Electric Vehicles : EVs แนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

EVs : Trends in the Electric Vehicle Industry

“….รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน กำลังเข้ายึดครองถนนอย่างแน่นอนเปลี่ยนแปลงไม่ได้ …”

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs ทั่วโลก ยังคงเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเติบโตกลับชะลอตัว .. ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global EV Sales เพิ่มขึ้น 22% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของตลาดรถยนต์โดยรวม ซึ่งอยู่ที่ 3.7% .. ทั้งนี้ Bloomberg NEF คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV Sales จะสูงถึง 16.7 ล้านคัน ในปี 2567 นี้ เพิ่มขึ้นจาก 13.9 ล้านคัน ในปี 2566 ..

ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global EV Sales เพิ่มขึ้น และข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ในเดือนกันยายน 2567 ถือเป็นการเติบโตที่มั่นคงมาก แม้ว่าอัตราการเติบโตจะลดลงจากการเติบโต อยู่ที่ 33% เมื่อปีที่แล้ว และลดลงจากการเติบโต อยู่ที่ 60% ในปี 2565 ก่อนหน้านี้ก็ตาม ..

ประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น Japan และเยอรมนี Germany ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทฯผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดบางแห่ง ไม่เพียงแต่เห็นอัตราการเติบโตชะลอตัวเท่านั้น แต่ในบางพื้นที่ยังเห็นยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าลดลงอีกด้วย การลดลงในเยอรมนีนั้น รุนแรงเป็นพิเศษในเดือนสิงหาคม ซึ่งยอดขายลดลงถึง 61% แม้ว่าจะดูน่าตกใจเมื่อมองเผินๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นอย่างที่เห็น ในเดือนสิงหาคม 2566 ก่อนหน้านี้ พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก่อนที่จะมีการตัดเงินอุดหนุนจากภาครัฐ ทำให้ข้อมูลการเปรียบเทียบแบบปีต่อปี ผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวไป ..

การตรวจวัดความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป Gauging EV demand in Europe มีความซับซ้อนในขณะนี้ เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์หลายราย Many Automakers ยังคงชะลอการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด จนถึงปี 2568 เมื่อเป้าหมายการปล่อย CO₂ ของรถยนต์ทั่วทั้งสหภาพยุโรปเข้มงวดขึ้นอีกครั้ง .. โดยทั่วไปแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์ Automakers ได้ปฏิบัติตามเป้าหมายดังกล่าวแล้วในปี 2567 นี้ และไม่มีแรงจูงใจใดๆ ที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs เพิ่มเติมนั่นเอง ..

เหตุการณ์ที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นในปี 2562 ก่อนที่มาตรฐานการปล่อยมลพิษจะเข้มงวดขึ้น Tightening of Emissions Standards ในปี 2564 โดยพบว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัว EV Sales Slowdown ในปีก่อนหน้า จากนั้นจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีหลัง ซึ่งเราน่าจะเห็นเหตุการณ์ซ้ำรอยในยุโรปอีกครั้ง โดยผู้ผลิตรถยนต์เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs รุ่นใหม่ที่ราคาไม่แพงแล้ว เช่น Renault 5, Hyundai Inster, Fiat Grande Panda, Skoda Epiq, Toyota bZ4X และ Volkswagen ID.2all เป็นต้น ..

ราคา Pricing ยังคงเป็นประเด็นปัญหาในยุโรป โดยผู้ผลิตรถยนต์บางรายพยายามคืนทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม EVs ทั้งหมดในปริมาณการขายที่ค่อนข้างต่ำ ตัวอย่างเช่น Fiat 500e มีราคาสูงกว่า Fiat 500 รุ่นมาตรฐานเกือบ 12,000 ยูโร หรือ 13,000 เหรียญสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีแบตเตอรี่ราคาเพียงประมาณ 3,000 ยูโรเท่านั้น ตามการวิเคราะห์ของ BNEF นั้น Fiat 500 รุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในมีราคาต่ำกว่า 19,000 ยูโร .. ดังนั้นการขอให้ผู้บริโภคในตลาดต้องจ่ายเงินมากกว่านั้น มากกว่า 60% เพื่อเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า จึงไม่ใช่กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ ..

หากมองไปทางทิศตะวันออก จีน China ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดเบื้องหลังตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global EV Market โดยคิดเป็น 6 ใน 10 ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายได้ทั่วโลกในปี 2567 นี้ และส่วนแบ่งของรถยนต์ไฟฟ้าในการขายภายในประเทศตอนนี้ก็มากกว่า 50% แล้ว ยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 50% ในเดือนกันยายน และตลาดก็ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง No Sign of Slowing Down ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ระดับนานาชาติ International Automakers ถูกบีบให้ออกไปจากตลาดจีน Squeezed out of the China Market อย่างรวดเร็ว ..

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสังเกต และเครื่องหมายดอกจันที่สำคัญนอกเหนือไปจากตัวเลขในจีน นั่นคือ การเติบโตส่วนใหญ่มาจากรถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก และรถยนต์ไฟฟ้าแบบขยายระยะทาง Plug-In Hybrids & Range-Extended EVs มากกว่าการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ Battery-Electric Vehicles : BEVs ที่ขับเคลื่อนการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา .. ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก Retail BEV Sales ในจีนเพิ่มขึ้น 18% ในปีนี้ ขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก Plug-In Hybrids Sales เพิ่มขึ้น 37% ..

บางทีนี่อาจเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการชะลอตัวของรถยนต์ไฟฟ้า Most Substantive Part of the EV Slowdown Narrative .. ภาพรวมยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ทั่วโลก Global Electric Vehicle : BEV Sales จะยังคงเพิ่มขึ้นในปี 2567 นี้ แต่การเติบโตนั้น ช้ากว่ารถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก Plug-In Hybrids เนื่องจากยอดขายในจีน Sales in China ..

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ EV Sales in the US ต่ำกว่ายุโรป Europe และจีน China อยู่มาก แต่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ก็ยังทำลายสถิติเดิม โดยข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV Sales ใน สหรัฐฯ ปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 390,000 คัน ..

ยอดขาย EVs ของ Tesla ชะลอตัวลงในปี 2567 และลดลงต่ำกว่า 50% ของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ขายในสหรัฐฯ All EVs Sold in the US จนถึงขั้นต้องปลดพนักงาน แต่ยอดขาย EVs ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มอื่นต่างๆ เช่น GM และ Hyundai ก็ได้ช่วยชดเชยส่วนที่ลดลงเช่นกัน รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Honda ที่ชื่อ Prologue ก็ขายดีเช่นกัน คาดว่า ยอดขายจนถึงสิ้นปี 2567 นี้ จะแข็งแกร่ง โดยรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs จะมียอดขายเกิน 10% ..

เมื่อสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การอ่านข้อมูลเชิงลึกมากกว่าการดูเพียงแค่พาดหัวข่าว และเจาะลึกตัวเลขจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าดูเหมือนกำลังชะลอตัวลง แต่ปริมาณยังคงเพิ่มขึ้น และจะคิดเป็นมากกว่า 20% ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปี 2567 นี้ ..

ข้อเท็จจริงภาพรวมยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป EV Sales in Europe หยุดนิ่ง หลังจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2563 และ 2564

.. ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดเกิดใหม่ และเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา Emerging Market & Developing Economies : EMDEs นอกประเทศจีน ยังคงเพิ่มขึ้นในปี 2566 และปี 2567 แต่โดยรวมแล้วยังคงอยู่ในระดับต่ำ ..

ทั้งนี้ สาเหตุบางประการที่ทำให้การเติบโตชะลอตัว ได้แก่ โรคระบาด และต้นทุนที่เกี่ยวข้อง Pandemic & its Associated Costs ทำให้งบประมาณสาธารณะ Public Budgets ซึ่งผลักดันให้เงินทุนสำหรับโครงการสีเขียวมุ่งไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้น ตึงตัวในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับค่าครองชีพ และค่าที่อยู่อาศัย Cost of Living & Housing ที่สูงขึ้น รวมทั้งความท้าทายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Public Charging Challenges .. นอกจากนั้น กรณีไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle Fires กลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลก ทำให้ผู้บริโภค Consumers เกิดความสงสัยเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs มาพร้อมด้วย ..

อย่างไรก็ตาม ผู้คนส่วนใหญ่ ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตที่สดใสของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า Future of the EV Market และองค์การพลังงานระหว่างประเทศ International Energy Agency : IEA ยังคงคาดหมายว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV Market กำลังดำเนินไปได้ดีอยู่แล้ว และจะดีขึ้นในปีต่อ ๆ ไปด้วยสมรรถนะตัวรถที่สูงขึ้น และราคาที่ลดลงเรื่อยๆ ..

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า Trends in Electric Cars และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Demand for Electric Vehicles : EVs ..

ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Demand for Electric Vehicles : EVs เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะยังคงเติบโตต่อไป .. ยอดขายในปี 2566 นั้น รถยนต์ไฟฟ้า EVs คิดเป็นเกือบ 16% ของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วโลก Global Passenger Car Sales เพิ่มขึ้นจากประมาณ 4% ในปี 2563 ในไตรมาสแรกของปี 2567 มีการขายรถยนต์ไฟฟ้า มากกว่า 3 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 .. ขนาดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Electric Vehicle : EV Market มีมูลค่า 500.48 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 และคาดว่าจะเติบโตเป็น 1,891.08 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2575 ..

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ International Energy Agency : IEA ชี้ชัดเจนว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Car Sales สูงถึง 17 ล้านคัน ในปี 2567 คิดเป็นรถยนต์มากกว่า 1 ใน 5 คันที่ขายทั่วโลก รวมทั้ง IEA คาดการณ์ว่า ส่วนแบ่งการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Share of Electric Car Sales จะสูงถึง 35% ภายในปี 2573 .. McKinsey & Company คาดการณ์อีกด้วยว่า ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Worldwide Demand for EVs จะเติบโตขึ้น 6 เท่า ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2564-2573 ด้วยยอดขายประจำปี จะเพิ่มจาก 6.5 ล้านคันต่อปี เป็นประมาณ 40 ล้านคันต่อปี โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มิใช่สำหรับงานหนัก Electric Light-Duty Vehicle Sales นั้น ได้รับการคาดหมายว่าจะสูงถึงเกือบ 55% ในปี 2573 ..

ทั้งนี้ ปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลต่อการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ :-

–การสนับสนุนนโยบาย Policy Support : คาดว่าจะมีการสนับสนุนนโยบายที่เข้มแข็ง เช่น การประหยัดเชื้อเพลิงและมาตรฐาน CO₂ อย่างต่อเนื่อง ..

–ความพร้อมจำหน่ายของรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า Availability of EV Models : คาดว่าความพร้อมจำหน่ายของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดต่อไป จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ..

–ราคาแบตเตอรี่ และรถยนต์ที่ลดลง Falling Battery & Car Prices : คาดว่าราคาแบตเตอรี่ และรถยนต์ที่ลดลง จะส่งผลต่ออัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs Growth Rate ..

–การแข่งขันระหว่างผู้ผลิต Competition among Manufacturers : คาดว่าการแข่งขันระหว่างผู้ผลิตจะส่งผลต่ออัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs Growth Rate ให้เพิ่มขึ้นได้ ..

–นโยบาย และแรงจูงใจระดับชาติ National Policies & Incentives : คาดว่านโยบายภาครัฐของแต่ละประเทศ และแรงจูงใจระดับชาติรูปแบบใหม่ๆ เพื่อมุงสู่ระบบเศรษฐกิจสีเขียว Green Economy จะช่วยกระตุ้นยอดขาย Bolster Sales ได้เป็นอย่างดีจากนี้ไป ..

–โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ Charging Infrastructure : มีการสร้างสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นในสถานที่สาธารณะ ทำให้ EVs เข้าถึง และใช้งานได้ง่ายขึ้น ..

–เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Battery Technology : การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ EVs มีระยะการใช้งานได้ยาวไกลเพิ่มขึ้น ..

–ทางเลือกที่มากขึ้น More Choices : ยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs มีรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายมากขึ้นที่พร้อมจำหน่าย ดึงดูดผู้บริโภคได้มากขึ้น ..

ทั้งนี้ บางคนอาจบอกว่า ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า EV Demand for Evs เริ่มลดลง รายงานที่ได้จากการตอบแบบสอบถาม 19,000 คนจาก 28 ประเทศ พบว่าแม้ว่า จำนวนผู้ที่ต้องการซื้อยานยนต์ Electric Vehicles : EVs จะเพิ่มขึ้น แต่อัตราความต้องการกลับลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากประเด็นเรื่องของราคา และกำลังขับ Price & Power Output ..

อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Car Sales ในปี 2566 พุ่งแตะระดับ 14 ล้านคัน โดย 95% ของยอดขายดังกล่าวหลักๆ อยู่ในจีน China, ยุโรป Europe และสหรัฐฯ United States ..

ในปี 2566 มีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั่วโลก New Electric Cars were Registered Globally เกือบ 14 ล้านคัน ทำให้จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดบนท้องถนน Total Number of EVs on the Roads อยู่ที่ 40 ล้านคัน ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ยอดขายจากรายงาน Global EV Outlook ประจำปี 2566 .. ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Car Sales ในปี 2566 สูงกว่าปี 2565 ถึง 3.5 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าปี 2561 ถึง 6 เท่า ซึ่งเร็วกว่าเพียง 5 ปี เท่านั้น .. ในปี 2566 มีผู้จดทะเบียนรายใหม่มากกว่า 250,000 รายต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่ายอดรวมประจำปี ในปี 2556 ซึ่งเร็วกว่า 10 ปี รถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นประมาณ 18% ของรถยนต์ทั้งหมดที่ขายในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 14% ในปี 2565 และเพียง 2% เมื่อ 5 ปีก่อนในปี 2561 แนวโน้มเหล่านี้บ่งชี้ว่า การเติบโตยังคงแข็งแกร่งในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตเต็มที่ .. รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ Battery Electric Cars คิดเป็น 70% ของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ในปี 2566 ..

สำหรับประเทศไทยนั้น จำนวนการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า Electric Car Registrations ของไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นอยู่ที่เกือบ 90,000 คัน โดยมีส่วนแบ่งการขายรถยนต์ อยู่ที่ 10% ซึ่งเทียบได้กับส่วนแบ่งในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากเมื่อพิจารณาว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมในประเทศ ลดลงตั้งแต่ปี 2565-2566 .. เงินอุดหนุนใหม่ๆ New Subsidies รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ Domestic Battery Manufacturing, ภาษีนำเข้า และภาษีสรรพสามิตที่ลดลง Lower Import & Excise Taxes ประกอบกับการเข้ามามีบทบาทของผู้ผลิตรถยนต์จีนที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ..

บริษัทจีน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายของไทยจนถึงปัจจุบัน และบริษัทฯ เหล่านี้อาจโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจาก BYD วางแผนที่จะเริ่มดำเนินการโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย EV Production Facilities in Thailand ในปี 2567 โดยมีกำลังการผลิตต่อปีในประเทศไทย อยู่ที่ 150,000 คัน ด้วยการลงทุนเกือบ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ .. ประเทศไทย มีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญสำหรับตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก รวมทั้งมีเป้าหมายที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ มูลค่า 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใน 4 ปี โดยได้รับการสนับสนุนจากแรงจูงใจเฉพาะเพื่อส่งเสริมการลงทุน Specific Incentives to Foster Investment มาพร้อมด้วย ..

ข้อเท็จจริงในภาพรวมนั้น ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Electric Car Sales ในไตรมาสแรกของปี 2567 ยังคงแข็งแกร่ง โดยแซงหน้ายอดขายในช่วงเดียวกันของปี 2566 ประมาณ 25% จนแตะระดับมากกว่า 3 ล้านคัน .. อัตราการเติบโตนี้ใกล้เคียงกับการเพิ่มขึ้นที่สังเกตได้ในช่วงเดียวกันของปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยยอดขายเพิ่มเติมส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน ซึ่งขายรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2566 ประมาณครึ่งล้านคัน .. เมื่อเทียบเคียงกันแล้ว การเติบโตที่สำคัญที่สุด เกิดขึ้นนอกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหลัก ซึ่งยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 50% ซึ่งบ่งชี้ว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ..

จากแนวโน้มล่าสุด และเมื่อพิจารณาว่า เป้าหมายการลดการปล่อยคาย CO₂ ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น จะเริ่มขึ้นในปี 2568 เท่านั้น การเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Growth in Electric Car Sales ในยุโรป คาดว่าจะต่ำที่สุดในบรรดาตลาดที่ใหญ่ที่สุด 3 แห่ง .. ยอดขายคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านคัน เมื่อสิ้นสุดปี 2567 ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่น้อยกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และแม้ว่า ในบริบทที่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล Passenger Car Sales มีแนวโน้มอ่อนแอโดยทั่วไป แต่มั่นใจได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า Electric Cars จะยังคงคิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของรถยนต์ที่ขายในยุโรปอยู่ต่อไป ..

นอกเหนือจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV Market หลักที่เป็น จีน China, ยุโรป Europe และสหรัฐฯ United States แล้ว คาดว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Car Sales จะแตะหลัก 1 ล้านคัน ในปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับปี 2566 .. แนวโน้มล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในประเทศ และจากจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน้นย้ำว่า ภูมิภาคนี้พร้อมที่จะมีส่วนสนับสนุนที่แข็งแกร่งต่อยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV Market ที่กำลังเติบโต แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนบางประการที่กำลังจะมีขึ้นในอินเดียว่าจะอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าต่อเนื่องต่อไปหรือไม่ แต่ก็คาดหมายว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดีย EVs Sales in India จะยังคงแข็งแกร่ง และจะเติบโต อยู่ที่ประมาณ 50% เมื่อเทียบกับปี 2566 คาดว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคทั้งหมดนอกเหนือจากตลาด EVs หลักทั้ง 3 แห่งจะคิดเป็นประมาณ 5% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในปี 2567 ซึ่งหากพิจารณาจากอัตราการเติบโตสูงที่เห็นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาจบ่งชี้ว่า จุดเปลี่ยนสู่การนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ..

แน่นอนว่า มีแนวโน้มด้านลบต่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2567 ปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูง และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ อาจส่งผลให้การเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2567 ลดลงบ้างได้ .. ความท้าทายอื่น ๆ อาจมาจากข้อจำกัดต่อแรงจูงใจทางภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ IRA Restrictions on US Electric Car Tax Incentives และการเข้มงวดข้อกำหนดทางเทคนิค Tightening of Technical Requirements สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs เพื่อให้มีคุณสมบัติสำหรับการยกเว้นภาษีการซื้อในจีน .. อย่างไรก็ตาม ยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ต้องพิจารณาด้วย ตลาดใหม่ๆ อาจเปิดกว้างขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ Automakers ยักษ์ใหญ่หลายค่าย วางแผนงานขยายการดำเนินการด้านรถยนต์ไฟฟ้า Expand their EV Operations มากขึ้น และบริษัทฯ ผู้มุ่งเข้าสู่ตลาดรายใหม่แข่งขันกันเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด New Entrants Compete for Market Share ซึ่งอาจส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Growth in Electric Car Sales Globally เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ประมาณการไว้ในตอนแรกด้วยราคาที่ลดลงอีกมากจากนี้ไป ..

ทั้งนี้ เมื่อเรากล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs นั้น มักจะหมายถึงยานยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยชุดแบตเตอรี่ กับมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น .. อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cell Electric Vehicles : FCEVs ก็ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทหนึ่งด้วยเช่นกัน และการปรากฏตัวของพวกมันในตลาด มิได้เพียงกระทบต่อวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในระบบคมนาคมขนส่งเท่านั้น แต่ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงต่ออุตสาหกรรมน้ำมันในวงกว้าง รวมทั้งการบริโภคสำหรับอุตสาหกรรมปลายทางอีกมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยคุณภาพชีวิตในระบบเศรษฐกิจ และสังคมที่ดีกว่า ..

ยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs กระแสหลัก ซึ่งหมายถึง Battery Electric Vehicles : BEVs, Fuel Cell Electric Vehicles : FCEVs และรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs ประเภทอื่นต่างๆ กำลังเดินหน้าเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ และช่วยลดคาร์บอนในสถานการณ์กอบกู้วิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis บนโลกใบนี้ ..

รถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs และรวมถึง Fuel Cell Electric Vehicles : FCEVs เหล่านี้ คืออีกทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งของผู้คนในอันที่จะทำให้ภาคการขนส่ง Transport Sector สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สำเร็จเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 4-5 เท่า หรือมากกว่านั้น ภายในปี 2050 หรือ พ.ศ.2593 และสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงให้มาก ได้แก่ ประเด็นเรื่องของราคา ..

ตัวแสดงในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่างเร่งความเร็วของนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ ในขณะที่พวกเขาพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ ของการขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า การขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการประยุกต์ใช้งานร่วมกับเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในแบบผสมผสาน Hybrid .. อุตสาหกรรมยานยนต์ ดึงดูดการลงทุนมากกว่า 400 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าประมาณ 100 พันล้านเหรียญสหรัฐฯมาตั้งแต่ต้นปี 2563 เงินทั้งหมดนี้พุ่งเป้าหมายไปที่บริษัทฯ และสตาร์ทอัพที่ทำงานเกี่ยวกับยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า Electrifying Mobility, การเชื่อมต่อยานพาหนะ Connecting Vehicles และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ Autonomous Driving Technology .. นวัตกรรมเทคโนโลยีเหล่านี้ จะช่วยลดต้นทุนยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs และทำให้การขับเคลื่อนแบบใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกันกับระบบอำนวยความสะดวกรูปแบบต่างๆ กลายเป็นทางเลือกที่แท้จริงสำหรับการเป็นเจ้าของรถยนต์ในอนาคต ..

การใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนยานยนต์ กำลังจะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการขนส่งในภาพรวมทั้งหมดทั่วโลก และนำเสนอโอกาสสำคัญสำหรับยานยนต์ทุกกลุ่ม แม้ว่า ขนาด ความเร็ว และขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงจะแตกต่างกันไป เพื่อให้เกิดการยอมรับอย่างรวดเร็ว และแพร่หลายในการขับเคลื่อนยานยนต์ด้วยกำลังไฟฟ้า .. การเปิดตัว Electric Vehicles : EVs รุ่นใหม่ๆ ในตลาด คือก้าวสำคัญยิ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลง ..

นอกจากนี้ ระบบนิเวศของการเคลื่อนไหวทั้งหมด จะต้องเดินหน้าทำงานพร้อมกันไปในทุกระดับเพื่อให้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ และโอกาสทางธุรกิจ ตั้งแต่ผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ EVs ไปจนถึงผู้ให้เงินทุน ตัวแทนจำหน่าย ผู้ให้บริการด้านพลังงาน ผู้ดำเนินการสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า และผู้บริโภค .. ทั้งหมดนี้หมายถึง ยุคที่รุ่งเรืองของยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันก๊าด กำลังจะกลายเป็นอดีต และการปฏิวัติของ BEVs และ FCEVs ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เริ่มขึ้นแล้ว ..

คาดการณ์ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Electric Vehicle : EV Market ..

อ้างถึงข้อมูลการสำรวจตลาดของ Precedence Research พบว่า ขนาดธุรกิจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Electric Vehicle : EV Market มีมูลค่า 255.54 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2,108.80 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2576 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี Compound Annual Growth Rate : CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับการลงทุนในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Electric Vehicle: EV Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 23.42% ในช่วงเวลาที่คาดการณ์ ปี 2567-2576 .. ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle : EV Sales เพิ่มขึ้นจาก 3.24 ล้านคัน ในปี 2563 เป็น 10 ล้านคัน ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 55% จากปี 2564 รวมทั้งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle : EV Sales อยู่ที่ 14 ล้านคัน ในปี 2566 และเติบโตขึ้น ในปี 2567 ได้สูงถึง 16.6-17 ล้านคันทั่วโลก ..

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Factors that are Contributing to the Growth of EV Sales ได้แก่ การแข่งขันระหว่างผู้ผลิต Competition Among Manufacturers, ราคาแบตเตอรี่ และรถยนต์ที่ลดลง Falling Battery & Car Prices, การสนับสนุนนโยบายอย่างต่อเนื่อง Ongoing Policy Support และรูปแบบธุรกิจการให้เช่า Leasing Business Models ..

อย่างไรก็ตาม ความกังวลบางประการเกี่ยวกับอัตราการเติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle Industry นี้ ได้แก่ อัตรากำไรที่ลดลง Tight Margins, ราคาโลหะของแบตเตอรี่ที่ผันผวน Volatile Battery Metal Prices, เงินเฟ้อที่สูง High Inflation และการเลิกให้แรงจูงใจในการซื้อ Phase-Out of Purchase Incentives ของภาครัฐในบางประเทศ ..

ทั้งนี้ เงินทุน และการลงทุนที่เพิ่มขึ้น Growing Funding & Investments จากผู้เล่นหลักในตลาด คือแรงผลักดันการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle Market Growth .. ก่อนหน้านี้ ฟอร์ด Ford เคยระบุว่าได้ลงทุนไปแล้ว 11,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการเปลี่ยนไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์เป็นไฟฟ้าจนถึงปี 2565 .. ล่าสุด บริษัทฯ อ้างว่า ได้เพิ่มการใช้จ่ายในรถยนต์ไร้คนขับ และรถยนต์ไฟฟ้า Driverless & Electrified Vehicles เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในช่วงที่ยังมีมาตรการล็อกดาวน์อยู่ .. นอกจากนี้ เมอร์เซเดสเบนซ์ Mercedes Benz ยังยืนยันด้วยว่าจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบเสียบปลั๊กใหม่ New Plug-In Hybrid Electric Vehicles และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน Entirely Electric Cars จำนวน 25 รุ่น ภายในปี 2568 .. ข้อเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของบริษัทฯ ดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัว Expanding Market for Electric Vehicles : EVs ได้เป็นอย่างดี ..

นอกจากนั้น ตลาดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Electric Vehicle : EV Charging Station Market มีมูลค่าประมาณ 34,590 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 และคาดว่าจะเติบโตถึง 344,610 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2575 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีที่น่าทึ่งที่ อยู่ที่ค่า CAGR 29.1% ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์มาพร้อมด้วย ..

แนวโน้มการเติบโตของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Growth Trend of EV Charging Stations เป็นสัดส่วนโดยตรงกับอัตราการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานทั่วโลก .. จากสถิติ นอร์เวย์ Norway คือผู้นำโลกในด้านสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายได้ต่อปีจากยอดขายรถยนต์ทั้งหมด โดยอยู่ที่ 49.1% รองลงมาคือไอซ์แลนด์ Iceland อยู่ที่ 19.1%, สวีเดน Sweden อยู่ที่ 8%, เนเธอร์แลนด์ Netherlands อยู่ที่ 6.7%, ฟินแลนด์ Finland อยู่ที่ 4.7% และจีน China อยู่ที่ 4.4%

นอกจากนี้ จากสถิติที่เปิดเผยสำหรับสหรัฐฯ รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ในปี 2563 มีจำนวน 1,019,260 คัน โดยแคลิฟอร์เนีย California, ฟลอริดา Florida และเท็กซัส Texas มีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนมากที่สุด Leading in the Number of EV Registrations ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากมาตรการ และนโยบายของรัฐ Government Policies ที่น่าดึงดูดใจสำหรับการลดอัตราการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ Reducing the Rate of Emission from Vehicles ..

สำหรับประเทศไทยนั้น ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย Thailand’s EV Market เติบโตอย่างน่าทึ่ง โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV Sales พุ่งสูงขึ้นเกือบ 8 เท่า เป็น 76,000 คัน คิดเป็น 12% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดด้วยส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นเป็น 14% ในไตรมาสแรกของปี 2567 .. การขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้ ตอกย้ำการก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ EV Market in Southeast Asia สำหรับอนาคตจากนี้ไป ..

สรุปส่งท้าย ..

รถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles : EVs ซึ่งรวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen Fuel Cell Electric Vehicles : FCEVs กำลังเข้ายึดครองถนนอย่างแน่นอนเปลี่ยนแปลงไม่ได้ .. คาดหมายได้ว่า รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน และดีเซล Petrol & Diesel Cars จะกลายเป็นอดีตในไม่ช้า .. สหภาพยุโรป European Union ได้สั่งห้ามการซื้อขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไป เพื่อเร่งการเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานที่สะอาดขึ้น Switching to Cleaner Energy Sources และลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Reducing Climate Change ..

สำหรับตลาด และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Electric Vehicles : EVs ในประเทศไทยนั้น .. จนถึงปี 2573 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มุ่งดำเนินแผนงานตามอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EVs ให้ได้ 30% ของยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศ Total Automobile Production in the Country โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ปี 2563-2565 สำหรับรถราชการ รถสาธารณะ รวมทั้งจักรยานยนต์ไฟฟ้า 60,000-110,000 คัน .. ระยะกลาง ปี 2564-2568 จะผลักดัน Eco EV จำนวน 100,000-250,000 คัน และ City Bus อีก 300,000 คัน และระยะยาว ปี 2569-2573 กำหนดเป้าหมายดำเนินการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้อย่างน้อย 750,000 คัน เพื่อใช้งานในประเทศ และการส่งออก ซึ่งสัดส่วน ขนาด และจำนวน สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ของตลาดโดยคาดว่าจะไม่น้อยกว่าที่วางแผนไว้ ..

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มั่นใจว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV Market ในประเทศไทยจะเติบโตแบบทวีคูณได้ด้วยความเร่งจากแรงหนุนสำคัญ ได้แก่ ประการแรก ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังลดลงแล้วอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความสามารถการผลิต Lithium Ion Batteries ในประเทศ รวมทั้งแผนงานการรีไซเคิลแบตเตอรี่ลิเธี่ยมใช้แล้ว Recycling Used Lithium Batteries หรือแบตเตอรี่สิ้นสภาพหมดอายุใช้งาน ให้นำกลับมาเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตแบตเตอรี่ลิเธี่ยม Lithium-Ion Batteries ใหม่ในประเทศให้ได้อีกด้วย ..

ประการที่สอง จุดสถานี หรือสถานที่ชาร์จประจุให้รถยนต์ไฟฟ้า EV Charging Stations ที่กำลังเพิ่มขึ้น เพราะพวกมัน คือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นไปอีกอย่างน้อย 10 ปี จนกว่าระบบจัดเก็บพลังงานด้วยชุดแบตเตอรี่ Battery Energy Storage System : BESS ปัจจุบันที่ถูกแทนที่ด้วยระบบใหม่ๆ ที่รวดเร็วกว่า ซึ่งอย่างไรก็ตาม ชุดแบตเตอรี่ Batteries จะยังคงมีราคาถูกกว่า และใช้งานได้ดีเยี่ยมไปอีกนาน และประการที่สาม การสนับสนุนการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Supporting Investment in Electric Vehicle : EV Production จากนโยบายภาครัฐ ..

ราคารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยปัจจุบัน ค่อนข้างสูงเกินไป แต่พวกมันกำลังจะมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่องตามยอดขายที่กำลังเพิ่มขึ้น .. ความสามารถในการผลิต Lithium EV Batteries และการรีไซเคิล Recycle พวกมันเพื่อนำโลหะมีค่ากลับมาใช้ใหม่ด้วยโรงงานบริษัทคนไทยในประเทศ คือปัจจัยสำคัญในการควบคุมราคาเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก .. จนถึงวันนี้ มีบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยหลายบริษัทฯ ที่มีศักยภาพ เช่น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Energy Absolute : EA เป็นต้นนั้น ได้รุกเข้ามาทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EVs และถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจเกาะกระแสตลาดโลกที่มั่นคง และน่าสนใจอย่างยิ่ง อาทิ ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “อุปกรณ์ และสถานีชาร์จไฟให้ยานยนต์ไฟฟ้า” การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า รถมินิบัสไฟฟ้า รถตู้ไฟฟ้า รถแท็กซี่ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รวมทั้งโรงงานรีไซเคิล และผลิตแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน Lithium Ion Battery ในประเทศ ไปจนถึงโครงการร่วมลงทุนทำเหมืองแร่ลิเธี่ยมในต่างประเทศ ..

ปัจจุบัน ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลก การปรับเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หมายถึงการปรับตัวของเอกชนในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ เพื่อผลิตและจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า EVs แทนที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในด้วยเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน ดีเซล และ Kerosene จากนี้ไป กลายเป็นความจำเป็นที่จะต้องได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้อันดับผู้ผลิต และส่งออกรถยนต์ของไทย สูงขึ้นมาอยู่ในระดับ Top Ten ของโลกด้วยคุณภาพ และความมั่นคงให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..

…………………………………..

คอลัมน์ : Energy Key

By โลกสีฟ้า ..

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-

Are Global EV Sales Really Slowing Down? | Bloomberg Finance L.P.:-

https://about.bnef.com/blog/are-global-ev-sales-really-slowing-down

Is the move to electric cars running out of power? | BBC :-

https://www.bbc.com/news/business-69022771

6 Reasons Why EV Sales are Down and 3 Reasons Why They’ll Recover | RTE :-

https://www.rte.ie/brainstorm/2024/0918/1470465-electric-car-evs-sales-decline-analysis

Trends in Electric Cars – Global EV Outlook 2024 – Analysis | IEA :-

https://www.iea.org/reports/global-ev-outlook-2024/trends-in-electric-cars

Electric Vehicle Market | Precedence Research :-

https://www.precedenceresearch.com/electric-vehicle

Battery Electric Vs Hydrogen Fuel Cells :-

https://photos.app.goo.gl/F3bkSUobvbppiULX9

Electric Vehicles & The Public EV Charging Systems :-

https://photos.app.goo.gl/sdQYtjischyxhBNs5