“มั่นคง”ชี้“ทหารปฏิวัติ” ปั่นข่าวสร้างกระแสลงถนน

รมว.กลาโหม สั่งเหล่าทัพช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรู พร้อมบูรณาการร่วมกับส่วนราชการในการแก้ไขปัญหา 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 1 ต.ค.2565 จากสถานการณ์พายุดีเปรสชั่น “โนรู” ส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม 

@@@……พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยใช้ทุกศักยภาพที่มีอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับส่วนราชการต่าง ๆ และดำรงความต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ กองทัพไทย โดย สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และส่วนราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดกำลังสนับสนุนรัฐบาล โดยบูรณาการความร่วมมือกับกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และส่วนราชการต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุทันที 

@@@……โดย ศูนย์บรรเทาสาธารภัย สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้จัดกำลังพลร่วมบรรจุกระสอบทราย เพื่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม  ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ดำเนินการขนย้ายสิ่งของให้แก่ประชาชนเพื่อนำไปไว้ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว มอบน้ำดื่มสะอาด และถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ประสบภัย ตลอดจนสนับสนุนรถประปาสนามผลิตน้ำอุปโภคบริโภค และรถสุขาเคลื่อนที่ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้งสำรวจระดับน้ำท่า เสริมแนวคันกั้นน้ำ ปรับทางน้ำไหล ตรวจสอบความแข็งแรงคอสะพาน ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แนวทางการดำเนินการตามแผนบรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทย พ.ศ.2560 

@@@……นอกจากนี้ ได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็วของหน่วย จัดชุดบรรเทาสาธารณภัยประกอบทางอากาศยาน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดและการส่งผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน ทั้งนี้ได้มีการจัดกำลังจากส่วนกลาง ได้แก่ การจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่จากสำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร การจัดรถยนต์บรรทุก และรถสไลด์ จากกรมยุทธบริการทหาร การจัดกำลังพลและรถยนต์บรรทุก เรือท้องแบนพร้อมเครื่องติดท้าย จากกรมการสื่อสารทหาร การจัดกำลังพลและรถยนต์บรรทุก จากสำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย รวมทั้งจัดกำลังพลพร้อมเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ จากกรมแผนที่ทหารเพื่อประกอบกำลังในการสนับสนุนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และส่วนราชการในพื้นที่ในการแก้ไขสถานการณ์ ทั้งนี้ประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

@@@……ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประชุมติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยทหารทั่วประเทศ โดย ผบ.ทบ.ได้ขอบคุณกำลังพลในทุกพื้นที่ที่เข้าช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ปัจจุบันยังคงต้องเฝ้าระวังอิทธิพลของพายุโนรู ที่จะส่งผลกระทบกับพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้มีฝนตกหนักในสัปดาห์นี้ กำชับให้เน้นเรื่องการลดผลกระทบ และรักษาทรัพย์สินของประชาชนมิให้เสียหายจากอุทกภัย ส่วนการดูแลช่วยเหลือให้อยู่บนพื้นฐานเกี่ยวกับปัจจัย 4 คือ ที่อยู่อาศัย อาหาร การแพทย์ รวมทั้งเครื่องมือในการประกอบอาชีพ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติ ส่วนเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาที่เดือดร้อนจากอุทกภัย ให้หน่วยทหารทุกพื้นที่เข้าดูแลช่วยเหลือตามแนวทางที่กองทัพบกเคยดำเนินการ ได้แก่ การช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนเกิดอุทกภัย หรือการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ถูกน้ำท่วมเพื่อลดความเสียหาย รวมทั้ง “เปิดค่ายตากข้าวช่วยชาวนา” โดยใช้พื้นที่ว่าง อาคาร โรงรถ ถนนในค่ายทหารเป็นพื้นที่ตากข้าวลดความชื้นรักษาคุณภาพข้าวให้กับเกษตรกร

@@@……วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ได้ให้การต้อนรับ นาง suchitra Durai (สุจิตรา ทุไร) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดีย ในโอกาสที่ ออท. อินเดีย/ไทย ครบวาระในการปฏิบัติหน้าที่ โดยทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมความสัม พันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน และมีความผูกพันทั้งในด้านศิลปะวัฒนะธรรมประเพณีภาษาและศาสนา รวมทั้งในปี 65 อินเดียได้ประกาศให้เป็นปี ASEAN-India Friendship Year เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย อีกด้วย และได้ชื่นชมความสัมพันธ์ทางทหารที่ทั้งสองประเทศมีร่วมกันมาอย่างยาวนานในด้านความมั่นคงความร่วมมือทางด้านการฝึกการศึกษาและความร่วมมือทางด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางไซเบอร์ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมภายใต้มุมมองอาเซียนต่ออินโดแปซิฟิก และได้มีการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจตลอดจนส่งเสริมการเชื่อมโยงการขับเคลื่อนความร่วมมือในการพัฒนาการลงทุนการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการเชื่อมโยงการคมนาคมทั้ง ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ

@@@……เนื่องในโอกาสวันครบ 105 ปี  วันพระราชทานธงชาติไทย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูง ข้าราชการ และหน่วยงานในกองบัญชาการกองทัพบกได้ร่วมกันขับร้องเพลงชาติและแสดงความเคารพธงชาติในการเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาในเวลา 08.00 น. เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตราพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2460 ประกาศให้ “ธงไตรรงค์” เป็นธงชาติไทยสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน 

@@@……ธงชาติ คือ สัญลักษณ์แห่งความเป็นชาติไทยที่กองทัพต้องธำรงไว้ โดยทุกหน่วยทหารของกองทัพบกจะให้ความสำคัญในการปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องกับธงชาติในทุกภารกิจ โดยเฉพาะการแสดงความเคารพธงชาติ การเชิญธง การประดับธง ที่จะต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติและมีความสง่างามในทุกโอกาส ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกให้หน่วยทหารทุกหน่วยของกองทัพบกประดับธงชาติไทยอย่างสมเกียรติ ณ ที่ตั้งหน่วย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความภาค ภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย 

@@@……พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึง การปฏิบัติงานของกองทัพบกในปี 2565 ตามเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบกที่ได้มอบไว้เป็นแนวทางให้กับทุกส่วนราชการในกองทัพบก และกำลังพลทุกนายยึดถือปฏิบัติ 3 ประการ ได้แก่ “พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน” สำหรับพันธกิจตามเจตนารมณ์  “รักษาแผ่นดิน” ที่สำคัญ คือ การผนึกกำลังทุกภาคส่วน เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาอธิปไตยและสร้างความมั่นคงในพื้นที่แนวชายแดนและดำรงความเข้มข้นในการปฏิบัติภารกิจแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

@@@……โดยตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ได้ห่วงใยต่อกำลังพลที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและทุ่มเทในการสกัดกั้นสิ่งเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย แม้ขบวนลำเลียงยาเสพติดจะเปลี่ยนวิธีการและเส้นทาง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังสามารถติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ผบ.ทบ.ได้สั่งการเพิ่มเติมกำลังในปฏิบัติภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ตั้งแต่ ธ.ค. 64 – ส.ค. 65 เพื่อลดช่องว่าง และเสริมกำลังปฏิบัติในพื้นที่ล่อแหลมเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอันจะนำมาสู่การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในพื้นที่ตอนในของประเทศ

@@@……รวมถึงพัฒนาและเสริมสร้างระบบเฝ้าตรวจชายแดนกองทัพบกให้มีประสิทธิภาพด้วยการแสวงประโยชน์จากยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่แล้วในกองทัพบกมาใช้ให้เกิดความคุ้มค่าและเป็นประโยชน์สูงสุด อีกทั้งพัฒนาสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับกองกำลังป้องกันชายแดนตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบเฝ้าตรวจชายแดนกองทัพบก โดยมีกองกำลังสุรนารีเป็นกองกำลังต้นแบบ อาทิ การจัดกำลังเพิ่มเติมชุดเรดาร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในระบบเฝ้าตรวจป้องกันชายแดน และจัดชุดต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Anti Drone) ให้กับกองกำลังป้องกันชายแดน  ตลอดจนใช้มาตรการด้านการข่าวโดยนำข้อมูลจากผลการซักถามผู้ที่ถูกจับกุมมาขยายผลพิสูจน์ทราบเครือข่ายผู้กระทำผิด ทำให้มีผลการปฏิบัติที่สามารถป้องกันการลักลอบกระทำผิดกฎหมายเป็นที่น่าพอใจ

@@@……กองทัพบกมีนโยบายในการบริหารจัดการยุทโธปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการปฏิบัติงานอย่างคุ้มค่าและสนองตอบต่อภารกิจหลัก ซึ่งเป็นนโยบายที่ พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ให้ความสำคัญ มุ่งเน้นการยกเลิกหรือลดจำนวนโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ราคาสูงจากต่างประเทศให้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้านโยบายนำยุทโธปกรณ์และยานพาหนะที่หมดอายุการใช้งานไปแลกเปลี่ยนเป็นยุทโธปกรณ์ใหม่ทดแทน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและมียุทโธปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจ อาทิ เฮลิคอปเตอร์ ยานพาหนะสายขนส่ง และการนำเรือยนต์บรรทุกแลกเปลี่ยนเป็นเรือใหม่ เพื่อสนับสนุนกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก การดำเนินการแลกเปลี่ยนในลักษณะดังกล่าวสามารถช่วยลดงบประมาณการจัดหาใหม่ได้ 700 ล้านบาท และยังได้ดำเนินการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์เพื่อยืดอายุการใช้งาน และดำรงสภาพเพื่อความพร้อมของหน่วย 

@@@……นอกจากนี้กองทัพบกยังได้พัฒนาขีดความสามารถด้านการเคลื่อนย้ายกำลังรบตามแผนเผชิญเหตุ ด้วยการจัดหา และซ่อมแซมอากาศยาน รถยนต์บรรทุก รถพ่วงกึ่งชานต่ำ หรือรถลากจูงให้พร้อมสำหรับการเคลื่อนย้ายกำลังตามแผนปฏิบัติการของกองทัพบกในด้านการปรับปรุงยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของกองทัพบก เป็นไปตามนโยบายการใช้ยุทโธปกรณ์อย่างคุ้มค่า ได้แก่ การปรับปรุงเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ 145 จำนวน 6 เครื่อง เป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาลโดยได้ติดตั้งอุปกรณ์ และเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็น รองรับภารกิจการส่งป่วยวิกฤตฉุกเฉิน และการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกล โดยตั้งแต่เดือน ธ.ค. 64 กองทัพบกได้ให้การสนับสนุนอากาศยานลำเลียงผู้ป่วยร่วมกับทีมแพทย์ในสังกัดกองทัพบก และทีมแพทย์ฉุกเฉินสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติรวม 68 ภารกิจ

@@@……ทั้งนี้ กองทัพบกได้ปรับระบบรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธของหน่วยทั้งด้านกายภาพและระบบควบคุม โดยใช้ขีดความสามารถของทหารช่าง ในการก่อสร้างคลังอาวุธเพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งการดัดแปลงตู้คอนเทนเนอร์เป็นคลังเก็บสิ่งอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมความชื้น เพื่อใช้เก็บรักษายุทโธปกรณ์มูลค่าสูง และนำไปติดตั้งใช้งานสนับสนุนภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดน และหน่วยงานสำคัญอื่นๆ พร้อมปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยคลังอาวุธของหน่วยต่างๆ เพื่อใช้เก็บรักษา อาวุธประจำกายและยุทโธปกรณ์ ให้เหมาะสม ปลอดภัย และรัดกุมมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยคลังอาวุธของหน่วย จำนวน 636 คลัง คิดเป็นร้อยละ 50 นอกจากนี้กองทัพบกยังได้พัฒนาระบบสารสนเทศในงานด้านการส่งกำลังบำรุง (LOGSMIS) เพื่อการบริหารจัดการสิ่งอุปกรณ์ โดยระบบดังกล่าวได้มีการพัฒนาและทดลองใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปีที่ผ่านมาได้มีการปรับเพิ่มด้านการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลในการเชื่อมต่อกับระบบ PDX ซึ่งจะเพิ่มความรัดกุม และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น

@@@……ที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิสสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วย นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้บังคับบัญชา และผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองหน่วยงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ในพื้นที่กองทัพเรือแห่งแรก  โดย พล.ร.อ. สมประสงค์ กล่าวว่า กองทัพเรือ มีแนวคิดปรับเปลี่ยนรถธุรการของทางราชการจากที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า การที่ กฟผ. ได้ร่วมกับกรมส่งกำลังบำรุงทหารเรือ จัดตั้งสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้า สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ในบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยานแห่งนี้เป็นผลสำเร็จ 

@@@……นับเป็นก้าวประวัติศาสตร์ของ กองทัพเรือที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้บรรลุป้าหมายการก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า  หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ ในประเทศ ภายในปี 2573 สถานีอัดประจุไฟฟ้าแห่งนี้จะช่วยส่งสริมให้กำลังพลของกองทัพเรือหันมาสนใจรถยนต์ฟฟ้าจนนำไปสู่การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต ในขั้นต้นนี้กองทัพเรือตั้งเป้าที่จะติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ารวม 2 สถานี ได้แก่ วังนันทอุทยาน และ  อีก 1 สถานี ในพื้นที่พระราชวังเดิม โดยดำเนินการในรูปแบบสวัสดิการแก่กำลังพลกองทัพเรือ เพื่อนำร่องสำหรับรูปแบบที่เหมาะสมในพื้นที่อื่น ๆ ของกองทัพเรือต่อไป

@@@……สถานี EleX by EGAT ณ วังนันทอุทยาน แห่งนี้ เป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่ราชการแห่งที่ 2 ประเภทกระแสสลับชาร์จความเร็วปกติ ขนาดกำลังไฟฟ้า 22 กิโลวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง สามารถชาร์จได้ทั้งรถแบบ Plug-in hybrid และBattery EV ปัจจุบัน กฟผ. เปิดให้บริการสถานี EleX by EGAT พร้อมสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้วจำนวน 78 สถานี ทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ Elex by EGAT ให้มีจำนวนรวมกว่า 120 สถานีให้ได้ภายในสิ้นปี 2565 นี้ เพื่อครอบคลุมการเดินทางทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น

@@@……การประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร หลังสถานการณ์โควิดดีขึ้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ถือเป็นการปรับท่าทีการ ดำเนินการภาครัฐตามสถานการณ์ที่เหมาะสม เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงโควิด – 19 ที่คุกคามความมั่นคงของประเทศ ได้คลี่คลายลงแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องคงมาตรการเข้มงวดลักษณะนี้อีกต่อไป .. อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า ยังไม่มีประเด็นเงื่อนไขร้ายแรงใด ๆ ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองจนไม่สามารถควบคุมได้เกิดขึ้น 

@@@……ทั้งนี้ การวินิจฉัยชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด การละเมิดอำนาจศาล และการชุมนุมลงถนนผิดกฎหมายด้วยความรุนแรง รวมทั้ง ข่าวลือการปฏิวัติรัฐประหาร ก็เป็นเพียงข่าวปล่อยเพื่อปั่นข่าวสร้างกระแสของ กลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น .. แต่เพื่อความไม่ประมาท ฝ่ายความมั่นคง ได้มีการเตรียมแผนปฏิบัติไว้ และพร้อมอยู่ หากเกิดสถานการณ์ชุมนุมก้าวร้าวรุนแรงผิดกฎหมายขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะเป็นหน่วยหลักในการเข้าคลี่คลายสถานการณ์ และฝ่ายทหาร ก็จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกฏหมาย 

@@@……ฝ่ายความมั่นคง เชื่อมั่นว่า ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ เข้าใจและติดตามสถานการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างดี การชุมนุมผิดกฎหมายด้วยความรุนแรงนั้น คือ กฎหมู่ มิใช่วิถีทางประชาธิปไตย การเลือกตั้งทั่วไปที่ใกล้จะมาถึงต่างหาก คือ วิถีทางประชาธิปไตยที่ประชาชนคนไทยจะเป็นผู้ชี้ทิศทางการเมืองไทยที่แท้จริงได้ ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง ยังคงมุ่งมั่นปกป้องสถาบันหลัก ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต่อเนื่องต่อไป เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของประเทศจะได้รับการประกัน.

……………

 คอลัมน์ : “Military Key”

 โดย.. “รหัสมอร์ส”