วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSSAF เชื้อเพลิงการบินยั่งยืน พลังงานสะอาดทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

SAF เชื้อเพลิงการบินยั่งยืน พลังงานสะอาดทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล

Sustainable Aviation Fuel & Power to Liquids Accelerating Decarbonisation

“…..เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF .. คือ สารทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สะอาดกว่า .. แทนที่จะกลั่นจากปิโตรเลียม .. “

Sustainable Aviation Fuel: SAF ผลิตขึ้นจากทรัพยากรที่ยั่งยืน Sustainable Resources เช่น น้ำมันเสียปนเปื้อนเหลือทิ้ง Waste Oils จากแหล่งกำเนิดทางชีวภาพ สารตกค้างที่เป็นขยะทางการเกษตร Agri Residues หรือกลุ่มสารเชื้อเพลิงเหลว เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuel ที่ไม่ใช่ฟอสซิล non – Fossil ด้วยเทคโนโลยีพลังสู่เชื้อเพลิงเหลว Power to Liquids: Plt คาร์บอนต่ำจากแนวคิดคาร์บอนเป็นกลาง Carbon Neutrality เป็นต้น .. เมื่อใช้พวกมันจุดระเบิดในเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในของอากาศยานแล้ว พวกมันสามารถลดการปล่อยมลพิษสู่บรรยากาศได้มากถึง 80 % เทียบกับเชื้อเพลิง Kerosene รูปแบบเดิม ..

Air bp Sustainable Aviation Fuel Vehicle | Credit: Air bp / Munich Airport

SAF เป็นเชื้อเพลิงที่เรียกว่า Drop – in Fuel ซึ่งหมายความว่า พวกมันสามารถใช้เป็นส่วนผสมกับเชื้อเพลิงอากาศยานจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิล หรือการผสมกับเชื้อเพลิงสังเคราะห์รูปแบบต่าง ๆ ในเครื่องยนต์สันดาปภายในของอากาศยานได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน หรืออุปกรณ์พิเศษใด ๆ .. เชื้อเพลิงเหล่านี้ ได้รับการรับรองไว้แล้วอย่างสมบูรณ์ด้วย ASTM D1655/ DEFSAN 91 – 91 สำหรับความปลอดภัย และมีลักษณะตรงตามข้อกำหนดเดียวกันกับเชื้อเพลิง Fossil Jet Fuel ทั่วไปสำหรับอากาศยาน ..

นับตั้งแต่เที่ยวบินเชิงพาณิชย์ที่ใช้ Sustainable Aviation Fuel: SAF สำหรับเครื่องยนต์อากาศยานครั้งแรกที่ดำเนินการโดย KLM ในปี 2554 มีการบินทั้งของภาครัฐ และเอกชน รวมเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ทั้งหมดด้วยแล้วเกือบ 300,000 เที่ยวบินที่ขับเคลื่อนอากาศยานด้วยเชื้อเพลิง SAF .. จนถึงปัจจุบัน SkyNRG ได้จัดหา Sustainable Aviation Fuel: SAF ที่ผลิตจากน้ำมันเสียเหลือทิ้ง Waste Oils ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Hydrotreated Vegetable Oils: HVO / Hydroprocessed Esters & Fatty Acids: HEFA Technology ต่อเนื่องตลอดมากว่า 10  ปี ..

ทั้งนี้ เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF ไม่ได้จำกัดเพียงแค่วัตถุดิบ หรือเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง .. ตราบใดที่คุณสมบัติทางเคมีของ SAF ตรงตามข้อกำหนดทางเทคนิคด้านการบิน และเกณฑ์ความยั่งยืน หมายถึง ด้วยเทคโนโลยีเชื้อเพลิงอากาศยานปัจจุบัน การพิจารณาส่วนผสมที่เหมาะสมของวัตถุดิบกับเทคโนโลยี Power to Liquids: Plt คาร์บอนต่ำสำหรับอนาคตภาคการบินนั้น มีความพร้อมมานานแล้ว และไม่มีปัญหาทางเทคนิคแต่อย่างไร ปัญหาของพวกมันจริงยังคงอยู่ที่ประเด็นเรื่องราคา ..

การชดเชย และลดคาร์บอนสำหรับการบินระหว่างประเทศ Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation: CORSIA กับเชื้อเพลิงการบินยั่งยืน SAF ..

เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF เป็นเชื้อเพลิงทางเลือก Renewable หรือเชื้อเพลิงจากของเสีย Waste – Derived Aviation Fuels ที่เป็นไปตามเกณฑ์ความยั่งยืน อ้างอิงตามมาตรฐาน และข้อพึงปฏิบัติในกิจการการบินทุกประเภท Standards and Recommended Practices: SARPs ภาคผนวก 16 Volume IV ว่าด้วยเรื่อง การปกป้องสิ่งแวดล้อม Environmental Protection .. สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบหนึ่งของมาตรการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ International Civil Aviation Organization: ICAO เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี มาตรฐาน รวมทั้งการปรับปรุงการปฏิบัติงาน การชดเชย และลดคาร์บอนสำหรับการบินระหว่างประเทศ ด้วยโครงการ Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation: CORSIA ..

ความละเอียดใน Resolution A40 – 18 (2019) นั้น องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ International Civil Aviation Organization: ICAO ได้รับทราบ และประกาศข้อกำหนดหลายประการที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF รวมถึงแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับวงรอบของความยั่งยืน Sustainability & Life Cycle Emissions ที่เกี่ยวเนื่อง .. ประเด็นประกอบเหล่านี้กำลังถูกเฝ้าติดตามโดย ICAO ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนระหว่างประเทศ จะเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดสำหรับการใช้งานเชื้อเพลิงยั่งยืนสำหรับภาคการบิน Sustainable Aviation Fuel: SAF ในอนาคตอันใกล้ต่อไป ..

ทั้งนี้ CORSIA เป็นโครงการระดับโลกเพื่อจัดการกับปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการเดินอากาศ Carbon Emissions from Air Travel เริ่มตั้งแต่ปี 2564 – 2578 .. ชุดของมาตรการเสริมที่กว้างขวางขึ้นจะช่วยให้องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ International Civil Aviation Organization: ICAO บรรลุเป้าหมายเพื่อทำให้เที่ยวบินระหว่างประเทศมีคาร์บอนเป็นกลาง Carbon – Neutral ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป .. CORSIA เป็นกลไกที่อิงตลาดซึ่งอาศัยการใช้หน่วยการปล่อยมลพิษ หรือ Carbon Credits จากตลาดคาร์บอน Carbon Market โดยสมัครใจเพื่อชดเชยปริมาณการปล่อย CO2 ที่ไม่สามารถลดลงได้ผ่านการปรับปรุงด้านเทคโนโลยี และการปฏิบัติงาน รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF ..

CORSIA ซึ่งดำเนินการเป็นขั้นตอน จะเปรียบเทียบการปล่อย CO2 ทั้งหมดเป็นเวลาหนึ่งปีกับค่าพื้นฐาน ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา การปล่อย CO2 จากเที่ยวบินที่เกินค่าพื้นฐานจะต้องถูกชดเชยด้วยมาตรการต่าง ๆ โดยภาครัฐของแต่ละประเทศภายใต้โครงการนี้ ..

มีการคาดการณ์ความต้องการ Carbon Credits ประมาณ 1.6 พันล้านเครดิต ภายใต้ CORSIA ตลอดอายุของโครงการ .. ปัจจุบันมีอุปทานเพียงพอ Sufficient Supply of Carbon Offsets ในตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการ .. อย่างไรก็ตาม ความต้องการเครดิต Demand for Credits จะเพิ่มขึ้นทุกปีตามการเติบโตของธุรกิจการบิน เนื่องจากธรรมชาติของเป้าหมายการเติบโตที่ปราศจากคาร์บอน Nature of the Carbon – Neutral Growth Objective ..

ราคาการชดเชยคาร์บอนโดยเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 3 – 5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน Metric Ton ของคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนถึงตลาดที่มีการจัดหามาอย่างดี อย่างไรก็ตาม ราคาเริ่มเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดคาร์บอนที่ได้รับการควบคุม และโดยสมัครใจ เนื่องจากแรงผลักดันอื่น ๆ ของความต้องการในตลาดเริ่มส่งผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อตกลงปารีส Paris Agreement และกลไกตลาด Market Mechanisms under Article 6 .. สิ่งเหล่านี้คาดว่า จะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมได้ในเร็ว ๆ นี้ และจะมีนัยสำคัญ เกี่ยวกับความต้องการ Carbon Offsets ที่เพิ่มขึ้น ..

ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่า พันธะสัญญา และกลไกของข้อตกลงปารีส Paris Agreement Commitments จะมีปฏิสัมพันธ์กับตลาดคาร์บอนโดยสมัครใจอย่างไร .. แต่สิ่งเหล่านี้สร้างผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการจัดหาคาร์บอนเครดิตให้กับ CORSIA .. ดังนั้น จึงเป็นที่ชัดเจนว่า นอกจากเชื้อเพลิง Hydrogen: H2 และเชื้อเพลิง Ammonia: NH3 สำหรับแนวทางคาร์บอนเป็นศูนย์ Zero Carbon แล้ว เชื้อเพลิงการบินยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศได้มากกว่า 80 % กลายเป็นความจำเป็นยิ่งยวดในระดับนานาชาติจากนี้ไปควบคู่ด้วย ซึ่งพวกมันถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญสำหรับเชื้อเพลิงอากาศยานทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยก็ด้วยแนวคิดคาร์บอนเป็นกลาง Carbon – Neutral Concept ..

เชื้อเพลิงการบินยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน และแหล่งพลังงานทดแทนที่ยั่งยืน สามารถทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลของอากาศยานได้เป็นอย่างดี ..

Sustainable Aviation Fuel: SAF อาจเข้าใจได้ดีที่สุดว่า เป็นคำศัพท์รวมสำหรับเชื้อเพลิงรูปแบบหลากหลายประเภทต่าง ๆ .. มัน คือ วัตถุดิบ และสิ่งที่รวมอยู่ในส่วนผสมเพื่อผลิต SAF เช่นเดียวกับกระบวนการที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดเกณฑ์ว่า พวกมันจะเป็นเชื้อเพลิงยั่งยืน Sustainable Fuel ได้อย่างไร ..

รูปแบบที่มีใช้งานอยู่ส่วนใหญ่ของ SAF อาจถูกเรียกว่า เชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels or Biojets ซึ่งตามชื่อแล้วหมายถึง เชื้อเพลิงที่ผลิตจากทรัพยากรชีวภาพ และวัสดุจากพืชหรือสัตว์ แต่ยังหมายรวมถึงน้ำมันสำหรับประกอบอาหารที่ใช้แล้ว และของเสียจากเทศบาล ชุมชน ขยะของเหลือทิ้งจากภาคเกษตรกรรม และในครัวเรือน .. นอกจากนี้ยังสามารถผลิต SAF ด้วยการสร้างเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels จากไฮโดรเจน Hydrogen และคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide ซึ่งมักเรียกว่า น้ำมันก๊าดไฟฟ้า e – Kerosene, พลังงานสู่ของเหลว Power – to – Liquid และเชื้อเพลิงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels ..

ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของเชื้อเพลิงสังเคราะห์เหล่านี้ ทำให้องค์กรพัฒนาเอกชน Non – Governmental Organization: NGOs บางแห่ง เช่น กลุ่มรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม และการขนส่งที่สะอาด Transport and Environment ใช้คำว่า SAF เพื่ออ้างถึง “เชื้อเพลิงยั่งยืนประยุกต์ Sustainable Advanced Fuels” ไปพร้อมด้วย .. สิ่งเหล่านี้เหมือนกับเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF แต่ไม่ได้มีความหมายว่า เชื้อเพลิงนั้นจะต้องใช้เฉพาะสำหรับการบินเท่านั้น ..

What is Sustainable Aviation Fuel? / Airbus: an A350 Fuelled by 100% Sustainable Aviation Fuel Just Took off | Credit: Airbus

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไป เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF หมายถึง เชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานที่ผลิตขึ้นจากแหล่งพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน และพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืน Sustainable & Renewable Sources ซึ่งสามารถใช้ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลของอากาศยาน เช่น Jet – A1 เป็นต้นได้เป็นอย่างดี ..

คุณสมบัติของพวกมัน ขึ้นอยู่กับวิธีการผลิต .. ในการใช้คำว่า “ยั่งยืน” อย่างถูกต้อง เชื้อเพลิงต้องเป็นไปตามเกณฑ์กำหนด เช่น การลดการปล่อยคาร์บอนตลอดอายุการใช้งาน ความต้องการใช้น้ำจืดต่ำ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำเสียในกระบวนผลิต หรือไม่มีประเด็นความขัดแย้งการจัดสรรทรัพยากรในภาคเกษตรกรรม เนื่องจากการมุ่งผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นแรก ๆ ได้พบปัญหา เช่น การแย่งชิงพื้นที่การเกษตรสำหรับผลิตอาหาร และรวมถึงการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อปลูกพืชน้ำมัน เป็นต้น ..

กระบวนการบางอย่างที่ดูเหมือนจะมีประโยชน์อย่างชัดเจน เช่น การใช้ประโยชน์จากขยะของเสียในครัวเรือน Household Waste หรือน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วเหลือทิ้ง Used Cooking Oil .. แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องรับรองว่า วัตถุดิบที่ใช้คือน้ำมันเสียเหลือทิ้งจริง .. การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของน้ำมันที่ใช้แล้วทิ้งสำหรับการผลิต SAF ในสหภาพยุโรปนำเข้ามาจากต่างประเทศ .. จีนจัดหามากกว่าหนึ่งในสาม หรือประมาณ 34 % ในขณะที่เกือบหนึ่งในห้า หรือประมาณ 19 % ของน้ำมันเสียที่อ้างถึงมาจากผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของมาเลเซีย และอินโดนีเซียรวมกัน ..

การพึ่งพาการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าราคาน้ำมันที่ใช้แล้วในการปรุงอาหารบางครั้งอาจสูงขึ้นมากกว่าน้ำมันบริสุทธิ์จากพืชน้ำมัน เช่น น้ำมันปาล์ม ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำมันบริสุทธิ์ถูกจัดประเภทใหม่เป็นของเสียเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงาน จึงเป็นสาเหตุให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำไร่ขนาดใหญ่ขึ้นได้ .. ดังนั้น การกำกับดูแลภาครัฐของแต่ละประเทศในกรอบนโยบายทางเศรษฐกิจ และพลังงานที่รอบคอบจากนี้ไป จึงกลายเป็นประเด็นสำคัญ และละเอียดอ่อนกว่าที่เคยซึ่งภาครัฐไม่อาจละเลยได้ ..

บริษัท Neste ซึ่งมีฐานอยู่ในฟินแลนด์ ปัจจุบันเป็นผู้จัดหา SAF รายใหญ่ที่สุดของโลก และรวมอยู่ในกลุ่มที่ใช้วัตถุดิบจากการกลั่นน้ำมันปาล์ม Palm Fatty Acid Distillate: PFAD .. ทั้งนี้ PFAD เป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ .. อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพนอกเหนือจากการสร้างแรงจูงใจโดยตรงสำหรับการเพาะปลูกพืชไร่เพื่อให้ได้น้ำมันปาล์มมากขึ้น ยังทำให้เกิดช่องว่างในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เนื่องจากพวกเขาก็ต้องการวัตถุดิบ เช่น น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ด้วยเช่นกัน .. ดังนั้น พวกมันอาจสร้างปัญหาความขัดแย้งการจัดสรรทรัพยากรรุนแรงในอนาคตขึ้นได้ ..

Neste ปกป้องการใช้ PFAD โดยกล่าวว่า พวกมันเป็นเพียงหนึ่งในวัตถุดิบหลายอย่างที่ใช้ “สัดส่วนของวัตถุดิบแต่ละอย่างในการกลั่นของ Neste จะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับความพร้อมจำหน่าย ราคา และข้อกำหนดของตลาดเฉพาะ เป็นต้น” ..

โดยให้เหตุผลว่าสิ่งนี้ให้ความอ่อนตัวยืดหยุ่น และช่วยให้ “ผู้ประกอบธุรกิจ SAF สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาด และลูกค้าที่แตกต่างกัน .. การค้นหาการกระจายพอร์ตโฟลิโอด้วยวัตถุดิบใหม่อย่างต่อเนื่อง การแทนที่น้ำมันฟอสซิลด้วยวัตถุดิบหมุนเวียน และการรีไซเคิล จะสามารถช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันดิบ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อต่อสู้กับวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis เป็นอย่างดีได้จริง” ..

บริษัทอื่น ๆ เช่น Velocys ใช้ขยะเทศบาล และเศษไม้ .. Lanzajet ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในฐานะบริษัทธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ Lanzatech ใช้เอทานอลซึ่งอาจมาจากข้าวโพดในสหรัฐฯ อ้อยในบราซิล และเศษไม้ในยุโรป .. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตลาด อย่างไรก็ตามโรงงานในเซาท์เวลส์ Plant in South Wales เสนอแผนงานที่จะให้ผลผลิตประมาณอย่างน้อย 100 ล้านลิตรต่อปี ..

ลักษณะทางเคมี และทางกายภาพของเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF เกือบจะเหมือนกับเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นทั่วไป Conventional Jet Fuel ทุกประการ ซึ่งหมายความว่า สามารถผสมกับเชื้อเพลิงสังเคราะห์ประเภทต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยในระดับสัดส่วนที่แตกต่างกัน รวมทั้ง สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านอุปทานเดียวกัน และไม่จำเป็นต้องดัดแปลงอากาศยาน หรือเครื่องยนต์ใดๆ .. ทั้งนี้ อาจมีการปรับจูนเครื่องยนต์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น .. ด้วยเหตุนี้ SAF จึงมักถูกเรียกว่า “Drop – in Fuel” นั่นคือ เชื้อเพลิงที่สามารถรวมเข้ากับระบบเติมเชื้อเพลิงที่มีอยู่แล้วของสนามบินได้อย่างสอดคล้องเป็นอัตโนมัติ ..

โดยปกติ เชื้อเพลิงอากาศยานทั้งหมดทุกประเภท รวมทั้ง SAF จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อใช้งานในเที่ยวบินพาณิชย์ Commercial Flights รวมทั้ง กระบวนผลิตเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินที่ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพทุกประเภท ก็จะต้องได้รับการตรวจสอบรับรอง ร่วมกับวิธีการอื่น ๆ อีกมากมายด้วยความเข้มงวดด้วยเช่นกันในกระบวนการอนุมัติ ..

อย่างไรก็ตาม มั่นใจได้ว่า ไม่มีประเด็นปัญหาด้านความปลอดภัยใด ๆ .. ประเด็นปัญหาจริง ๆ ของการใช้ SAF นอกเหนือไปจากปัญหาความขัดแย้งการจัดสรรทรัพยากรนั้น เฮนริก แวร์บอร์น Henrik Wareborn ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Velocys กล่าวว่า “ตลาด Spot Market สำหรับ SAF เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 2,500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน นั่นคือ สิ่งที่สายการบินต้องจ่ายสำหรับปริมาณน้อยที่มีอยู่ในปัจจุบัน .. ราคาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใกล้เคียงกัน เช่น Jet – A1 คือ 500 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งหมายความว่า SAF มีราคาสูงกว่า 5 หรือ 6 เท่า มันราคาแพงอย่างยิ่ง และหาซื้อได้ยากมาก” ..

ปริมาณผลิตต้องเพิ่มขึ้น และราคาต้องลดลงก่อนจะมีการนำ SAF ไปใช้อย่างแพร่หลาย .. IATA ชี้ว่า “ อุปทานที่ไม่เพียงพอ และราคาที่สูงทำให้สายการบินจำกัดการบริโภคอยู่ที่เพียง 120 ล้านลิตรในปี 2564 ซึ่งมันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 350 พันล้านลิตรที่สายการบินควรจะต้องบริโภคเชื้อเพลิงในแต่ละปีตามปกติ ” ..

ไม่มีวิธีแก้ปัญหาอื่นในการลดต้นทุน SAF ที่สูงในระยะยาว การผลิตปริมาณมากจากความต้องการสูงเท่านั้น จะทำให้ราคาลดลง แต่การที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ ภาครัฐจะต้องมีบทบาทในการกำหนดราคาคาร์บอน ไม่ว่าจะผ่านระบบการซื้อขายการปล่อยมลพิษ หรือภาษีคาร์บอน .. นั่นหมายความว่า สายการบินจะต้องจ่ายสำหรับ SAF หรือจ่ายในราคาที่คล้ายกันสำหรับคาร์บอนที่พวกเขาจะปล่อยออกมาจากเที่ยวบินของพวกเขาจนถึงอัตราร้อยละ ดังนั้น หากอาณัติของ SAF อยู่ที่ 5 % พวกเขาจะต้องจ่ายค่าปรับเทียบเท่ากับคาร์บอนที่ปล่อยออกมา 5 % ของเที่ยวบินของพวกเขา .. สิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกเขาจัดหา SAF ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการ และช่วยลดต้นทุนได้ .. นักรณรงค์ชี้ให้เห็นว่า เชื้อเพลิงสำหรับการขนส่งอื่น ๆ ทั้งหมด All Other Transport Fuels ถูกเก็บภาษี ยกเว้นน้ำมันก๊าด Kerosene .. ดังนั้นการยกเลิกข้อยกเว้นนี้ด้วย จะเพิ่มรายได้ และช่วยปิดช่องว่าง ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อการบริหารจัดการอุปสงค์บางส่วนให้เกิดความสมดุลมากขึ้นด้วย ..

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความคิดริเริ่ม ReFuelEU Aviation มีข้อเสนอที่จะแนะนำการใช้มาตรการภาษีดังกล่าวใน 27 ประเทศของสหภาพยุโรปด้วยระดับการเพิ่มขึ้นทีละน้อยในช่วง 10 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามจินตนาการได้ว่า สายการบินไม่สนใจเรื่องนี้ ..

Willie Walsh ผู้อำนวยการ IATA กล่าวว่า “การทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานมีราคาแพงขึ้นด้วยการเก็บภาษีถือเป็น ‘เป้าหมายของตัวมันเอง’ ในเรื่องความสามารถในการแข่งขันซึ่งแทบจะไม่ช่วยเร่งการเติบโตตลาดเชิงพาณิชย์ของ SAF เลย รวมทั้งอาจไม่สามารถทำให้ราคาของ SAF ลดลงเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจการบินได้” ..

IATA ชี้ว่า ภาษีจากอุตสาหกรรมที่สามารถรองรับการลงทุนลดการปล่อยมลพิษในภาคอุตสาหกรรม และการคมนาคมขนส่งด้วยเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ แต่การลดผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นของธุรกิจการบิน อาจทำให้มีเงินทุนน้อยลงในการลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีแหล่งพลังงานที่เป็นเชื้อเพลิงอากาศยานที่สะอาดกว่า เช่น เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF เป็นต้น .. สรุปได้ว่า ความต้องการจริง และการผลิตปริมาณมากเท่านั้น จะทำให้ราคาของเชื้อเพลิงการบินยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF เหล่านี้ลดลงในระดับที่เหมาะสมภายใน 3 ปีจากนี้ไปได้สำเร็จในที่สุด ..

เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF เปลี่ยนแปลงอนาคตของการบินอย่างไร ..

ภาคการเดินอากาศ มีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อย CO2 อยู่ที่ 2.5 % ทั่วโลก .. ดังนั้น การลดผลกระทบต่อสภาพอากาศจึงเป็นสิ่งสำคัญในการบรรเทาปัญหาวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis ..

แม้ว่า ปัญหาวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis จะมีความสำคัญ แต่ผู้คนส่วนใหญ่แทบไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนวัตกรรมใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการลดการปล่อยมลพิษสำหรับภาคการบิน .. เชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel: SAF เป็นคำที่ใช้เรียกรวมสำหรับการสร้างเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นจากแหล่งพลังงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ฟอสซิล .. พวกมันมีแหล่งที่มาเช่นเดียวกับน้ำมันพืชสำหรับประกอบอาหาร รวมทั้งไขมันพืชและสัตว์เหลือใช้ หรือจากขยะอินทรีย์ .. SAF กลายเป็นแหล่งพลังงานยั่งยืนที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนในเที่ยวบินได้มากถึง 80 % อย่างไม่น่าเชื่อ ..

Sustainable Aviation Fuel (SAF) is a Cleaner Alternative to Power Aircraft / Fuelling Sustainability | Credit: ADS Group

เมื่อผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ใด ๆ ที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนแล้ว เชื้อเพลิงนั้นจะผสมกับน้ำมันก๊าด Kerosene เพื่อสร้าง SAF ด้วยส่วนผสมเช่น 50 – 50 กับเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมได้ .. เชื้อเพลิงผสมนี้สามารถใช้ได้ในลักษณะเดียวกับเชื้อเพลิงเครื่องบินเจ็ตทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องดัดแปลงเครื่องบิน หรือเครื่องยนต์อากาศยานใด ๆ ซึ่งช่วยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมาก ..

ปัจจุบัน SAF ยังไม่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายสำหรับอากาศยานพาณิชย์ แต่พวกมันกำลังค่อย ๆ เติบโตขึ้น .. จนถึงขณะนี้ SAF ให้บริการเที่ยวบินอากาศยานพาณิชย์มากกว่า 150,000 เที่ยวบิน และหากนับรวมเที่ยวบินของภาครัฐ และเอกชนในส่วนอื่นไปพร้อมด้วยแล้ว พบว่าเกือบ 300,000 เที่ยวบิน ทำการบินด้วยส่วนผสมของเชื้อเพลิง SAF และเชื้อเพลิงเจ็ตธรรมดา Regular Jet Fuel นับตั้งแต่เที่ยวบินทดลองในปี 2551 และเป็นเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ครั้งแรก เมื่อปี 2554 ซึ่งดำเนินการโดย KLM ..

บริษัท Air BP ได้จัดหา SAF สำหรับสนามบิน 16 แห่งใน 3 ทวีปด้วยห่วงโซ่อุปทานที่จัดตั้งขึ้นแล้วในสวีเดน .. นอกจากจะมีคาร์บอนเป็นกลางแล้ว SAF ยังสามารถลดการปล่อยมลพิษโดยตรงได้อีกด้วย .. เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงน้ำมันก๊าด Kerosene แบบดั้งเดิมแล้ว SAF มีอนุภาคลดลง 90 % และกำมะถันลดลง 100 % ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในเส้นทางการบินของอากาศยานได้มาก ..

SAF ยังเผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้อากาศยานใช้เชื้อเพลิงโดยรวมน้อยลงตลอดการเดินทาง .. นอกจากนี้ พวกมันยังสามารถให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจในบางประเทศ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องจัดหาเชื้อเพลิงเหล่านี้จากประเทศที่ร่ำรวยด้วยน้ำมัน .. SAF สามารถผลิตได้ทุกที่ที่มีของเสีย ขยะพลาสติก ขยะเปี๊ยก ขยะแห้ง ของเหลือทิ้งจากภาคเกษตรกรรม หรือแม้แต่ผลผลิตการเกษตรจากพืชน้ำมันในประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีปัญหาการจัดการพื้นที่การเกษตร รวมทั้งเชื่อมั่นว่า หากความต้องการเพิ่มขึ้น ราคา SAF จะสามารถลดลงในระดับที่แข่งขันในตลาดเชื้อเพลิงอากาศยานได้ภายในไม่เกิน 3 ปี ขณะที่ราคาเชื้อเพลิงน้ำมันก๊าด Kerosene แบบดั้งเดิม กำลังเพิ่มสูงขึ้น

เนื่องจากสายการบินพาณิชย์เริ่มใช้งาน SAF มากขึ้นเรื่อย ๆ ต้นทุนในตลาดก็จะค่อย ๆ ลดลง และทำให้มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากขึ้น .. สายการบินบางแห่งให้ทางเลือกแก่ลูกค้าในการจัดหาเงินทุนสำหรับการใช้ SAF เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในตั๋ว ..

อุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ เรียกร้องให้ภาครัฐของแต่ละประเทศ วางกรอบนโยบายที่สนับสนุนการเติบโตของเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel: SAF .. การผลิตที่เพิ่มขึ้นนั้น ต้องการความเชื่อมั่นจากนโยบายภาครัฐระยะยาวเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน รวมถึงการมุ่งเน้นที่การวิจัย พัฒนา และการค้าเทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับการปรับปรุงวัตถุดิบ และกระบวนยั่งยืนที่เป็นนวัตกรรมใหม่ .. ทั้งนี้ เมื่อผนวกการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen ในภาคการบิน โดยเฉพาะการเดินอากาศระยะยาวไกล Long – Haul Flight ด้วยแล้ว เชื่อมั่นได้ว่า Sustainable Aviation Fuel: SAF จะกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ ภายในปี 2593 หรือ Industry’s Sustainability Goals 2050 ได้สำเร็จในที่สุด ..

คาดการณ์ตลาดเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนทั่วโลก Global Sustainable Aviation Fuel Market ..

ขนาดธุรกิจตลาดเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนทั่วโลก Global Sustainable Aviation Fuel Market มีมูลค่า 72.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563 และได้รับการคาดหมายว่าจะพุ่งแตะระดับ 6,261.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2573 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี Compound Annual Growth Rate: CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับการลงทุนในตลาดเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนทั่วโลก Global Sustainable Aviation Fuel Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 56.4 % ในช่วงเวลาที่คาดการณ์ ปี 2564 – 2573 ..

Sustainable Aviation Fuel Global Market 2030 | Credit: Allied Market Research

เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF เป็นเชื้อเพลิงชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับอากาศยาน และในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องบินไปพร้อมด้วย .. เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนนั้น ได้มาจากวัตถุดิบที่ยั่งยืน และมีความคล้ายคลึงกันมากในด้านเคมีกับเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบดั้งเดิม .. การเพิ่มขึ้นของการใช้เชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืนส่งผลให้การปล่อยคาร์บอนลดลงเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นประเภทน้ำมันก๊าด Kerosene แบบดั้งเดิม หรือ Traditional Fossil Jet Fuel เนื่องจาก อุตสาหกรรมการบินมีแนวโน้มที่จะต้องลดการปล่อยคาร์บอนตามข้อกำหนดด้านการบินเพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน Sustainable Environment และเป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวดในการปล่อยมลพิษ ..

นอกจากนี้ การปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์อากาศยานด้วยการปรับเปลี่ยนการออกแบบ เครื่องบินไฮบริดไฟฟ้า Hybrid – Electric และไฟฟ้าทั้งหมด All – Electric Aircraft .. เชื้อเพลิงเครื่องยนต์เจ็ตหมุนเวียน Renewable Jet Fuels ได้ถูกนำมาใช้โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมการบิน แต่การใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF ถือเป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือ และเป็นไปได้มากที่สุด ในแง่ของผลประโยชน์ทางสังคม และเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับผลประโยชน์อื่น ๆ ซึ่งมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน และในอนาคตที่สังคมคาดหวังจากภาคการบิน ..

เชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuel or Biojets คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุด .. การพิจารณาจากประเภทเชื้อเพลิงในตลาดเชื้อเพลิงสำหรับการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel นั้น พบว่า เชื้อเพลิงชีวภาพ Biojets มีสัดส่วนการตลาดสูงสุด รองลงมาเป็นเชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen และเชื้อเพลิงจากเทคโนโลยีพลังสู่เชื้อเพลิงเหลว Power to Liquid Fuel ตามลำดับ .. กลุ่มเชื้อเพลิงชีวภาพ Biojets ได้รับส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุดในตลาดเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากความสามารถในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งผลในเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ .. นอกจากนี้ การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีต่อ ๆ ไป อันเนื่องมาจากทิศทางการพัฒนาวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป ..

Airbus H145 Sustainable Aviation Fuel Refueling | Credit: Airbus

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับข้อไข หรือโซลูชันอื่น ๆ การนำเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuels มาใช้ เช่น เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels, เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels, เชื้อเพลิงไบโอเจ็ต Bio – Jet Fuels, เชื้อเพลิงเครื่องบินเจ็ตสีเขียว Green Jet Fuels และเชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen Fuels เป็นหนึ่งในโซลูชั่นทางเลือกที่ใช้งานได้จริงมากที่สุดในแง่ของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งมีส่วนสนับสนุน โดยเฉพาะการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านการบินในปัจจุบัน และอนาคต ..

นอกจากนี้ ภายหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 เริ่มคลี่คลาย สายการบินต่าง ๆ ได้รับการคาดหมายได้ว่า ภาคการบินจะมีการขยายฝูงบินเชิงพาณิชย์เนื่องจากการเดินอากาศที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดเชื้อเพลิงการบินยั่งยืนทั่วโลกได้อย่างแน่นอนไม่มีข้อสงสัย ..

สรุปส่งท้าย ..

เครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นกระดูกสันหลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคม ของมนุษยชาติในยุคอุตสาหกรรมมาโดยตลอด และมันจะยังคงอยู่ต่อไป ไม่ได้หายไปจากระบบขนส่ง หรือระบบสาธารณูปโภคปัจจุบันแต่อย่างไร .. เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF ซึ่งรวมถึง เชื้อเพลิงชีวภาพ Bio – Fuel และเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuel & Gas กำลังดึงดูดความสนใจนักลงทุนทั้งรายใหญ่ และรายย่อยให้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่เครื่องบินไอพ่น เรือ ไปจนถึงรถยนต์นั้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องคิดใหม่ ปรับแต่ง หรือเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปจากรูปแบบเดิม ๆ มากนัก เนื่องเพราะพวกมันสามารถจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์เหล่านี้ได้ด้วยการปรับจูนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ..

ภาคการเดินอากาศ มีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อย CO2 อยู่ที่ 2.5 % ทั่วโลก .. ดังนั้น การลดผลกระทบต่อสภาพอากาศจึงเป็นสิ่งสำคัญในการบรรเทาปัญหาวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis ..

แม้ว่า ปัญหาวิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis จะมีความสำคัญ แต่ผู้คนส่วนใหญ่แทบไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนวัตกรรมใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการลดการปล่อยมลพิษสำหรับภาคการบิน .. เชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel: SAF เป็นคำที่ใช้เรียกรวมสำหรับการสร้างเชื้อเพลิงอากาศยานจากแหล่งพลังงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ฟอสซิล .. พวกมันมีแหล่งที่มาเช่นเดียวกับน้ำมันพืชสำหรับประกอบอาหาร รวมทั้งไขมันพืชและสัตว์เหลือใช้ หรือจากขยะอินทรีย์ ..

เชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel: SAF ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว มีเที่ยวบินรวมไปแล้วเกือบ 300,000 เที่ยวบินด้วยส่วนผสมของ SAF และเชื้อเพลิงเจ็ตธรรมดา Regular Jet Fuel .. เชื่อกันว่า SAF เป็นทั้งผู้พลิกเกม Game Changer และเป็นทั้งอนาคตของอุตสาหกรรมการบิน Future of Aviation Industry จากนี้ไป เนื่องจากการใช้งานพวกมันสามารถลดการปล่อยมลพิษได้มากถึง 80 % อย่างไม่น่าเชื่อ ..

ปี 2564 ที่เพิ่งผ่านมานี้ ฝูงบินของสายการบินทั่วโลกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไป 360 พันล้านลิตร และสูบฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 สู่ชั้นบรรยากาศมากกว่า 900 ล้านตัน ..

ปริมาณผลิต SAF จะต้องเพิ่มขึ้น และราคาต้องลดลงก่อนจะมีการนำ SAF ไปใช้อย่างแพร่หลายอย่างน้อยในอีก 3 ปีข้างหน้า .. IATA ชี้ว่า “อุปทานที่ไม่เพียงพอ และราคาที่สูงทำให้สายการบินจำกัดการบริโภคอยู่ที่เพียง 120 ล้านลิตรในปี 2564 ซึ่งมันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 350 พันล้านลิตรที่สายการบินควรจะต้องบริโภคเชื้อเพลิงในแต่ละปีตามปกติ” ..

การใช้งาน Sustainable Aviation Fuel: SAF ปัจจุบันนั้น ไม่มีประเด็นปัญหาทางเทคนิค หรือปัญหาด้านความปลอดภัยใด ๆ .. ประเด็นปัญหาจริงๆ ของการใช้ SAF นอกเหนือไปจากปัญหาความขัดแย้งการจัดสรรทรัพยากร ได้แก่ เรื่องของราคา ..

Neste’s Sustainable Aviation Fuel Tanker Truck at Airport | Credit: Neste MY / Munich Airport

ปีที่ผ่านมา SAF คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 1 % ของการใช้เชื้อเพลิงของสายการบิน ภาคการบินจำเป็นต้องเพิ่มการใช้งาน SAF ให้สูงขึ้นได้อีกอย่างมาก .. สำหรับการพัฒนาในระดับโลกอย่างแท้จริง จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในระดับขนาดกำลังการผลิต ซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายภาครัฐ การลงทุน เงินอุดหนุน การลดหย่อนภาษี .. ทั้งนี้ มาตรการที่กล่าวเหล่านี้ ยังคงเป็นเพียงบางส่วนของกรอบนโยบายที่จำเป็นในการสนับสนุนภาคเอกชนในการผลิต SAF .. คาดหมายว่า สายการบินจำนวนหนึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะจัดซื้อ SAF มูลค่าอย่างน้อย 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ..

ช่วงเวลานี้อาจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการพัฒนาอุตสาหกรรม SAF ซึ่งจะสามารถสร้างงานจำนวนมากในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน และจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการสนับสนุนนโยบายที่ถูกต้อง .. SAF สามารถคิดเป็น 2 % ของเชื้อเพลิงการบินทั้งหมดภายในปี 2568 ซึ่งน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ต้นทุนของ SAF สามารถแข่งขันกับเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ในที่สุด ..

ตัวอย่างในกระบวนผลิต SAF เช่น การแปลงขยะพลาสติกเป็นเชื้อเพลิง เป็นต้นนั้น ได้รับการประเมินว่า มีศักยภาพที่จะทำให้เกิดงานใหม่ทั่วโลกมากกว่า 39,000 ตำแหน่ง และสามารถสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นได้เกือบ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี .. วิธีการใหม่นี้อาจมีต้นทุนถูกกว่าวิธีการรีไซเคิล ซึ่งปัจจุบัน ขยะพลาสติกเพียง 5 % เท่านั้นที่รีไซเคิลได้ รวมทั้งการรีไซเคิลถุงพลาสติก และขยะพลาสติก 1 ตันมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 4,000 เหรียญสหรัฐฯ และสุดท้ายมักจะนำไปสู่การเผา หรือทิ้งลงในหลุมฝังกลบเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงเหล่านี้ ..

การรีไซเคิลขยะพลาสติก และขยะอินทรีย์ทางเคมีเพื่อผลิต Sustainable Aviation Fuel: SAF ที่รวมถึง Synthetic Fuel และ Bio – Fuel หรือนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเคมีนั้น ดำเนินการได้ง่ายกว่ามาก เมื่อทำให้ทุกอย่างร้อนขึ้นที่อุณหภูมิสูงโดยไม่จำเป็นต้องแยกขยะล่วงหน้า ..

สำหรับประเทศไทยนั้น เชื้อเพลิงสำหรับการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuels: SAF คือโอกาสสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามของอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ และการบินของไทย ..

การผลิต SAF ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก Eastern Economic Corridor: EEC เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น Supply Chains ที่เกี่ยวกับการบิน ธุรกิจปิโตรเลียม โรงกลั่นน้ำมัน รวมทั้งบุคลากรที่มีความรู้ด้านการผลิตเชื้อเพลิง หรือความพร้อมในการปรับเปลี่ยนไปสู่โรงงานอุตสาหกรรมในระบบพลังงานสะอาด ..

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังอุดมไปด้วยวัตถุดิบ และแรงงานในการผลิต Sustainable Aviation Fuel: SAF อยู่มากมายโดยเฉพาะของเหลือทิ้งทางการเกษตร ขยะพลาสติก หรือแม้แต่พืชน้ำมัน โดยการสนับสนุนจากภาครัฐทั้งในด้านนโยบายการใช้งาน และในด้านการวิจัยและพัฒนา R&D จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการลดต้นทุนการผลิต .. การผลิต SAF เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของลูกค้าสายการบินที่ต้องการลดการปล่อยคาร์บอนของเครื่องบินที่มาลงจอดในประเทศถือเป็นโอกาศในระยะสั้น สำหรับในระยะยาวการสนับสนุนการผลิตในปริมาณมากเพื่อส่งออก กำลังจะกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจของไทยที่สามารถทะยานขึ้นเป็นผู้นำด้านการผลิต และจำหน่ายเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuels: SAF ในภูมิภาคให้สำเร็จได้ในที่สุด ..

…………………………………….

คอลัมน์ : Energy Key

By …โลกสีฟ้า

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-

Sustainable Aviation Fuels | US DOE :-

https://www.energy.gov/eere/bioenergy/sustainable-aviation-fuels

Sustainable Aviation Fuels (SAF) | ICAO :-

https://www.icao.int/environmental-protection/pages/SAF.aspx

Lawmaker Proposes Raising EU Green Jet Fuel Target to 100% by 2050 :-

Sustainable Aviation Fuels | Shell :-

https://www.shell.com/business-customers/aviation/the-future-of-energy/sustainable-aviation-fuel.html

What is Sustainable Aviation Fuel? | ATAG :-

https://aviationbenefits.org/faqs/what-is-sustainable-aviation-fuel/

Power – to – Liquids, Explained | Airbus :-

https://www.airbus.com/en/newsroom/news/2021-07-power-to-liquids-explained

Ineratec Raises EUR 20m to Scale up Sustainable Fuel Production :-

https://renewablesnow.com/news/ineratec-raises-eur-20m-to-scale-up-sustainable-fuel-production-770220/

Sustainable Aviation Fuel Market Size, Share, Demand by 2030 :-

https://www.alliedmarketresearch.com/sustainable-aviation-fuel-market-A13064

Power to X Technology: Future Fuels Accelerating Decarbonisation :-

https://photos.app.goo.gl/f82CctT33C7ZdrN19

Synthetic Fuel Gas : Gasification of Plastic Waste & Biomass to SynGas or from Power to X Technology :-

https://photos.app.goo.gl/dDGTMm9r6qM29XxVA

SAF: Sustainable Aviation Fuel & Power to Liquid Technology for Aviation Sector :-

https://photos.app.goo.gl/RF78hHU12R6SyLbM7

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img