียว คือการปรับปรุงความยั่งยืนโดยรวมของซีเมนต์ ..

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงงานของ CSI ชี้ให้เห็นได้ว่า ผู้ผลิตปูนซีเมนต์เหล่านี้ มุ่งเน้นความพยายามในการปรับปรุงความเข้าใจ และการจัดการการผลิตปูนซีเมนต์ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับต่อสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ด้วยข้อกังวลบางประการที่สำคัญ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ Climate Change, การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง Fuel Use, สุขภาพ และความปลอดภัยของพนักงาน Employee Health & Safety, การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศ Airborne Emissions, การรีไซเคิลคอนกรีต Concrete Recycling และการบริหารจัดการเหมืองหิน Quarry Management ..

The Future Sustainability of Cement | Credited : AZO Material

นอกจากนั้น การจัดการกับข้อกังวลที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ เช่นเดียวกับการพัฒนาการผลิตคอนกรีตทั้งแบบรีไซเคิลได้ และแบบยั่งยืน Recyclable & Sustainable Concrete Production บริษัทรับเหมาก่อสร้างหลายแห่ง กำลังมองหาการผนวกรวมอาคาร กับการผลิตกำลังไฟฟ้าบนหลังคา Rooftop Plants เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศ นอกเหนือจากการถ่ายโอนการดูดซับสภาวะความร้อนจัดไปรวมกับการปลูกพืชไม้ยืนต้นบริเวณอาคารแล้ว นักวิจัยเชื่อว่า การใช้สารเคลือบสะท้อนแสง และแผงโซลาร์เซลล์ Reflective Coating & Solar Panels บนพื้นผิวของโครงสร้างเหล่านี้ จะช่วยลดปัญหาที่กล่าวถึงนี้ได้มากขึ้นอีก หรือเรียกเทคนิคนี้อีกอย่างว่า ‘Heat Island Effect’ ..

ทั้งนี้ จุดมุ่งเน้นหลักแต่ละจุดของโครงงานริเริ่มความยั่งยืนของซีเมนต์ Cement Sustainability Initiative : CSI ได้รับการกล่าวถึงในลักษณะเฉพาะ และการวางแผนอย่างรอบคอบ ตัวอย่างเช่น CSI ได้รวมกลยุทธ์ต่อไปนี้เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของคนงานในอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ เช่น การติดตาม และรายงานตัวชี้วัดทั่วไปเกี่ยวกับความปลอดภัยของพนักงาน Track & Report Common Metrics on Employee Safety, รวบรวมและแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ และอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน เป็นต้น รวมทั้งร่วมมือกับ Global Road Safety Partnership : GRSP เพื่อบูรณาการการดำเนินงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และองค์กรภาคประชาสังคมเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยลดจำนวนการเสียชีวิตของคนงานปูนซีเมนต์ โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นระหว่างงานบนถนน และงานก่อสร้างต่างๆ ไปพร้อมด้วย ..

อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักที่สำคัญที่สุดของ CSI จากนี้ไป ได้แก่ การมุ่งมั่นสู่จัดเก็บคาร์บอน Carbon Storage ในรูปแบบของวัสดุก่อสร้าง Building & Construction Materials อย่างถาวร และการผลิตซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement หรือที่บางครั้งเรียกกันว่า คอนกรีต และซีเมนต์สีเขียว Green Cement & Concrete เพื่อให้แน่ใจว่า ภาคการผลิตปูนซีเมนต์ Production of Cement Sector จะไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน และแสดงบทบาทการมีส่วนร่วมที่สำคัญในการต่อสู้กับวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis ด้วยแนวคิดตามเทคโนโลยีการปล่อยมลพิษเป็นลบสุทธิ Negative Emissions Technologies : NETs พร้อมกันทั่วโลกให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..

นวัตกรรมซีเมนต์คาร์บอนต่ำ และคอนกรีต Innovation in Low-Carbon Cement & Concrete ล่าสุด ทำให้คอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง Making Concrete Change ..

คอนกรีตแบบดั้งเดิม Traditional Concrete มีรอยเท้าคาร์บอนขนาดใหญ่ Large Carbon Footprint ที่น่ากังวล .. โดยทั่วไป คอนกรีต Concrete มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของมนุษยชาติผ่านการประยุกต์ และการใช้งานที่หลากหลาย .. พวกมันกำหนดสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นรอบตัวเรา ตั้งแต่โรงเรียน โรงพยาบาล และที่อยู่อาศัย ไปจนถึงถนน สะพาน อุโมงค์ รันเวย์ เขื่อน และระบบบำบัดน้ำเสีย .. ในความเป็นจริง คอนกรีต Concrete คือวัสดุที่มนุษย์สร้างขึ้นมากที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการใช้คอนกรีตถึง 3 ตันต่อปีต่อคนบนโลก ความต้องการคอนกรีตทั่วโลก ถือเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำ Water : H2O เท่านั้น ..

ซีเมนต์ Cement ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้คอนกรีต Concrete มีความแข็งแรง ผลิตขึ้นโดยการเผาหินปูนในเตาเผาที่อุณหภูมิ 2,300-3,000°F หรือ 1,260-1,650°C โดยทั่วไปกระบวนการนี้จะใช้ผงถ่านหิน Powdered Coal หรือก๊าซธรรมชาติ Natural Gas เป็นเชื้อเพลิง โดยใช้พลังงานจำนวนมาก และปล่อยคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ออกมาปริมาณมหาศาลจากการเผาไหม้ ..

ทั้งนี้ การผลิตปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ Portland Cement จำนวน 1 ตัน ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ประมาณ 1 ตัน และภาพรวมการผลิตปูนซีเมนต์ คิดเป็นประมาณ 7-8% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก .. ในการนี้ คอนกรีต Concrete มีส่วนรับผิดชอบต่อคาร์บอน 50-85% ของคาร์บอนที่สะสมอยู่ในโครงการก่อสร้างใด ๆ โดยหากแยกมองเป็นประเทศ อุตสาหกรรมคอนกรีต Concrete Industry จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน China, สหรัฐฯ United Statesและสหราชอาณาจักร United Kingdom ตามลำดับ ..

สำหรับความต้องการอนาคตที่ยั่งยืนในสังคมมนุษยชาติจากนี้ไป และเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเติบโตของประชากร Population Growth และการขยายตัวของเมือง Urbanization Drive ได้ผลักดันความต้องการคอนกรีต Demand for Concrete ให้เพิ่มขึ้น จึงมีความกดดันสูงขึ้นอีกมากในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของอุตสาหกรรม Reduce the Carbon Footprint of the Industry ซึ่งถือเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องดำเนินการให้สำเร็จ ..

อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมซีเมนต์คาร์บอนต่ำและคอนกรีต Innovation in Low-Carbon Cement & Concrete ล่าสุด หมายถึง คอนกรีตคาร์บอนต่ำ Low Carbon Concrete จากซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement คือ คอนกรีตที่ในกระบวนผลิตมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าคอนกรีตแบบดั้งเดิม Traditional Concrete .. ทั้งนี้นอกเหนือจากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนแล้ว คอนกรีตที่มีคาร์บอนต่ำ Lower Carbon Concrete ควรมีคุณลักษณะเหมือนกันกับคอนกรีตมาตรฐาน Standard Concrete ..

ในการสร้างคอนกรีตที่มีคาร์บอนต่ำ Lower Carbon Concrete นั้น ผู้ผลิตสามารถนำการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบค่อนข้างต่ำมาใช้กับกระบวนการผลิต และการออกแบบส่วนผสมของตนได้ ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแหล่งเชื้อเพลิง แทนที่เนื้อซีเมนต์บางส่วนด้วยสารประกอบแร่ เช่น ดินเหนียวเผา เถ้าลอย หรือตะกรันเตาหลอม หรือการใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เช่น CarbonCure ..

เดือนกันยายน ปี 2563 เป็นต้นมา Global Cement and Concrete Association: GCCA ได้ให้คำมั่นสัญญา Climate Ambition ที่ไม่เพียงแต่มุ่งหวังที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของคอนกรีต Reduce the Carbon Footprint of Concrete เท่านั้น แต่ยังเพื่อให้บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วทั้งอุตสาหกรรม Achieve Carbon Neutrality Across the Industry ภายในปี 2573 บริษัทปูนซีเมนต์ และคอนกรีตหลายแห่งทั่วโลกได้ลงนามแล้ว ความมุ่งมั่นนี้ ได้รับการตรวจสอบกลยุทธ์โดยบุคคลที่สามจากโครงการริเริ่ม Science Based Targets มาพร้อมด้วย ..

ด้วยความจริงที่ว่า ปูนซีเมนต์ Cement คือปัจจัยสำคัญในคอนกรีต Concrete ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก .. ทุกปีมีการผลิตปูนซีเมนต์มากกว่า 4 พันล้านตัน กระบวนการเผาไหม้ทางเคมี และความร้อนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตปูนซีเมนต์ คือแหล่งสำคัญของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกต่อปี .. นอกจากนี้ คาดว่าการผลิตปูนซีเมนต์จะเติบโต พื้นที่อาคารทั่วโลกทั้งหมดในปี 2559 อยู่ที่ประมาณ 235 พันล้านตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในอีก 40 ปีข้างหน้า เทียบเท่ากับการเพิ่มพื้นที่อาคารทั้งหมดของญี่ปุ่น Total Building Floor Area of Japan สู่โลกทุกๆ ปี จนถึงปี 2603 ..

การเติบโตส่วนใหญ่นี้ คาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในตลาดเกิดใหม่ แม้ว่าการผลิตปูนซีเมนต์ของจีน China’s Cement Production ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของตลาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาจถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่การขยายตัวของเมืองในประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อินเดีย และอินโดนีเซีย มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความต้องการทั่วโลกต่อไป .. ประมาณการบางส่วนคาดการณ์ว่า อุปสงค์จะเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า จากประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ภายในปี 2593 เป็นต้น ..

ตัวอย่างนวัตกรรมซีเมนต์คาร์บอนต่ำ และคอนกรีต Innovation in Low-Carbon Cement & Concrete ในประเทศไทยล่าสุด พบว่า บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด Siam Cement Group : SCG และกลุ่มบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ ปูนเม็ด และปูนสำเร็จรูปรายใหญ่ของประเทศ TPI Group ในประเทศไทย โดย Cement & Green Solution Business ในภาพรวมธุรกิจซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ได้ยกระดับอุตสาหกรรมการก่อสร้างของไทยอย่างยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่ “Net Zero Cement & Concrete 2050” ผ่านการพัฒนานวัตกรรมทั้งผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิดเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ หรือ Low Carbon Economy เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์สุทธิ Net Zero ภายในปี 2573 รวมถึงผลักดันการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน Renewable Resources และวัสดุที่ไม่ใช้แล้วเหลือทิ้ง ให้นำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนประสานงาน ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่การก่อสร้างสีเขียว Green Construction สอดคล้องกับแนวทาง Environmental, Social & Governance : ESG ..

อ้างถึงข้อมูลจากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย Thai Cement Manufacturers Association: TCMA นั้น ชี้ว่า ทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ของไทยนั้น ประยุกต์ใช้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ :-

1) Cement & Concrete ที่มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการผลิต และผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ..

2) Green Solutions ที่เน้นการนำเทคโนโลยี และดิจิทัลต่างๆ เข้ามาใช้ในการบริหารโครงการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับการก่อสร้าง ..

3) Green Circularity ที่มุ่งเน้นให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ด้วยแนวทาง ‘เปลี่ยนขยะให้เป็นมูลค่า Turn Waste to Value’ ..

ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่สุด ได้แก่ การพัฒนาสินค้า และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Low Carbon Products อาทิ นวัตกรรมปูนซีเมนต์รักษ์โลก Innovative Cement that Saves the World ด้วยมาตรฐานปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก Hydraulic Cement หรือซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement รายแรกของไทย ที่มีการนำเชื้อเพลิงชีวมวล Biomass และลมร้อนเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต มาใช้เป็นเชื้อเพลิง และพลังงานทดแทน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Reduce the Carbon Footprint ในกระบวนการผลิต ได้ถึง 0.05 ตัน CO2 ต่อปูนซีเมนต์ 1 ตัน และในส่วนของ คอนกรีตคาร์บอนต่ำซีแพค CPAC Low Carbon Concrete ซึ่งเป็นสูตรคอนกรีตที่ใช้ซีเมนต์ไฮบริด Hybrid Cement ใหม่ล่าสุดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ Portland Cement ที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ในกระบวนการผลิตได้ถึง 17 กิโลกรัม CO2 ต่อคอนกรีต 1 ลูกบาศก์เมตร ..

นอกจากนั้น ในด้านการพัฒนานวัตกรรมสินค้า ยังมีการนำวัตถุดิบคุณภาพสูง Advance Materials เช่น คอนกรีตสมรรถนะสูง CPAC Ultracrete และ Mortar for 3D Printing เข้ามาใช้ในโครงการก่อสร้างเพื่อช่วยให้ประหยัดการใช้ทรัพยากรได้เป็นอย่างมากอีกด้วย ..

ทั้งนี้ สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย Thai Cement Manufacturers Association : TCMA และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ.ระบุว่า จากการใช้งานในหลายประเทศทั่วโลกแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก Hydraulic Cement หรือซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement สามารถถูกนำมาใช้แทนที่ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ Portland Cement ในงานก่อสร้างโครงสร้างประเภทต่าง ๆ ภายใต้ การรับรองคุณสมบัติของปูนซีเมนต์จากหลายมาตรฐานในระดับสากล อาทิ American Society for Testing and Materials : ASTM) และ European Standard : EN ..

นอกเหนือไปจากคุณสมบัติทางวิศวกรรม ที่ได้การรับรองจากหลายมาตรฐาน ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก Hydraulic Cement หรือซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement ยังถือเป็นปูนซีเมนต์ที่ยังประโยชน์ยอดเยี่ยมในด้านสิ่งแวดล้อม การกักเก็บคาร์บอน Carbon Storage อย่างถาวร และในด้านของความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ จนสามารถกล่าวได้ว่า ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก Hydraulic Cement หรือซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Carbon-Free Cement คือ ปูนซีเมนต์ Cement ที่ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และสนับสนุนส่งเสริมให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสนองตอบต่อนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 และปล่อยคายคาร์บอนเป็นศูนย์สุทธิ Net Zero Emission ในปี 2608 เพื่อร่วมกันกับนานาชาติในประชาคมโลกสำหรับการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่จุดเล็ง 1.5oC ตามข้อตกลงปารีส Paris Agreement ให้สำเร็จได้ในที่สุด ..

คาดการณ์ตลาดปูนซีเมนต์สีเขียวทั่วโลก Global Green Cement Market ..

อ้างถึงข้อมูลการสำรวจตลาดของ IMARC Group พบว่า ขนาดธุรกิจในตลาดปูนซีเมนต์สีเขียวทั่วโลก Global Green Cement Market มีมูลค่าถึง 34.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 เมื่อมองไปข้างหน้า คาดว่า ตลาดจะมีมูลค่าสูงขึ้นถึง 89.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2575 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี Compound Annual Growth Rate : CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับตลาดปูนซีเมนต์สีเขียวทั่วโลก Global Green Cement Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 10.7% ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2567-2575 ..

ทั้งนี้ กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น Increasing Environmental Regulations และเป้าหมายด้านความยั่งยืน Sustainability Goals, ความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการผลิตปูนซีเมนต์แบบดั้งเดิม Growing Awareness of Carbon Emissions in Traditional Cement Production รวมทั้งการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการก่อสร้าง Infrastructure Development & Construction Projects ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตขึ้นได้ด้วยความเร่ง ..

Green Concrete / Storing Carbon Dioxide in Cement | Credited : Massachusetts Institute of Technology / MIT

ปูนซีเมนต์สีเขียว Green Cement หรือที่รู้จักกันในชื่อซีเมนต์ที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Sustainable & Eco-Friendly Cement หรือซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement คือวัสดุก่อสร้างขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตปูนซีเมนต์แบบดั้งเดิม Traditional Cement Production .. ซีเมนต์สีเขียว Green Cement แตกต่างจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ทั่วไป Conventional Portland Cement ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี และกระบวนการที่เป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และลดการใช้พลังงาน โดยมักใช้ผลพลอยได้ทางอุตสาหกรรม เช่น เถ้าลอย ตะกรัน หรือหินปูน มาทดแทนปูนเม็ด ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในซีเมนต์แบบดั้งเดิม Traditional Cement .. ปูนซีเมนต์สีเขียว Green Cement มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Mitigate Carbon Dioxide : CO2 Emissions ในขณะที่ยังคงรักษาความสมบูรณ์ของโครงสร้าง และคุณลักษณะด้านประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับโครงการก่อสร้าง ..

ความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Awareness of Climate Change ควบคู่ไปกับความจำเป็นเร่งด่วนในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่กระตุ้นให้ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และผู้บริโภค มองหาวัสดุก่อสร้างที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด .. นอกจากนี้การดำเนินการตามกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคอาคารได้เร่งการนำโซลูชันข้อไขซีเมนต์สีเขียวมาใช้ เนื่องจากมีความเข้มข้นของคาร์บอนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับซีเมนต์แบบดั้งเดิม .. ยิ่งไปกว่านั้น ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน และอาคารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานที่เพิ่มขึ้นซึ่งจำเป็นต้องใช้วัสดุก่อสร้างที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาคารสีเขียว Green Building Standards กำลังผลักดันการเติบโตของตลาด ..

ความก้าวหน้ามากมายในการวิจัย และเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาสูตรซีเมนต์ที่เป็นนวัตกรรมโดยใช้วัสดุทดแทน และกระบวนการผลิตที่ประหยัดพลังงาน กำลังมีส่วนทำให้ตลาดเติบโต นอกจากนี้ความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาที่เอื้อต่อการสร้างกรอบการสนับสนุน และกลไกการระดมทุน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโตที่สำคัญในอนาคตจากนี้ไป ..

สรุปส่งท้าย ..

ปูนซีเมนต์ Cement คือ ปัจจัยสำคัญในคอนกรีต Concrete ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก .. ทุกปีมีการผลิตปูนซีเมนต์มากกว่า 4 พันล้านตัน กระบวนการเผาไหม้ทางเคมี และความร้อนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตปูนซีเมนต์ คือแหล่งสำคัญของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกต่อปี ..

นอกจาก ผลิตภัณฑ์ CO2Concrete ในโครงการนำร่องแนวคิดตามเทคโนโลยีการปล่อยมลพิษเป็นลบสุทธิ Negative Emissions Technologies : NETs ที่ยอดเยี่ยม และกำลังจะเป็นที่นิยมอย่างมากจากนี้ไป ซึ่งแปลงคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 จากโรงไฟฟ้า หรือโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยตรงให้เป็นคอนกรีตสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ก่ออิฐคอนกรีต เช่น บล็อก และคานรับน้ำหนักของอาคารที่สามารถใช้ในการก่อสร้างทั่วโลกนั้น การแปลงโดยตรงลักษณะนี้ ไม่มีความจำเป็นในการทำให้บริสุทธิ์เสียก่อน หรือเพิ่มปริมาณ CO2 ซึ่งเป็นปัญหาประจำถิ่นของวิธีการอื่นๆ เกือบทั้งหมดสำหรับการดูดซับการปล่อยคายจากปล่องควันของ CO2 สู่คอนกรีต Concrete ซึ่งสามารถสร้างการชดเชยคาร์บอนผ่านการกักเก็บคาร์บอน Carbon Storage ในผลิตภัณฑ์ CO2Concrete และการหลีกเลี่ยงการปล่อย CO2 โดยรวมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ และคอนกรีต Cement & Concrete Products เพื่อบูรณาการผลิตภัณฑ์ CO2Concrete ในตลาดแล้ว

กระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ไร้คาร์บอน Carbon-Free Cement Production หรือนวัตกรรมซีเมนต์คาร์บอนต่ำ Innovation in Low-Carbon Cement ล่าสุดสำหรับคอนกรีตคาร์บอนต่ำ Low Carbon Concrete จากซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement คือ คอนกรีต Concrete ที่ในวงจรกระบวนผลิตโดยรวมมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ออกสู่บรรยากาศต่ำกว่าคอนกรีตแบบดั้งเดิม Traditional Concrete นั้น ได้กลายเป็นแนวทางสำคัญอีกประการหนึ่งในการต่อสู้กับวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis เพื่อความยั่งยืนสำหรับอนาคตภาคอาคาร และสิ่งก่อสร้าง Future of the Building & Construction Sector จากนี้ไป ไม่มีข้อสงสัย ..

CO2Concrete | Credit : University of California Office of the President / UCOP

สำหรับประเทศไทยนั้น ‘คอนกรีตรักษ์โลก’ หรือ ‘ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก Hydraulic Cement’ และซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement ของไทยที่ผ่านการพัฒนาคิดค้นขึ้น โดยใช้วัสดุทดแทนปูนเม็ดในการผลิต ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ในกระบวนการผลิตน้อยลงตามไปด้วยเป็นอย่างมาก .. นอกจากคุณภาพด้านฟังก์ชันการใช้งานจะมิได้เป็นรองคอนกรีตแบบดั้งเดิม Traditional Concrete ทั่วไปแล้ว ยังช่วยตอบโจทย์ด้านการดูแลโลกอย่างอ่อนโยน ตั้งแต่กระบวนการผลิต และทั้งนี้ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์กรีนซีเมนต์ Green Cement และซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement รูปแบบอื่น ๆ ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำมาจากขยะ 100% ซึ่งอาจมีส่วนผสมของขยะถุงพลาสติกประเภท LDPE และขยะเศษขวดแก้วเท่านั้น ใช้สำหรับงานก่อสร้างถนนลาดยางมะตอย สามารถเพิ่มความเสถียรภาพ Stability ให้กับถนนลาดยางมะตอย ให้สูงกว่ามาตรฐานวิศวกรรมการทางที่กำหนดไว้ 20-30% ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงประจำปีได้มากกว่า 10% และสามารถกำจัดขยะพลาสติกในชุมชนได้มากกว่า 1 กิโลกรัม ต่อพื้นถนน 1 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังสามารถนำมาผสมกับปูนซีเมนต์ เพื่อใช้เป็นปูนก่อผนัง หรือวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปสำหรับซ่อมแซมบ้านแบบง่ายๆ ได้อีกด้วย ..

Hydraulic Cement ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด | Credited : SCG

เพราะอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ Cement Industry ต้องใช้วัตถุดิบ และเชื้อเพลิงในปริมาณมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น หินปูน ถ่านหิน และน้ำมันเตา อีกทั้งการใช้ทรัพยากรเหล่านี้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งกลุ่มบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ของไทย เช่น SCG และ TPI Group เป็นต้นนั้น จึงให้ความสำคัญกับการนำทรัพยากรเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งเป็นการบริหารการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ..

เพื่อเป็นการลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหินลง SCG และ TPI Group จึงหันมาใช้เชื้อเพลิงหมุนเวียนในรูปแบบของ ‘น้ำมัน’ ที่ได้จากการแปรรูปขยะ Pyrolysis Oil และยังนำน้ำมันที่ถูกใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการผลิตอื่น ๆ เพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยสามารถนำเชื้อเพลิงทดแทนเหล่านี้มาใช้ทดแทนถ่านหินได้กว่า 30-40% และขยะของเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่นกัน โดยในปัจจุบันสามารถนำหินคลุกเหลือทิ้งมาผ่านกระบวนการแปรสภาพ และนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ได้ถึง 100% แล้ว ..

นอกจากเรื่องเชื้อเพลิงแล้ว พลังงานต่างๆ โดยเฉพาะพลังงานความร้อนที่ปล่อยออกมาจากกระบวนการผลิต เป็นอีกหนึ่งแหล่งพลังงานที่ทาง SCG และ TPI Group ให้ความสำคัญ มีการนำมาใช้ซ้ำกับหม้อบดวัตถุดิบ และหม้อบดถ่านหิน ซึ่งสามารถช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงไปได้ปริมาณมหาศาล ..

ด้วยนวัตกรรมใหม่ Hydraulic Cement ของ SCG และ TPI Group นั้น พบว่า พวกมันสามารถใช้ทดแทน Portland Cement ได้โดยสามารถลดพลังงานการผลิตปูน และลดการปล่อยคายคาร์บอน Carbon Emission ลงได้มากกว่า 10% และยิ่งไปกว่านั้น Super Mixed Cement ของ TPI Group ทำให้ปูนน้ำหนัก 40 Kg สามารถใช้งานได้เทียบเท่า Mixed Cement ทั่วไป 50 Kg ผลที่ได้คือการใช้พลังงานกระบวนผลิตน้อยกว่า แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์สูงขึ้นแทน และช่วยลดสภาวะโลกร้อนลงได้อย่างยอดเยี่ยม ..

ทั้งนี้ ต้นทุนการผลิตปูนซีเมนต์ของ SCG และ TPI Group ที่มาจากการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันดีเซลในการขนส่ง และพลังงานความร้อน ลดลงได้มากถึง 40% โดยการใช้ขยะเทศบาลแทนถ่านหิน และนวัตกรรมต่างๆ ที่ทำให้กระบวนการผลิตใช้พลังงานน้อยลง จึงทำให้ธุรกิจมีกำไรมากขึ้น และเติบโตขึ้น ควบคู่การส่งเสริมการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป โดยการลด Carbon Dioxide : CO2 Emission สู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ Zero Carbon Emission ..

สุดท้ายคือ การจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งนับเป็นทรัพยากรสำคัญที่ใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งกลุ่มบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ของไทย ทั้ง SCG และ TPI Group นั้น มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการนำทรัพยากรน้ำมาใช้ รวมไปถึงการนำน้ำเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่ด้วย โดยโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ จะไม่มีการระบายน้ำเสียออกจากโรงงานเลย และยังนำขยะของเหลวเหลือทิ้ง Liquid Waste อื่นๆ มาเข้าสู่ระบบบำบัดปรับปรุงคุณภาพของน้ำให้อยู่ในมาตรฐาน EIA แล้วนำกลับมาใช้ได้อีกโดยไม่มีการปล่อยออกมาภายนอกโรงงานอีกด้วย ..

สรุปภาพรวมการผลิตซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement ในปัจจุบัน แสดงให้เห็นชัดเจนว่า นักวิจัยพบวิธีกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญระดับโลกได้อย่างมั่นใจแล้ว ..

ในกระบวนการใหม่ หินปูนที่บดแล้วจะถูกละลายในกรดที่อิเล็กโทรดอันหนึ่ง และคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีความบริสุทธิ์สูง High-Purity Carbon Dioxide : CO2 จะถูกปล่อยออกมา ในขณะที่แคลเซียมไฮดรอกไซด์ Calcium Hydroxide : Ca(OH)2 หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Lime จะตกตะกอนออกมาเป็นของแข็งที่อีกอิเล็กโทรด .. แคลเซียมไฮดรอกไซด์ Calcium Hydroxide : Ca(OH)2 สามารถนำไปแปรรูปในขั้นตอนอื่นเพื่อผลิตซีเมนต์ Cement ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแคลเซียมซิลิเกต Calcium Silicate : Ca2SiO4 ..

คาร์บอนไดออกไซด์ในรูปของสายกระแสบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้น Carbon Dioxide : CO2, in the Form of a Pure, Concentrated Stream สามารถถูกแยกออกได้อย่างง่ายดาย นำไปใช้ประโยชน์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น เชื้อเพลิงเหลวเพื่อทดแทนน้ำมันเบนซิน หรือใช้สำหรับการใช้งานต่าง ๆ เช่น การนำน้ำมันกลับมาใช้ใหม่ หรือแม้แต่ในเครื่องดื่มอัดลม และน้ำแข็งแห้ง .. ผลลัพธ์ก็คือ ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 จากโรงงานออกสู่สิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement ขณะที่ในทางตรงกันข้าม ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 ที่ปล่อยออกมาจากโรงงานปูนซีเมนต์แบบเดิมทั่วไป Conventional cement plants จะมีการปนเปื้อนอย่างมากกับไนโตรเจนออกไซด์ Nitrogen Oxide : NOx , ซัลเฟอร์ออกไซด์ Sulfur Oxide : SOx รวมทั้งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ Carbon Monoxide : CO และวัสดุอื่น ๆ มาพร้อมด้วย ทำให้ไม่สามารถนำคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 กลับมาใช้ประโยชน์ได้ ..

ทั้งนี้ การคำนวณแสดงให้เห็นว่า ไฮโดรเจน Hydrogen : H2 และออกซิเจน Oxygen : O2 ที่ปล่อยออกมาในกระบวนการผลิตซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement นี้ สามารถรวมตัวกันใหม่ได้ เช่น ในเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cells หรือถูกเผาเพื่อผลิตพลังงานเพียงพอที่จะเติมเชื้อเพลิงให้กับกระบวนการที่เหลือทั้งหมด โดยไม่ได้ให้ผลผลิตของเสียอะไรเลยนอกจากไอน้ำ Water : H2O Vapor ..

การจัดเก็บคาร์บอน Carbon Storage ในรูปแบบของวัสดุก่อสร้าง Building & Construction Materials อย่างถาวร และซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement ในตลาด กำลังขยับเข้าไปใกล้ความจริงยิ่งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว ซึ่งรวมถึงการใช้วัสดุก่อสร้างที่ผลิตขึ้นจากขยะของเสีย Building Materials from Waste เพื่อให้อาคารใหม่ ๆ เหล่านี้ รักษ์โลกมากขึ้น ปล่อยคายคาร์บอนในกระบวนผลิตซีเมนต์ Cement และคอนกรีต Concrete น้อยลง รวมทั้งกลายเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนปัญญาประดิษฐ์ Artificial Carbon Sinks ระยะทนยาวได้ต่อไปพร้อมด้วยนั้น คือแนวคิดตามเทคโนโลยีการปล่อยมลพิษเป็นลบสุทธิ Negative Emissions Technologies: NETs ที่ยอดเยี่ยม และกำลังจะเป็นที่นิยมอย่างมากจากนี้ไป ..

CO2 Concrete | Credit : University of California Office of the President / UCOP

คาดหมายได้ว่า ด้วยซีเมนต์ปลอดคาร์บอน Carbon-Free Cement หรือที่เรียกกันว่า คอนกรีต และซีเมนต์สีเขียว Green Cement & Concrete จะผลักดันให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ Cement Industry ในภาพรวม สามารถแสดงบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่สะอาด และยั่งยืน Transition to a Clean & Sustainable Future และเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอน Carbon Capture Technologies จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่ออนาคตความอยู่รอดในภาคอุตสาหกรรม Future Key Factor in the Industry’s Survival ไปพร้อมด้วยจากนี้ไป ..

…………………………………………

คอลัมน์ : Energy Key

By โลกสีฟ้า ..

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-

Rethinking Cement & Concrete Could Pave the Way to Net Zero | World Economic Forum :-

https://www.weforum.org/agenda/2024/03/cement-concrete-net-zero

How Hydraulic Cement Reduces Global Warming | RISC :-

https://risc.in.th/knowledge/how-hydraulic-cement-reduces-global-warming

Green Cement: The Future of Sustainability | JSW One Homes :-

https://www.jswonehomes.com/blogs/Materials/green-cement-the-future-of-sustainability#green-cement-the-future-of-sustainability

Carbon – Free Cement Is Now A Step Closer | Forbes :-

https://search.app/46MgB6Ms2XPydVNM8

6 Innovative Startups that are Kicking CO2 out of Cement and Concrete | Canary media :-

https://www.canarymedia.com/articles/clean-industry/6-innovative-startups-that-are-kicking-co2-out-of-cement-and-concrete

CarbiCrete: Decarbonized Concrete :-

Green Cement Production is Scaling Up – and it could cut the Carbon Footprint of Construction | The Conversation :-

https://theconversation.com/green-cement-production-is-scaling-up-and-it-could-cut-the-carbon-footprint-of-construction-227688

Green Cement Market Size | IMARC Services Private Limited :-

https://www.imarcgroup.com/green-cement-market

The Six – Sector Solution to the Climate Crisis :-

https://photos.app.goo.gl/bpMYDhQjaAs21ByW9

Net Zero Emissions Electricity & Carbon Neutrality :-

https://photos.app.goo.gl/EEjMKeZqJegVMpb16

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img