“วันกองทัพไทย” พิธีสาบานตน ใครทรยศแผ่นดินต้องตาย

กำลังพลทั่วประเทศกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ใน “วันกองทัพไทย” เพื่อยึดมั่นและรักษาคำสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 21 ม.ค.2566 ช่วงนี้อากาศเมืองไทยเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว บางพื้นที่ก็ฝนตก ก็ขอให้รักษาสุขภาพกันด้วย  

@@@……เพิ่งจะผ่าน “วันกองทัพไทย” ไปเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2566 โดยทางกองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดงานวันกองทัพไทย ประจำปี 2566 ที่มี พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีฯ ณ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ โดยวันกองทัพไทย ตรงกับวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี ถือเป็นวันที่ชาวไทยทุกคนจะได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรกษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพชนของไทยที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้เป็นมรดกตกทอดมาจนทุกวันนี้ 

@@@……ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพไทย ซึ่งประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจในความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเฉพาะ การพิทักษ์รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งกองทัพไทยถือเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งในการถวายความปลอดภัย เผยแพร่พระปฐมบรมราชโองการ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักในการปฏิบัติงาน เพื่อสนองพระราชปณิธานในการสร้างความกินดี อยู่ดี เสียสละเพื่อส่วนรวมให้กับประชาชนชาวไทย รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” โดยมุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งยังดำรงความพร้อมในภารกิจด้านการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงของรัฐ การพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศ ทั้งนี้ กองทัพไทย ขอยืนยันความพร้อมในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน รวมทั้งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจะเสริมสร้างความเข้มแข็งของกองทัพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงของรัฐสืบไป 

@@@……ด้านกองทัพบก ได้จัดงาน “วันกองทัพไทย” และ “วันกองทัพบก” เป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งของเหล่าทหาร และในทุกปีกองทัพบกได้ประกอบพิธีและจัดกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์และบรรพชนที่เสียสละปกป้องแผ่นดินไทย ดำรงเอกราชเป็นราชอาณาจักรไทยจวบจนทุกวันนี้ รวมทั้งเพื่อให้เหล่าทหารได้ตระหนักและยึดมั่นในอุดมการณ์ เนื่องในโอกาสวันกองทัพบกประจำปี 2566 นี้ กองทัพบกได้เผยแพร่สารคดีพิเศษ 10 ตอน ชื่อชุด “กองทัพบก กองทัพคู่แผ่นดิน” นำเสนอความกล้าหาญและเสียสละเพื่อปกป้องแผ่นดินของบูรพกษัตริย์และบรรพชน สู่จิตวิญญาณทหารบกไทย ภายใต้อุดมการณ์ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน อย่างมั่นคงคู่แผ่นดินไทยตลอดไป

@@@……นอกจากนี้ในวันที่ 18 ม.ค.66 กองทัพบกและหน่วยทหารทั่วประเทศ ยังได้จัดพิธีทางศาสนาทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษ และวีรชนทหารกล้าที่สละชีวิตปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศชาติในสมรภูมิต่างๆ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และพิธีถวายราชสักการะแด่บูรพกษัตริย์ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ทั่วประเทศ พิธีสำคัญที่จัดขึ้นในวันกองทัพบกปีนี้ คือ “พิธีสวนสนามกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจำปี 2566” ซึ่งหน่วยทหารทั่วประเทศจะประกอบพิธีดังกล่าวพร้อมกัน เพื่อกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งเป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทยและเป็นหลักชัยของทหารทั้งปวง เป็นพิธีเพื่อให้ทหารได้ยึดมั่นและรักษาคำสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติอย่างดีที่สุด และยังแสดงถึงการเป็นทหารอย่างสมบูรณ์ กองทัพบกมุ่งเน้นดำเนินการตามแบบธรรมเนียมทหาร ที่ยึดถือปฏิบัติมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ให้ทหารตระหนักในภาระหน้าที่ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ มุ่งประโยชน์ส่วนรวมและความสงบสุขของประชาชน ดำรงตนในฐานะทหารของแผ่นดินอย่างเต็มภาคภูมิ

@@@……ประเทศไทย เป็นชาติในเอเซียชาติเดียวที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของชาติใด และไม่เคยเป็นอาณานิคมของชาติในยุโรป และสหรัฐฯ ในยุคล่าอาณานิคม .. ไทย คือ ชนชาติที่มีอิสระ เสรีภาพ ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ มาโดยตลอด และจะดำรงเอกราช และอธิปไตยเช่นนี้อยู่ต่อเนื่องต่อไป สำหรับกองทัพไทยนั้น วันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา ถือเป็น “วันกองทัพไทย” เรียกกันอีกอย่างว่า “วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” หรือ “วันยุทธหัตถี” ที่ประชาชนคนไทยทั้งปวงยังคงต้องจดจำไว้ตลอดไป ทั้งนี้ การสวนสนามสาบานธงในวันกองทัพไทยนั้น จึงถือเป็นเสมือนพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา สาบานต่อธงชัยเฉลิมพลของทหารใหม่ และกำลังพลของกองทัพว่าจะไม่ทุรยศต่อแผ่นดิน และหากไม่ทำเช่นนั้น หรือละเมิดต่อคำสาบาน ก็จะต้องตาย หรือมีอันเป็นไปนั่นเอง ซึ่งเหล่าทหารหาญ ถือว่าพิธีดังกล่าว เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่ทหารทุกนายจะต้องผ่านมาแล้วทั้งสิ้น 

@@@…… พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ (นพช.) ครั้งที่ 1 โดยที่ประชุมได้รับทราบ ผลการประเมินการขับเคลื่อนแผนการพัฒนาพื้นที่ เพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ ปี62-65 ซึ่งมีความสำเร็จที่มีนัยสำคัญ ได้แก่ ค่าเป้าหมายของตัวชี้วัดจากการที่จังหวัดประกาศพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคง ครบทุกจังหวัด และมีการจัดทำแผนการพัฒนา เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่ครบทุกแผน และมีแผนปฎิบัติการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน พื้นที่ชายฝั่งทะเล เกาะแก่ง และชุมชนพื้นที่สูง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ ของแผนการพัฒนาพื้นที่ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน และลดเงื่อนไขของปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดยมุ่งเน้นการบูรณาการทำงาน ด้านความมั่นคง ควบคู่กับการพัฒนา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการป้องกันประเทศ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่เป้าหมาย ที่กำหนดผ่านกลไกการประเมินระดับจังหวัด

@@@…… จากนั้นที่ประชุม ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ (ร่าง) แนวทางการบริหารจัดการเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ ปี66-70 ทั้งนี้ สมช.ได้ให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายและแผนความมั่นคงที่ 17 ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนโยบายและอำนวยการ  ระดับภาค ระดับจังหวัด จนถึงระดับตำบล ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ กำชับ สมช. ให้ดำเนินการส่งมอบแนวทางการกำหนดพื้นที่เป้าหมายให้ก.มหาดไทย แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด เพื่อดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยึดถือนโยบายและแผนความมั่นคงที่ 17 การเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ เป็นแนวทางหลักในการดำเนินงาน เพื่อรองรับการขับเคลื่อนงานการเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ห้วงปี66-70 โดยเน้น การบูรณาการทำงานร่วมกันทุกมิติให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ให้มีความอยู่ดีกินดี มีความสุขร่วมกันอย่างยั่งยืน 

@@@……พล.อ.ธิติชัย  เทียนทอง เสนาธิการทหาร เข้าร่วมประชุม IISS Shangri-La Dialogue Sherpa meeting ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 15-17 ม.ค. 2566  ณ โรงแรม Shangri-La ประเทศสิงคโปร์ การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ เป็นการเตรียมประชุม Shangri-La Dialogue ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 มิ.ย. 2566 โดยจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านต่าง ๆ เช่น การฝึกศึกษา การฝึกร่วม การข่าวกรอง และการปฏิบัติการร่วม อันจะนำไปสู่การสร้างความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกต่อไป 

@@@……กองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในการจัดงาน เนื่องในวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ ประจำปี 2566 ณ อนุสรณ์เรือหลวงธนบุรี โรงเรียนนายเรือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยพิธีประกอบด้วย การวางพวงมาลา อ่านคำสดุดีวีรชนกองทัพเรือ และการจัดพิธีสงฆ์ เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของวีรชนทหารเรือที่เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ ความกล้าหาญของเหล่าวีรชนยังคงอยู่ในจิตใจของทหารเรือทุกนายตราบจนปัจจุบัน ทั้งนี้ ได้มีผู้ร่วมรบในสมรภูมิสำคัญของกองทัพเรือ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2543 เข้าร่วมในพิธี ได้แก่ นาวาเอก ประทีป อนุมณี วีรชนจากสมรภูมิบ้านดุซงญอ จ.นราธิวาส และ นาวาโท บัญญัติ ฆารกุล วีรชนจากสมรภูมิดอนน้อย กลางลำแม่น้ำโขง ชายแดนไทย – ลาว บ้านโพนลา ต.โพนลา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

@@@……พิธีสดุดีวีรชนและบำเพ็ญกุศลแด่วีรชนของกองทัพเรือ เป็นพิธีสำคัญที่กองทัพเรือจัดขึ้นเป็นประจำ ในวันที่ 17 ม.ค. ของทุกปี เพื่อให้ทหารเรือทุกคนได้แสดงความเคารพ และระลึกถึงวีรกรรมของบรรพบุรุษทหารเรือที่ได้ทำการรบอย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ และยอมพลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติจากศัตรูที่รุกรานแผ่นดินไทย ประวัติศาสตร์ได้จารึกความกล้าหาญของทหารเรือไทยในยุทธนาวีที่เกาะช้าง ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2484 โดยฝรั่งเศสได้ส่งกำลังทางเรือประกอบด้วยเรือลาดตระเวนลามอตต์ปิเกต์ เป็นเรือธง เรือสลุป 2 ลำ และเรือปืน 4 ลำ เรือสินค้าขนาดใหญ่ติดอาวุธ 1 ลำ เรือดำน้ำ 1 ลำ เข้ารุกล้ำน่านน้ำไทยบริเวณเกาะช้าง จ.ตราด เพื่อจะเข้าระดมยิงหัวเมืองชายทะเลทางภาคตะวันออกของประเทศ ทั้งนี้ กำลังทางเรือของไทยที่รักษาการณ์อยู่ในบริเวณนั้นประกอบด้วย เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงชลบุรี และ เรือหลวงสงขลา ภายใต้การบังคับบัญชาของ นาวาโท หลวงพร้อมวีรพันธุ์ ผู้บังคับการเรือหลวงธนบุรี แม้ว่าจะเสียเปรียบด้านกำลังรบอย่างมาก แต่วีรชนทหารเรือไทยได้ต่อสู้อย่างสุดกำลังความสามารถ จนต้องสูญเสียเรือรบทั้ง 3 ลำไป พร้อมชีวิตนายทหารและลูกเรือ รวมทั้งสิ้น 36 นาย รวมถึง นาวาโทหลวงพร้อมวีรพันธุ์ แต่เป็นที่น่าภูมิใจว่าด้วยกำลังทางเรือของกองทัพเรือไทย สามารถทำให้ข้าศึกได้รับความเสียหายจนต้องล่าถอยไปในที่สุด

@@@……สำหรับการรบครั้งสำคัญที่ทหารเรือได้พลีชีพเพื่อชาติและราชนาวี เมื่อครั้งสงครามโลก ครั้งที่ 2 กองทัพเรือได้รับมอบภารกิจจัดเรือไปบรรทุกน้ำมัน ซึ่งเป็นยุทธปัจจัยสำคัญจากสิงคโปร์มายังประเทศไทย โดยในครั้งนั้น เรือหลวง สมุย ได้ปฏิบัติภารกิจลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิง แม้ทราบว่าเส้นทางลำเลียงอยู่ในเขตปฏิบัติการของเรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตรก็ตาม ในการเดินทางเที่ยวสุดท้าย เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2488 เรือหลวงสมุย ได้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตร จนจมลงที่บริเวณนอกชายฝั่งรัฐตรังกานู ทำให้กองทัพเรือต้องสูญเสียทหารผู้กล้าไปจำนวน 31 นาย รวมถึงสูญเสียกำลังพล ในการต่อสู้ป้องกันการโจมตีทางอากาศ จากฝ่ายสัมพันธมิตรในแต่ละพื้นที่ในคราวเดียวกันนี้อีก 7 นาย

@@@……นอกจากนี้ยังมียุทธการสำคัญที่ทำให้กองทัพเรือต้องสูญเสียทหารเรือผู้กล้าไปเป็นจำนวนมาก เช่น สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม การปราบปรามผู้ก่อการร้ายตามแผนยุทธการสามชัย จังหวัดเพชรบูรณ์ ยุทธการผาภูมิ ณ บริเวณดอยผาจิ จังหวัดเชียงราย การเข้ายึดค่ายกรุงชิง จ.นครศรีธรรมราช ยุทธการดอนน้อย จ.หนองคาย การรบที่บ้านชำราก จ.ตราด เหตุการณ์เรือ ต.98 ปะทะกับเรือประมงติดอาวุธไม่ปรากฏสัญชาติที่ จ.ระนอง รวมไปถึงการปฏิบัติภารกิจ เพื่อความสันติสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยุทธการเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการเสียสละ เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยแลกไว้ด้วยชีวิตของวีรชนทหารเรือ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีชีวิตอยู่อย่างสันติสุข

@@@……ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเสมือนปัญหาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายมีแนวโน้วเกิดขึ้นต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงขึ้นมาก เพียงช่วง 1 สัปดาห์ ฝ่ายความมั่นคง ได้จับกุมต่างชาติที่กำลังเดินทางลักลอบเข้าเมืองตามแนวตะเข็บชายแดนมากกว่า 50 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญ ในพื้นที่ชายแดน จ.ประจวบ จ.กาญจนบุรี จ.มุกดาหาร จ.เชียงราย และ จ.ตาก ซึ่งยังไม่ได้นับการจับกุมแรงงานเถื่อน และแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายที่เข้ามาพักคอยในพื้นที่ชุมชนชั้นในแล้วอีกเป็นจำนวนมากด้วย โดยส่วนหนึ่ง ตั้งใจจะเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียด้วยการใช้ไทยเป็นทางผ่าน เช่น การจับกุมแรงงานเถื่อนที่พระประแดง จ.สมุทรปราการ จ.สงขลา และจ.จันทบุรี เป็นต้น 

@@@……ทั้งนี้ กระบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายเหล่านี้ เชื่อว่า มีกลุ่มคนไทย และข้าราชการฝ่ายปกครองส่วนหนึ่ง เกี่ยวข้องเป็นกระบวนการอยู่ด้วย โดยเฉพาะในขั้นตอนการจัดทำประวัติ และบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว เช่นในบางจังหวัด ซึ่งพบพฤติกรรมว่าอาจมีข้าราชการร่วมทุจริตตบทรัพย์ในกรณีดังกล่าวอย่างเป็นกระบวนการ ในการนี้ ฝ่ายความมั่นคง ได้ประสานงานกับผ่ายปกครอง และผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง รวมทั้งตรวจสอบ พิสูจน์ทราบ และวางแผนที่จะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยเร็ว เพื่อป้องกันมิให้ปัญหาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายเหล่านี้ ขยายตัวขึ้นไปอีกกลายเป็นปัญหาความมั่นคงจากภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ต่อเนื่องไปถึงปัญหาการค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ยาเสพติด และการค้าของเถื่อนในระยะยาว และเพื่อมิให้มีกลุ่มอิทธิพลธุรกิจสีเทาสามารถแสวงประโยชน์อันมิชอบลักษณะนี้ได้อีกต่อไป.

 ………………………………….

 คอลัมน์  : “Military Key”

 โดย… “รหัสมอร์ส”